28 ม.ค. 2020 เวลา 13:05 • ความคิดเห็น
ประโยชน์ ของความขัดแย้ง 😈
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "Divergence"
Concept ของ divergence คือความขัดแย้งกันทาง logic ระหว่าง Main core กับตัวย่อยอื่นๆ
ดังนั้นการจะใช้ divergence ให้เหมาะสม เราต้องแน่ใจก่อนว่า Main core ของเรา Strong !! จริงๆ
เวลามีข่าวหรือ วิกฤติใหญ่ แล้วราคาหุ้นตก ทั้งที่ธุรกิจของหุ้นตัวนั้นยังมีการเติบโตต่อเนื่อง และไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงจากข่าวหรือวิกฤติเลย
ตัวอย่างเช่น หุ้น BGRIM ช่วง เดือน พฤศจิกายน ปี 2018 ⚡⚡⚡
ช่วงนั้น มีการประกาศ แผนพัฒนาไฟฟ้า PDP 2018 ออกมาใหม่ ซึ่งประกาศว่า Reserves margin (ไฟฟ้าสำรองของประเทศ) โดยปกติจะต้องมีประมาณ 15% แต่แนวโน้มในปี 2567 จะมีมากถึง 40% ทำให้จะต้องลดการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือ IPP
ในช่วงนั้น ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ลดลงทั้งกลุ่ม รวมถึงหุ้น BGRIM ที่ลดลงจาก 29 เหลือ 23 บาท
แต่ถ้าหากเข้าใจธุรกิจของ BGRIM ที่ลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือ SPP ถึง 90%
โดย 1 โรงไฟฟ้า SPP จะผลิตไฟฟ้าได้ 120-150 MW ซึ่งต้องขายให้กับ EGAT 90 MW ที่เหลือขายให้กับนิคมอุตสาหกรรม
และแผน PDP 2018 ระบุว่า EGAT จะรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP ลดลงเหลือเพียง 30 MW/ 1 โรงงาน SPP
ไฟฟ้าที่เหลือจากการขายให้ EGAT ก็ขายให้นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งรับซื้อในราคาสูงกว่าด้วย
ดังนั้น หากเรามีข้อมูลเพียงพอและถูกต้อง เราก็จะเจอโอกาสในสภาวะที่ทั้งตลาดกำลังกลัว 😈
การใช้ Divergence ในทางเทคนิคอล
ตัวอย่าง กราฟ XAUUSD (ทองคำ)
ส่วนใหญ่ เมื่อราคาทำเทรนลง ขัดแย้งกับเทรนของ Indicator ที่มีทิศทางเป็นขาขึ้น ก็จะเกิดสัญญาณ Buy ในเทคนิคอล (ดังภาพ)
แต่ตามหลักการแล้ว หากความคิดหลัก" Main core" ของเราคิดว่า ในระยะยาวทองคำ ก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าอยู่เสมอ หากราคา Discount ลงมา ก็ถือว่าเกิด Divergence แล้ว
หรือถ้าเราใช้ MA ในการบอก Trend ถ้า Trend ที่ MA บอกแข็งแกร่งจริงๆ การหา Divergence ระหว่าง MA กับ indicator อื่นๆก็จะมีประโยชน์
ขอบคุณครับ😂
โฆษณา