3 วิธีออมเงินแบบขำๆ แต่ล่ำซำตอนปลายปี
สิ้นปีเรียกพี่รวยได้เลย
เพื่อน : เห้ยแก...ปีที่แล้วเก็บเงินได้เท่าไหร่ ?
ผม : ได้เยอะเลย ช่วงต้นปีเก็บได้ที่เชียงใหม่, กลางปีแถวข้าวสาร และ เมื่อคริสต์มาสแถวเซ็นทรัลเวิร์ล รวม ๆ แล้วเป็นพันเลย แต่เสียดายคืนเขาไปหมดแล้ว
เพื่อน : สึด !!! (เสียงน้าค่อม ชวนชื่น) นั่นมันเก็บเงินที่คนทำหล่นไว้ กรูหมายถึงออมเงินได้เท่าไหร่เว้ยยยยย
ผม : อ้ออออ...แล้วมรึงไม่ใช้คำว่า "ออมเงิน" เล่า
ผม : ถ้าเรื่องออมเงินมีสตอรี่เล่าให้ฟังเพียบ
เริ่ม................................
///
"จะบอกว่าปีที่ผ่านมาผมเริ่มออมเงินจริงจังเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี
จากก่อนหน้านี้เป็นพวกมนุษย์สุขนิยม หาเท่าไหร่ใช้ให้หมด
หนักถึงขั้นใช้เงินในอนาคต (บัตรเครดิต) จนเป็นหนี้ท่วมหัวมาแล้ว (เละ !)"
///
จนมาวันหนึ่ง ฉันเดินเข้าป่า ... "ฉันเจอเสือตัวใหญ่ มันถามฉันว่ากลัวบ้างไหม"
ยัง
ยัง
ยัง
ยัง...จะเล่นมุกอีก !!!
///
โทษทีๆ หยอก ๆ ...
///
เอาล่ะ...เรื่องมีอยู่ว่า อยู่ดี ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า ...
"อายุปาเข้าไปขนาดนี้ละยังไม่มีเงินออมเลยแม้แต่บาทเดียว
แต่ละเดือนหาเงินได้ค่อนข้างมาก เพราะทำหลายอย่าง
แต่ไม่มีเงินออมเลย บ้าที่สุดดดดดด"
///
จึงเริ่มทดลองออมเงินเล่น ๆ ตั้งแต่ต้นปี 62
ด้วยความที่ผมเป็นพวกทำอะไรต้องสุดโต่ง
ใช้เงินก็ใช้สุด ออมเงินก็ต้องสุด...
///
ได้วิธีออมเงินมา 3 รูปแบบ จากคำบอกกล่าวของหมู่กัลยาณมิตร
ทีแรกจะใช้วิธีเดียว แต่น่าจะน้อยไป เลยใช้ทุกวิธี ประกอบด้วย
///
1. ออมตามจำนวนวันในปฏิทิน
วิธีนี้คือ 1 ปี มี 365 วัน เริ่มจากเดือน มกราคม
วันที่ 1 ออม 1 บาท วันที่ 2 ออม 2 บาท วันที่ 10 ออม 10 บาท
วันที่ 1 เดือนถัดไปออม 32 บาท (เดือน มกราคม มี 31 วัน)
หรือวันที่ 1 มีนาคม ออม 60 บาท (เดือน มกราคม 31 วัน + กุมพาพันธ์ 28 วัน)
ทำแบบนี้เรื่อยไปจนสิ้นปี ทบไปเรื่อย ๆ จน 31 ธันวาคม ใส่ก้อนสุดท้าย 365 บาท
รู้ไหมว่าสิ้นปีผมได้เงินมาทั้งสิ้น 66,795 บาท !!!
แม่เจ้า ! โคตรเยอะ...
///
2. ตัดเศษเงินเดือนเป็นเงินออม
วิธีนี้คือตัดเศษหลักร้อยเงินเดือนสุทธิ
กรณีผม...ได้เงินเดือนทั้งสิ้น XX,760 บาท
ผมก็ตัด 760 บาท ออกมาออมเลย ให้เหลือเงินเดือนถ้วนๆ ไป
ตัดทุกเดือน สิ้นปีได้เงินออมมาอีก 760 x 12 = 9,120 บาท
รวมกับก้อนข้างบนตอนนี้ผมมีเงินออมแล้ว 75,915 บาท
เขร้ ! โคตรแจ่ม...
///
3. วิธีสุดท้ายคือใช้เท่าไหร่ออมเท่านั้น
หลักการคือออมเท่ากับเงินที่ใช้ไปกับของไม่จำเป็น
หรือของสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งแต่ละคนจะแตกต่างกันแล้วแต่ไลฟ์สไตล์
บางคนอาจจะเป็นเสื้อผ้า, Gadget, เครื่องประดับแฟชั่น ฯลฯ
ส่วนผม ฮ่า ๆ ....
ของสุรุ่ยสุร่ายของผมคือ
เหล้า-เบียร์และบุหรี่ !!! (เด็กและเยาชนไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง)
ผมเป็น Smoker สูบเฉลี่ยวันละซอง
และผมเป็นนักดื่มเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
หมายความว่า 1 ปีผมสูบบุหรี่ 365 ซอง
ซองละ 60 บาท ทุกครั้งที่ซื้อผมจะหักเงินออมทันที 60 บาท
นั่นคือ 365 (วัน) x 60 (บาท) = 21,900 บาท
ขณะเดียวกันผมดื่มครั้งละเฉลี่ย 500 บาท
ดื่ม 2 ครั้งต่อสัปดาห์ 1 ปีมี 52 สัปดาห์
นั่นคือ 102 ครั้งต่อปี ทุกครั้งที่ไปดื่ม จ่ายเท่าไหร่ ออมเท่านั้น
เท่ากับว่าผมหักออมอีก 102 x 500 = ‭51,000‬ บาท
โอ้วววว ! ได้มาอีกเพียบ
///
///
///
สิริรวมแล้วสิ้นปีผมมีเงินทั้งสิ้น 66,795+9,120+51,000 = ‭126,915‬ บาท
ย้ำ ... 126,915‬ บาท เยอะมากสำหรับคนไม่เคยออมเงินแบบผม
///
ที่พิเศษสุดคือความรู้สึกทางใจ
เพราะสามารถชนะตัวเองได้เว้ยยย
บอกเลยว่าภูมิใจชิบหาย
///
ผมให้รางวัลตัวเองด้วยการ หัก 26,915 บาท
ซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นแล้วจ้า ...
///
///
#ออมก่อนรวยกว่า
#พรุ่งนี้ไม่สายที่จะออมเงิน
#ออมเงินเถอะ...เราขอ
#ออมขำ ๆ ล่ำซำ เฉย
#วางแผนการเงินต้อง Lumpsum
โฆษณา