3 ก.พ. 2020 เวลา 11:30
กรณีศึกษา L’Occitane แบรนด์ฝรั่งเศสที่จดทะเบียนในฮ่องกง
L’Occitane อ่านว่า ล็อกซิทาน
แบรนด์สกินแคร์ที่หลายคนอาจได้เห็นอยู่บ่อยๆ ในโซนเครื่องสำอาง
ด้วยการจัดร้าน รวมทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ ซึ่งความจริงแล้ว ก็คือจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้นั่นเอง..
แล้วเรื่องราวของแบรนด์นี้เป็นอย่างไร?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
L’Occitane นั้น เป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งก็แปลว่า ผู้หญิงของเมืองออกซิทานี
ก่อตั้งโดยคุณ Olivier Baussan
โดยเริ่มมาจากการทำน้ำมันหอมระเหย ที่สกัดจากโรสแมรีป่า และดอกลาเวนเดอร์
และจำหน่ายในเมืองที่เขาอาศัยอยู่ ก็คือ Provence ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในเวลานั้น
จากน้ำมันหอมระเหย ก็เริ่มออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวพรรณ
อย่างเช่น สบู่ ครีมทามือ โลชั่นบำรุงผิว
ซึ่งแบรนด์นี้ได้อยู่ในแวดวงความงามมาเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โตระเบิดอย่างแบรนด์ใหญ่แบรนด์อื่น แต่ L’Occitane ก็ถือว่ายังสามารถคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมาโดยตลอด
ที่น่าสนใจคือ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม
และ การใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
1
ตัวอย่างเช่น การนำ Shea Butter หรือน้ำมันที่สกัดมาจากต้น Shea ในประเทศแอฟริกา มีสรรพคุณในการให้ความชุ่มชื้นกับผิวมาใช้
หรือ ดอก Immortelle (อิมมอคแตล) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Immortal ที่แปลว่าอมตะ มาใช้ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็มีสรรพคุณทางยา และยังสามารถชะลอริ้วรอยได้อีกด้วย
นอกจากนี้คุณ Olivier Baussan ยังเน้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอีกด้วย โดยเขาจะทำการซื้อขายวัตถุดิบแบบ Contract Farming สร้างอาชีพให้แก่คนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก
และด้วยจุดยืนที่แข็งแกร่งทั้งหมดนี้ ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ L’Occitane ยังคงครองใจผู้ใช้งานหลายๆคนมาจนถึงทุกวันนี้
1
แล้ว L’Occitane ขายดีแค่ไหน?
เราลองมาดูรายได้ของ L’Occitane กัน
ปี 2017 รายได้ 44,492 ล้านบาท กำไร 3,254 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 48,115 ล้านบาท กำไร 3,966 ล้านบาท
โดยปีที่ผ่านมานี้รายได้โตขึ้นถึง 8.1%
ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากผลิตภัณฑ์เซรั่มจากคอลเล็กชัน Immortelle Reset ซึ่งสามารถทำยอดขายไปได้มากถึง 800,000 ชิ้นในปี 2018 สูงสุดในบรรดาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าทั้งหมดของบริษัท
แล้วตัวบริษัท L’Occitane ยังมีแบรนด์อะไรอีกบ้าง?
แบรนด์อื่นๆที่ L’Occitane ได้เข้าซื้อ หรือ แตกไลน์ออกมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็คือ
LimeLife, Melvita, Erborian และ L’Occitane au Brésil
1
และล่าสุดคือ แบรนด์ครีมบำรุงผิวสัญชาติอังกฤษที่ชื่อว่า ELEMIS
โดยได้ซื้อกิจการมาในมูลค่าถึง 27,000 ล้านบาท
โดยในปี 2018 นั้น LimeLife ถือเป็นแบรนด์ลูกที่สามารถทำรายได้มากที่สุดถึง 2,825 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.9% ของรายได้ทั้งหมด
ที่น่าสนใจคือ ปกติแล้วแบรนด์เครื่องสำอางจะอยู่ภายใต้เครือบริษัทเครื่องสำอางขนาดใหญ่อย่าง L'Oréal หรือ Estée Lauder แต่แบรนด์ L’Occitane นั้นไม่ได้อยู่ภายใต้ใคร และบริษัทนี้จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอีกด้วย
เปรียบเทียบมูลค่าบริษัท L’Occitane กับบริษัทเครื่องสำอางขนาดใหญ่ของโลก
L’Occitane 1.1 แสนล้านบาท
Estée Lauder 2.4 ล้านล้านบาท
L'Oréal 5.1 ล้านล้านบาท
3
ถึงแม้บริษัท L’Occitane นี้จะไม่ได้ใหญ่เท่าบริษัทเครื่องสำอางเจ้าตลาด
แต่การเน้นที่คุณภาพของสินค้า การพัฒนาแหล่งชุมชนอย่างยั่งยืน
ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าชื่นชมของบริษัทนี้เลยทีเดียว..
โฆษณา