28 ม.ค. 2020 เวลา 12:34 • ความคิดเห็น
เผชิญเรื่องใหญ่มิให้ลนลาน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
เมื่อเพื่อนจีนมีปัญหา รัสเซียก็กระโจนเข้าช่วยอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู พร้อมทั้งส่งทีมออกค้นหาสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ทั้งในทางลับและแจ้ง
รัสเซียคิดว่าถ้าการระบาดนี้เกิดในจีนได้ ก็สามารถเกิดในรัสเซียได้เช่นกัน
หากการกระทำนี้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ก็คงไม่มีมนุษย์ชั่วกลุ่มไหนยอมรับว่าทำ แต่ผมเชื่อทีมรัสเซียว่าจะสามารถหาความจริงได้ในเร็ววัน
ผู้คนในหลายประเทศแสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์คนจีนอย่างออกหน้าออกตา
ผมว่าทุกอย่างในสมัยนี้มีบันทึกไว้ในโซเชียลมีเดีย ต่อไปในอนาคต เมื่อจีนกลับฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ ผู้คนในประเทศที่เคยแสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์ในยามที่จีนเจอหายนะภัย ก็คงจะได้รับการปฏิบัติกลับคืนอย่างสาสมเท่าเทียมกัน
ในโซเชียลมีเดียจีน มีการพูดถึงการปฏิบัติต่อคนจีนอย่างไม่ดีกันเยอะ
โรงแรม ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้าที่ปฏิเสธคนจีน ถ้าปฏิเสธอย่างสุภาพและให้เกียรติ ผมว่าคนจีนเข้าใจและรับได้
แต่ถ้าปฏิเสธด้วยอาการรังเกียจเดียดฉันท์ขนาดรีบไล่ออกนอกร้าน หรือปิดประตูใส่หน้าอย่างแรง อย่างนี้ไม่ควรทำ
นึกถึงใจเขาใจเรา พวกเขามาเที่ยว และไม่ได้มีสิ่งยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่ จากความสำราญเบิกบานใจที่ได้มาพักผ่อน กลายเป็นความเก็บกดและอึดอัดคัดใจอย่างน่าเสียดาย
หลายท่านเชื่อว่ายาสมุนไพรของตนวิเศษ เอาไปต้มน้ำกิน ซื้อแบบผงเอาไปชงละลายกับน้ำ ก็จะสามารถรักษาไวรัสมรณะนี้ได้
ผมขอแนะนำครับว่า ถ้ายังไม่ผ่านการพิสูจน์ทางการแพทย์ ก็อย่าเพิ่งไปกระจายขยายข่าวเกินจริง ความสับสนอลหม่านขณะนี้มีมากพอแล้วครับ
สำหรับผู้ที่มีงานที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับจีน ท่านสามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาส แทนที่จะรังเกียจเดียดฉันท์ ท่านอาจจะใช้จังหวะนี้ทุ่มเทให้คนจีนซึ้งใจกันไปเลย
ราชการจีนสั่งปิดร้านอาหารและภัตตาคารทุกแห่งไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นโยบายของบริษัท บาลานซ์ เรสเตอรอง กรุ๊ป (ฮ่องกง) จำกัด เราปิดตามราชการจีน
ทว่าในช่วงนี้เอง บริษัทฯ ให้โอกาสพนักงานจีนที่มีหนังสือเดินทางและแข็งแรงมาเมืองไทย เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมทั้งเรื่องอาหารและการบริการ
นี่คือโอกาสในวิกฤติ บริษัทสามารถฝึกอบรมพนักงานชาวจีนโดยที่ไม่ต้องใช้วันหยุดของพวกเขา เมื่อสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าฯ คลี่คลาย คนเหล่านี้ก็จะมีความรู้และประสบการณ์เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีใจให้บริษัทเพิ่มเติมลึกซึ้งมากขึ้น ทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอครับ
ภัตตาคารขนาดกลางอย่างเรายังโดนผลกระทบแรง เพื่อนไลน์ท่านลองนึกถึงกลุ่มภัตตาคารขนาดใหญ่ที่มีสาขาเกิน 100-500 แห่งขึ้นไปซีครับ บางกลุ่มมีพนักงานกระจายหลายหมื่นคนทั่วประเทศ จะเสียหายร้ายแรงขนาดไหน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มภัตตาคารและบริษัทอื่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้หุ้นร่วงรูดมหาราช จนผู้คนหมดเนื้อหมดตัวตามกัน
เมื่อวาน บทความของผมแสดงความกังวลเรื่องอาหารการกินของประชาชนคนจีน 1,400 ล้านหลังจาก 31 มกราคม 2563
วันนี้ ผมเสิร์ชเข้าไปในโซเชียลมีเดียของจีน พบประกาศรัฐบาลจีนออกมายืนยันความมั่นคงด้านอาหารว่า รัฐบาลมีอาหารพอที่จะดูแลคนทั้งประเทศ
จีนซื้อเมล็ดภัณฑ์ธัญพืชและอาหารแห้งประเภทอื่นเก็บไว้ในไซโลทั่วประเทศโดยไม่นำออกมาใช้ พอเกิดพิบัติภัยจึงจะนำออกมา
เราต้องชื่นชมวิสัยทัศน์ความมั่นคงทางอาหารของจีนว่ารอบคอบมาก
มีคนเหน็บแนมประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในโซเชียลมีเดียของไทยทำนองว่า งานนี้นายสีออกแอ๊คชั่นน้อยไปหน่อย
ผมขอตอบแทนว่า นายสีคงจะยึดประโยคของนักปราชญ์จีนสมัยราชวงศ์เป่ยซ่งที่มีชื่อว่าซูซื่อ
นักปราชญ์ซูซื่อเคยกล่าวไว้ว่า “ความลึก ความกว้าง เป็นสิ่งที่วัดคะเนมิได้ คนโบราณจึงไม่ลนลานเมื่อเผชิญเรื่องใหญ่ จงสะกดใจให้หนักแน่นเหนือคนทั่วไป...”
มีประโยคหนึ่งในบทความปกิณกะงานการเมืองของหนังสือหลุดพ้นจากความยากจน ที่คัดเอาคำปราศรัยของนายสีมาใส่ไว้
ประโยคนั้นคือ “ยามเผชิญเรื่องใหญ่มิให้ลนลาน”
โฆษณา