31 ม.ค. 2020 เวลา 08:30 • สุขภาพ
ทำไม”ไวรัสอู่ฮั่น”จึงแพร่ระบาดได้รวดเร็วแบบนี้?
ภายในเวลาเพียงเดือนเศษๆ “ไวรัสอู่ฮั่น” หรือ “โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV)” นี้ ก็แพร่กระจายจนมีผู้ติดเชื้อ(ที่ตรวจพบและยืนยัน)ไปแล้วถึงเกือบ 1 หมื่นราย!
เมื่อเทียบความรวดเร็วของการแพร่ระบาดนั้น ไวรัสอู่ฮั่นถือว่ามีการระบาดที่รวดเร็วสูงมาก และมากกว่าไวรัสรุ่นพี่ซึ่งเป็นตระกูลโคโรน่าเดียวกันอย่าง”โรค SARS และ MERS”ถึงเท่าตัวเลยทีเดียว!
แต่ทีนี้แม้ว่าไวรัสอู่ฮั่นจะระบาดรวดเร็วจนคนส่วนใหญ่ตื่นกลัว ก็ไม่ได้หมายความว่ามันรุนแรงมากกว่าโรค SARS และ MERS แต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้าม เป็นเพราะพวกมันมีความรุนแรง”ต่ำ” จึงทำให้พวกมันสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วถึงขนาดนี้
ในอดีตนั้น เมื่อครั้งที่มีการระบาดของโรค SARS และ MERS โรคนี้มีความรุนแรงที่สูงมาก อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 10% และ 30% ตามลำดับ
เรียกได้ว่าใครที่ติดเชื้อก็จะมีอาการหนักเลยทีเดียว ดังนั้นผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคนี้เข้าไป ก็จะอ่อนเปรี้ยเพลียแรง นอนซมไม่สามารถออกไปไหนได้ และถูกหิ้วเข้าโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว มีโอกาสน้อยที่จะออกไปวิ่งเล่นแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น
แต่ในทางกลับกัน ไวรัสอู่ฮั่นนั้นมีความรุนแรงต่ำกว่าโรค SARS และ MERS หลายเท่า โดยอัตราการเสียชีวิตตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1% เลยทีเดียว แทบจะเทียบเคียงกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไปแล้ว
1
ดังนั้นจึงมีผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นจำนวนมากที่มีอาการที่น้อยมาก ทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้ยังสามารถออกมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติตามที่สาธารณะ กว่าจะรู้ตัวว่าป่วย ก็แพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นไปหลายคนเเล้ว
ด้วยเหตุผลนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ไวรัสอู่ฮั่นแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีผู้ป่วยแฝงตัวอยู่เยอะมาก เชื่อไหมว่านับจากตอนนี้ไป ถ้าคุณเป็นหวัดคัดจมูกเล็กๆน้อยๆ มันก็เป็นไปได้ว่าจริงๆแล้วคุณอาจจะติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นก็เป็นได้ เพียงแต่คุณแข็งแรง เป็นไม่มากแล้วก็หายไปเอง โดยไม่ต้องมาหาหมอ โดยไม่ผ่านการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น!
1
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีการระบาดของไวรัสอู่ฮั่นในหลายๆประเทศ และรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ไม่ช้าก็เร็ว ขึ้นอยู่กับมาตรการณ์ของรัฐ
แต่อย่างไรก็ตาม การแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ก็ถือเป็นการกระจายภูมิคุ้มกันอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ผู้ที่ติดเชื้อเเล้ว ไม่ว่าจะมีอาการน้อยหรือมาก จะกลายเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทาน เพราะการติดเชื้อนั้นก็เปรียบได้กับการให้”วัคซีน” เพียงแต่มีอาการติดเชื้อเท่านั้น
จนสุดท้ายผ่านไปสักหลายๆเดือนถึงปี ก็จะมีประชากรที่มีภูมิคุ้มกันจำนวนมาก ไวรัสมันก็จะหาทางไปต่อไม่ได้ แล้วก็จะสงบลงไปเอง
เมื่อมีคนที่มีภูมิต้านทานมากขึ้น คนเหล่านี้จะเปรียบได้กับกำแพง ป้องกันไม่ให้เชื้อผ่านไปสู่ผู้ที่ยังไม่มีภูมิต้านทานได้
นอกจากนี้ ปัจจุบันก็มีการเร่งสร้างวัคซีนโคโรน่าไวรัสแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์มากต่อการควบคุมการระบาด
ดังนั้น ทุกคนควรตื่นตัวกับสถานการณ์ แต่อย่าไปวิตกกังวลมากมายนักกับยอดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน มันไม่ใช่ตัวเลขที่เกินความคาดการณ์แต่อย่างใด รับฟังข่าวและโซเชียลมีเดียอย่างมีวิจารณญาน อย่าสร้างความวุ่นวาย เพราะสักวันหนึ่งก็เป็นไปได้สูงว่าคงถึงคิวประเทศอื่นๆอย่างแน่นอน เราควรรับมือกับสถานการณ์อย่างชาญฉลาดมากกว่า
และด้วยความทันสมัยของแพทย์ในยุคนี้ เราสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ จะมีเพียงผู้ป่วยส่วนน้อยมากเท่านั้น ที่จะมีอาการรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิม อย่างผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวมากๆ เป็นต้น
สิ่งที่เราควรทำก็คือ การป้องกันการติดเชื้อเท่าที่จะทำได้ อันดับแรกก็คือ ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และถ้าต้องไปในที่ที่มีผู้คนพลุกพร่าน ก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย ทำสิ่งเหล่านี้ทุกๆวันอย่างต่อเนื่อง... จนกว่าโรคมันจะสงบไปตามธรรมชาติของมันเอง...
📥Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
📥ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆจากปากหมออีกได้ที่
โฆษณา