Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องราวร้อยพัน(เกี่ยวที่เลี้ยวลด)
•
ติดตาม
30 ม.ค. 2020 เวลา 15:32 • ปรัชญา
“ในเมืองคนตาบอด คนตาเดียวคือพระราชา”
ประโยคด้านบนคือความคิดของชายหนุ่มคนหนึ่งเมื่อเขาได้หลงเข้าไปยังดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งมีแต่คนตาบอดอาศัยอยู่
เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเรื่องสั้น เขียนโดย H.G. Well ชื่อเรื่องภาษาไทยว่า ดินแดนคนตาบอด (The Country Of The Blind)
ตัวเอกในเรื่องเกิดอุบัติเหตุพลัดหลงกับทีมสำรวจ และได้พบกับดินแดนในตำนาน ชาวเมืองที่นั่นล้วนแล้วเป็นคนตาบอดมาหลายชั่วอายุคน พวกเขามีวิถีชีวิตและความเชื่อในแบบของคนตาบอด เชื่อว่าโลกของพวกเขาอยู่สุดเขตที่หุบเขา และท้องฟ้ามีหลังคา ออกทำงานในเวลาที่พวกเขาเรียกว่าเวลาเย็น และนอนหลับพักผ่อนในเวลาอุ่น (ทำงานกลางคืน นอนกลางวัน)
“ในเมืองคนตาบอด คนตาเดียวคือพระราชา” ความคิดนี้โลดแล่นอยู่ในหัวชายหนุ่มตั้งแต่เข้ามาในดินแดนแห่งนี้ เขาพยายามทุกวิธีทางเพื่อจะอธิบายโลกที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร โลกที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่ว่าเหล่าคนตาบอดกลับมองว่าเขาบ้า เพ้อเจ้อ และวิกลจริต
ชายหนุ่มพยายามที่จะพิสูจน์หลายสิ่งอย่างเพื่อจะให้เหล่าคนตาบอดนั้นเชื่อว่าที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงและนับถือเขา แต่ก็ล้มเหลวเพราะแม้ว่าเขาจะมีตาที่ดีกว่าคนอื่น ๆ หากแต่ประสาทสัมผัสอื่น(นอกจากตา)ของคนตาบอดนั้นดีกว่าเขามาก ทั้งหู และจมูก และสิ่งที่คนตาดีพยายามอธิบายสิ่งที่เขานั้นก็พิสูจน์ไม่ได้
ในเวลากลางคืน เขายิ่งจะเสียเปรียบเหล่าคนตาบอด เพราะแม้ว่าจะมืดมิดเพียงไร หู และจมูกพวกตาบอดยังใช้การได้ดี (คนตาดีสะดุดล้มหัวขมำชนนู่นชนนี่ตอนกลางคืน จนคนตาบอดล้อเขาว่าเป็นพวกซุ่มซ่ามเงอะงะ)
สุดท้ายชายตาดีก็ต้องยอมแพ้คนตาบอดในที่สุด ( เวลล์ เขียนตอนจบไว้สองแบบ)
คนเรามักคิดว่าตัวเองวิเศษวิโส ฉลาดกว่าผู้อื่น จนบางครั้งก็เลยเถิดถึงขั้นแสดงอากัปกิริยาในลักษณะคุกคามเหยียดหยาม ยกตนข่มท่านออกไป
แต่ในเรื่องก็แสดงให้เห็นว่า คนตาบอดก็มีจุดแข็งเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่คนตาดียังต้องยอมพ่ายแพ้
ก็เหมือนพวกเราทั้งหลายนั่นแหละ แม้อาจจะไม่มีความสามารถเหมือนคนอื่น(ตา) แต่เราทุกคนย่อมมีบางอย่างที่พิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งถูกพัฒนามาท่ามกลางสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ในแบบของเรา(หู, จมูก)
เราเพียงตระหนักถึงความพิเศษในแบบของเรานั้นและแสดงมันออกมา เราก็จะสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้(เอาชนะคนตาดี)
อนึ่งแม้ว่าคนตาบอดจะมองไม่เห็นโลกอย่างที่คนตาดีเห็น แต่พวกเขาก็มีโลกที่เขามองเห็นในแบบของพวกเขาเอง (เสียง, กลิ่น)
ซึ่งยากที่คนตาดีจะเข้าใจได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ในทางกลับกันคนตาบอดก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจในโลกของตาดีได้เช่นกัน
พูดลึกลงไปก็อาจกลายเป็นคำถามเชิงปรัชญาไปได้
เช่นแล้วโลกของคนตาบอด กับ โลกของคนตาดีนั้น โลกแบบไหนเป็นโลกที่ดีกว่ากัน?
ถามแบบนี้คล้ายกับถามว่า มนุษย์กับสัตว์ โลกของใครดีกว่ากัน
แน่นอนว่าเราเป็นมนุษย์(ที่คิดว่าเป็นคนตาดี) ย่อมบอกว่าเป็นมนุษย์สิดีกว่า
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโลกของสัตว์เป็นโลกที่ไม่ดี
สัตว์หรือมนุษย์มีความสุขมากกว่ากัน?
เคยไหม บางวันทำงานกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ เห็นแมวมันนอนอยู่บนเตียง
แล้วก็มีความคิดว่าอยากเกิดเป็นแมวว่ะ อยากเกิดเป็นหมาว่ะ
ดูมันสุขสบายเหลือเกิน!
ทำไมเราจึงคิดว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ประเสริฐเหนือกว่าสัตว์ทั้งปวง?
นี่เป็นปัญหาที่น่าขบคิด แต่ก็อย่าคิดมาก ปวดหัว!
เพียงแต่ให้เราตระหนักเข้าใจว่า คนทุกผู้ สัตว์ทุกตัวมีความเป็นปัจเจกที่ไม่สามารถเอาอะไรมาวัดได้ว่าใครดีกว่าใคร
เศรษฐีพันล้าน มีีความสุขมากกว่าตาสีตาสาชาวบ้านชาวนาหรือเปล่า ก็ไม่เสมอไป
เป็นเรื่องที่ไม่มีใครตอบได้
ความจริงเรื่องยังวิเคราะห์ตีออกมาได้ในอีกหลายแง่มุมมาก ๆ
อยากให้ลองอ่านดู แล้วจะพลังบางอย่างสถิตอยู่ในหนังสือเล่มนี้
ก่อนหน้านี้ผมจะอ่านงานวรรณกรรมแค่เอาสนุกเฉย ๆ
แต่พอได้อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ มันเปลี่ยนมุมมองผมต่องานวรรณกรรมไปหมด
ผมได้เรียนรู้ว่าวรรณกรรมทุกเรื่องนั้นมีปรัชญา ความคิด และอะไรหลาย ๆ อย่างซ่อนอยู่ในนั้น
มันสะเทือนเข้าไปใจจิตใจตลอดเวลาที่อ่านอยู่ และทิ้งบางอย่างไว้ให้ขบคิดต่อหลังจากอ่านจบแล้ว
หลังได้อ่านเรื่องนี้ ผมมักจะใคร่กระหายบางอย่างจากงานเขียนอื่น ๆ อยู่เสมอ ชอบการวิเคราะห์ตีความ ชอบหาความหมายในสิ่งที่ผู้เขียนได้ซ่อนเอาไว้
การอ่านงานวรรณกรรม ความรู้ต่าง ๆ มันจะไม่ได้ฝังแค่อยู่ในสมองเหมือนเช่นการอ่านหนังสือทั่วไป
แต่มันฝังรากลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึก โดยไม่ต้องใช้ความจำใด ๆ เลย
นี่ละมั้งที่เขาเรียกว่าคุณค่าของงานวรรณกรรม
ทุกคนมีหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตอย่างน้อยหนึ่งเล่ม
สำหรับผมมันคือเล่มนี้!
หากว่าชอบ หากว่าใช่
กด Like & Share ให้ผมด้วยนะครับ
สวัสดีครับ
เพจ : เรื่องราวร้อยพัน(เกี่ยวที่เลี้ยวลด)
4 บันทึก
23
16
4
4
23
16
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย