27 ม.ค. 2020 เวลา 14:44 • ครอบครัว & เด็ก
ทำไมคนโบราณจึงใช้กล้วยน้ำว้าเลี้ยงเด็กทารกได้
กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้า ถ้าพูดถึงหลายๆคนคงนึกถึงรสสัมผัสนิ่มๆ ฝาดๆ หวานจางๆ กินแล้วจุก อยู่ท้องไปหลายชั่วโมง รวมถึงท้องอืด
จากการสอบถามคุณแม่ของผู้เขียน
แม่บอกว่า คนโบราณ(รวมถึงตัวแม่เอง) จะค่อนข้างเลือกกล้วยที่จะมาป้อน
เด็กทารก (ไม่ได้เดินดุ่ยๆไปตลาดแล้วซื้อแบบในปัจจุบัน)
จะเป็นการเลือกกล้วยลูกใหญ่ที่สุกงอม คือกล้วยมีการเปลี่ยนสีเปลือกเป็นสีดำบ้างแล้ว และเนื้อภายในนุ่มเละ(เพราะแป้งในกล้วยจะถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลแล้ว)
อีกทั้งคนที่ป้อนเด็ก บางครั้งมีการเคี้ยวกล้วยก่อน "เอนไซม์อะไมเลส"ในน้ำลายจะช่วยย่อยแป้งในกล้วยที่ยังเหลืออยู่ให้หมดไป (นึกภาพเคี้ยวกล้วยจนเละแล้วเอามาป้อนเด็กตาม)
พูดให้เข้าใจง่ายๆคือ
- คนโบราณปลูกกล้วยไว้กินเองที่บ้านแบบออร์แกนิก ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ไม่ฉีดยากันแมลง
- ปล่อยให้กล้วยสุกคาต้นแล้วค่อยเอามากิน หรือถ้าจะเอามาป้อนเด็กทารกจะปล่อยให้กล้วยสุกเองตามธรรมชาติจนงอมเกือบดำ
- หรือเคี้ยวกล้วยด้วยปากของ"คุณแม่"เพื่อให้เอนไซม์อะไมเลสช่วยย่อยแป้งในกล้วยที่ยังเหลืออยู่ ค่อยเอามาป้อนเด็กทารก
เด็กกับหมา
แต่ทำไมหมอแผนปัจจุบันไม่ค่อยอยากให้ใช้กล้วยน้ำว้าเลี้ยงเด็กทารก?
- กล้วยสมัยนี้ไม่ได้สุกเองตามธรรมชาติ มีการเก็บกล้วยดิบเพื่อมาบ่มให้สุกก่อนเวลา ทำให้การเปลี่ยนแป้งไปเป็นน้ำตาลจะลดน้อยลง
- ในปัจจุบัน คนเลือกกล้วยให้เด็กทารกเป็นกล้วยที่สีเหลืองสวยงาม แถมไม่เคี้ยวกล้วยในปากแล้วคายไปป้อนเด็กเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ก็เลยทำให้แป้งไม่ถูกย่อยด้วยเอนไซม์อะไมเลสในน้ำลาย
- เด็กทารกความสามารถในการย่อยแป้ง(ที่ยังเหลืออย่ในกล้วยสุก) น้อยกว่าผู้ใหญ่
โฆษณา