28 ม.ค. 2020 เวลา 09:46 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ข่าวการระบาดของเชื้อไวรัสปอดอักเสบอู่ฮั่นกลายเป็นข่าวที่ทุกคนจับตามองโดยเฉพาะวันนี้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ยิ่งทำให้ผู้คนแตกตื่นกันมากขึ้น บ้างลือว่าทางการจีนปกปิดข้อมูล บ้างก็บอกว่าจีนควบคุมไม่อยู่แล้ว ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรนั้นก็ขอให้ทุกท่านตามข่าวโดยมีสติ อย่าตระหนกไปกับข่าวที่ได้รับจนพาลให้เราเสียสุขภาพจิตจะดีกว่าครับ
โดยส่วนตัว ผมเห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีอย่างมีนัยยะในวันนี้อาจเกิดจากการปิดเมืองแล้วเริ่มสำรวจผู้ต้องสงสัยและรวบรวมผู้คนมายังโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่ทำการตรวจและตรวจหลายตัวอย่างไปพร้อมๆ กัน ซึ่งวันนึงอาจจะได้หลายพันตัวอย่างและผลตรวจของวันนั้นๆ ก็ถูกประกาศออกมาพร้อมกัน เลยทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงอย่างรวดเร็วและดูน่ากลัว
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราคงต้องคอยฟังข่าวและวิเคราะห์จำนวนผู้ต้องสงสัยและผู้ติดเชื้อพร้อมจำนวนผู้ที่ได้รับการรักษาจนหาย ซึ่งตัวเลขพวกนี้จะสะท้อนการแพร่ระบาดและการควบคุมสถานการณ์ของทางการจีนได้โดยตรง
มาถึงข้อมูลอีกตัวที่หลายคนคงได้รับการแชร์ภาพนี้กันแล้ว สงสัยไหมครับว่า ทำไมกลุ่มเสี่ยงถึงมีเพียงกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ...
เรื่องนี้สัมพันธ์โดยตรงกับภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ ไวรัสอู่ฮั่นในอีกมุมหนึ่งคือเชื้อไข้หวัด (ระดับความรุนแรงสูง) ดังนั้นการแพร่กระจายเชื้อจึงเหมือนกับไข้หวัด ถ้าร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอเราจะไม่ติดหวัดง่ายๆ
แล้วภูมิคุ้มกันในร่างการมนุษย์มาจากไหน เดี๋ยวผมจะพาไปทำความรู้จักกัน
leafscience.org
ต่อมไทมัส (Thymus Gland) คือ โรงงานสร้างเม็ดเลือดขาวของร่างกายมนุษย์ เพราะว่าต่อมไทมัสจะสร้างฮอร์โมนชนิดนึงที่ชื่อว่า "ไทโมซิน" เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นการแบ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ยังอ่อนอยู่แล้วปรับสภาพไปเป็นเซลล์ที่เจริญเต็มที่ และเซลล์ที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะออกจากต่อมไทมัสไปอยู่บริเวณม้ามและต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกาย เพื่อทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคต่อไป
แต่ต่อมไทมัสจะไม่อยู่กับเราไปตลอด เพราะว่าเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ต่อมนี้จะเริ่มเหี่ยวและกลายเป็นแค่ก้อนไขมันธรรมดาในวัยผู้สูงอายุ
นี้คือสาเหตุว่าทำไมกลุ่มเสี่ยงถึงมีเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุครับ
ดังนั้นแทนที่เราจะมัวแต่ตกใจไปกับข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่น เราหันมาออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง สวมหน้ากากอนามัยเวลาต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน และหันมาดูแลคนใกล้ชิดเราที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกันดีกว่าครับ
โฆษณา