29 ม.ค. 2020 เวลา 15:04 • ไลฟ์สไตล์
เขาเย็นยอด 1900 อช.คลองวังเจ้า
อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ตั้งอยู่ จ. กำแพงเพชร เป็นหนึ่งในผืนป่าฝั่งตะวันตกอันอุดมสมบูรณ์ของไทย มีเนื้อที่ประมาณ 466,875 ไร่ แนวเทือกเขาสำคัญได้แก่ เขาเย็น เขาสน เขาเต่าดำ เขาขนุน เป็นต้น แล้วยังเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำแม่ปิง โดยมีลำน้ำสำคัญคือ คลองวังเจ้าและคลองสวนหมาก ด้วยความที่ยังอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ใหญ่ อย่างกระทิง แมวดาว เสือไฟ กวางผา แม้แต่เสือโคร่ง จนท.ก็ยังเคยพบร่องรอย
ปลายเดือนมกราคม ลมหนาวไม่พัดผ่านกรุงเทพมาสักระยะ มีเพียงอากาศเย็นเล็กน้อยยามเช้าและยังมืดเร็ว ที่ทำให้ชาวกรุงเทพอย่างเรารู้ว่านี่ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว ส่วนตัวผมนั้นยังอยากสัมผัสอากาศหนาวอีกสักครั้งก่อนจะเข้าฤดูร้อนอย่างเต็มรูปแบบ ผมได้ตัดสินใจจองทริปพิชิตเขาเย็น ยอดเขาสำคัญของ อช.คลองวังเจ้า ไว้ตั้งแต่สองเดือนก่อนหน้า เนื่องจากเคยได้ยินชื่อยอดเขานี้มาสักระยะ แต่ก็เพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วยอดเขาเย็นนั้นมี 2 ยอด อยู่คนละฝั่งกัน คือ ยอด 1800 และยอด 1900 ซึ่งทริปนี้ของผมคือพิชิตเขาเย็นยอด 1900
ค่ำคืนวันที่ 23 ม.ค. ผมมีนัดหมายกับทางเพจพี่พาเที่ยว ของพี่มานะที่เคยเดินป่าด้วยกัน แต่ผันตัวเองมาจัดทัวร์เดินป่า เรานัดกันสองทุ่ม ที่บิ๊กซีสะพานควาย จุดรวมตัวของทัวร์เดินป่าทั้งหลายฮาๆ หลังจากถึงจุดนัดหมาย ผมก็ได้พบเพื่อนร่วมทริปอีก 7 คน รวมทริปนี้เรามีทั้งหมด 9 คน เมื่อพร้อมเราก็ออกเดินทาง
03.30 น. โดยประมาณ เราถึงที่ทำการ อช.คลองวังเจ้า เนื่องจากยังดึก เราจัดแจงหาที่นอนบริเวณร้านสวัสดิการดิ์ของ อุทยาน ตัวผมนั้นรื้อเป้คว้าถุงนอนได้ ก็นอนบนโต๊ะกินข้าวไม้ขนาดใหญ่ สัมผัสแรกเมื่อมาถึง อช.คลองวังเจ้า คือทำไมมันหนาวจังวะ ผมคิดในใจ ช่างต่างกับกรุงเทพเหลือเกิน สัมผัสต่อมาคือกลิ่น กลิ่นควันจากไฟป่าคละคลุ้ง หนีฝุ่น PM 2.5 จากกรุงเทพ มาเจอ PM. 2.5 จากไฟป่าแทน ผมคิดเลยเถิดไปว่าเราจะต้องเดินหนีไฟป่าไหม แต่ทั้งหมดนั้นผมก็พยายามไม่คิดและข่มตาหลับในถุงนอนที่แสนอบอุ่น
ฟ้าเริ่มเพิ่งจะสาง แม้เวลาล่วงเลยเกือบ 7 โมงเช้า ที่นี่สว่างช้ากว่ากรุงเทพพอสมควร ผมตื่นขึ้นมาพร้อมความเพลียเพราะหลับไม่เต็มตื่นนัก ผมงัดตัวออกจากถุงนอน จัดแจงแปรงฟันล้างหน้าเข้าห้องน้ำ เก็บของจัดเป้ สั่งอาหารสำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง ระหว่างรอข้าว ผมก็ลองเดินสำรวจรอบๆที่ทำการอุทยาน ที่ทำการ อช.คลองวังเจ้า แม้ไม่กว้างใหญ่นัก แต่ก็มีลานกางเตนท์และมีลำธารไหลผ่าน ทำให้เป็นอีก อช. หนึ่งที่น่ามากางเตนท์เลยทีเดียว
"ข้าวที่สั่งได้แล้วจ๊า" เสียงแม่ค้าตะโกนแจ้งให้ลูกค้าทราบ หลังพวกเรากินกันอิ่มแล้ว พี่มานะก็แจ้งว่าจะมี รถของ อช. พร้อมจนท. จะมารับประมาณ 8 โมง เพื่อจะส่งเราไปจุดเดิน
พวกเราจึงเตรียมแต่งตัว จัดเป้ เพื่อเตรียมเข้าป่า สักพักรถของเจ้าหน้าที่ก็เข้ามา เป็นรถกระบะตอนครึ่ง โดยบริเวณกระบะติดเป็นคอก พาดไม้กระดานสำหรับเป็นที่นั่ง 2 แผ่น แล้วเราก็ได้พบกับผู้ที่จะนำเราขึ้นยอด 1900 ในครั้งนี้ มีคือพี่แขก และเจริญ จนท.ป่าไม้ทั้งสองแนะนำตัวอย่างฉับไว ได้เวลาสมควรที่เราจะออกเดินทาง คณะของเราช่วยกันยกของทั้งเป้ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนกลางขึ้นรถแล้วก็จัดแจงหาที่นั่ง ทริปนี้มีผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 5 คน ผู้หญิงนั่งหน้า ส่วนผู้ชายนั่งกระบะกับเจริญ ทุกอย่างเรียบร้อย พี่แขกขับรถออกจากที่ทำการอุทยาน พร้อมกับข่าวร้ายนิดหน่อยคือ เราต้องนั้งรถ 2 ชั่วโมง และ พ้นจากหน่วยไปไม่มีสัญญาณมือถือ
เราออกจากหน่วยมาสักพักก็พบกับต้นตอของกลิ่นควันไฟ ต้นไม้ข้างทาง บ้างยังยืนต้น บ้างล้ม มีรอยไหม้ดำ บางส่วนเป็นถ่าน บางส่วนเป็นขี้เถ้า มันเหมือนเพิ่งจะมอดไป ผมเริ่มหวั่นใจว่าจะต้องวิ่งหนีไฟป่ากันจริงๆซะมั้ง
รถค่อยๆพาเราขึ้นเขาลงเขา เลาะเรียบไปตามถนนของอุทยาน ซึ่งช่วงแรกเป็นถนนคอนกรีตสองเลนส์ จากนั้นเป็นทางคอนกรีตที่ปูไว้แค่พอดีกับช่วงล้อรถ บางช่วงก็เป็นลูกรัง เส้นทางที่เราไปนี้ เป็นเส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกเต่าดำ น้ำตกที่มีชื่อเสียงของอช.คลองวังเจ้า
ตลอดเส้นทางมีรถขนเมล็ดข้าวโพดของชาวบ้านขับสวนกเราไป ผมไม่แปลกใจเพราะผมเห็นไร่ข้าวโพดเต็มสองข้างทาง คงเป็นรายได้หลักของพวกเขา "บ้านโละโคะ" หมู่บ้านใหญ่ของชาวกระเหรี่ยง
ภาพระหว่างทางและภาพขณะเราแวะร้านค้าในหมู่บ้าน
โฆษณา