1 ก.พ. 2020 เวลา 00:34 • สุขภาพ
ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 2019 จากวารสารการเเพทย์ชั้นนำของโลก เป็นอย่างไรบ้างมาดูกัน!!!!
https://edition.cnn.com/2020/01/20/health/what-is-coronavirus-explained/index.html
ข่าวเรื่องการระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ยังคงร้อนเเรง เป็นที่สนใจเเละจับตามองจากผู้คนในประเทศไทยเเละทั่วโลก
ล่าสุด เมื่อวานวันที่ 31/01/2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศสถานการณ์ของ การระบาดของโคโรนาไวรัสตอนนี้ให้เป็น “Public Health Emergency of International Concern” (PHEIC)
1
https://www.facebook.com/Tam.eig/photos/a.487535398009473/2700553130041011?type=3&sfns=mo
เเละต่อด้วยช่วงบ่ายเมื่อวาน ที่มีการเเถลงจากกระทรวงสาธารสุขประเทศไทยว่า พบผู้ป่วยคนไทยขับรถแท็กซี่ไม่ได้เดินทางไปอู่ฮั่น คาดว่ารับเชื้อจากผู้โดยสารชาวจีน เบื้องต้นคัดกรองเพิ่มจากผู้สัมผัสแท็กซี่ได้แก่ครอบครัวและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 คน ให้ผลลบไม่พบเชื้อ
เเละผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 19 รายในประเทศไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิต
https://www.facebook.com/133050930458942/posts/881164765647551?d=n&sfns=mo
ซึ่งภาพรวมเรื่อง การระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ยังไม่มีท่าทีที่จะยุติเเละคงอาจจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ในการควบคุมการระบาด
อย่างไรก็ดี จากการที่มีจำนวนผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์นี้จำนวนมากขึ้น ก็ทำให้ทางเเพทย์ได้ข้อมูลเเละมีการศึกษาเกี่ยว กับ เชื้อไวรัสมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด วารสารทางการเเพทย์ระดับโลก อย่าง
New England Journal of Medicine เเละ Lancet ก็ได้เริ่มตีพิมพ์ข้อมูล เกี่ยวกับเชื้อไวรัสตัวนี้ ซึ่งผมได้อ่านเเละสรุปคร่าวๆเป็นข้อๆที่คิดว่าจะมีประโยชน์ให้ได้มาอ่านกัน
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2001316
1. การระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็น การระบาดจากคนสู่คน (มากกว่า 91%) เเละแพร่กระจายจากคนสู่คนน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม
2. การเเพร่กระจายเชื้อของไวรัสผ่านทางการสัมผัสสารคัดหลั่งทางเดินหายใจต่าง อาทิเช่น เสมหะ นำ้มูก (droplet transmission)
เเละค่า(Basic reproduction number)อยู่ที่ประมาณ 2.2 ยิ่งค่า R0 มากยิ่งระบาดได้ง่าย (R0 ของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล influenza อยู่ที่ ประมาณ 2-4)
https://www.researchgate.net/figure/Basic-reproduction-numbers-and-implied-crude-HPT-for-various-communicable-diseases-13-19_tbl1_280117061
3.ระยะฟักตัวโดยเฉลี่ยของเชื้อไวรัสอู๋ฮั่นอยู่ที่ 5.2 วัน ส่วน 95 percentile ของระยะเวลาฟักตัวของไวรัสอยู่ที่ 12 วัน
4. อาการที่พบบ่อย ไข้ 98% ,ไอ 76% , อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ 44% เป็นต้น
https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(20)30183-5/fulltext
5.ผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ (อายุ เกิน 65 ปี) ผู้ที่เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเกิดจาก ปอดอักเสบ เเละระบบหายใจล้มเหลว
6.ในการรักษาไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เมืองจีนมีการใช้ยาหลายเเขนงทั้ง ยา ปฎิชีวนะ ,ยาต้านไวรัสชนิดต่างๆ ,ยา steroid เครื่องช่วย support การหายใจต่างๆ ทั้ง เครื่อง ventilator เเละ ecmo
https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(20)30183-5/fulltext
7. ในงานวิจัยได้เขียนบ่งบอกไว้ว่าจะมีการทดลองทาง clinic กลุ่มยาต้าน HIV เพิ่มเติมเพื่อดูประสิทธิภาพในการรักษา ไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ต่อไป (ข่าวล่าสุดได้มีการทดลองไปเเล้วพร้อมกับตัวยาอื่นๆอีกหลายตัวส่วนผลลัพธ์ยังไม่ทราบอย่างเป็นทางการนะครับ)
ส่วนประเด็นในการรักษาอื่นๆอย่างละเอียดในงานวิจัย ผมขอไม่กล่าวถึง เเละอัตราการเสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้ล่าสุดอยู่ประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์เเละมีเเนวโน้มน้อยลงเรื่อยๆตามข้อมูลในการรักษามีมากขึ้น
ซึ่งข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับตัวไวรัสชนิดนี้ก็คงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามข้อมูลที่เรามีมากขึ้นเเต่ ณ ตอนนี้ส่วนตัวผมก็เชื่อว่าข้อมูลจาก วารสารอย่าง New england เเละ Lancet ก็มีความน่าเชื่อถือเเละเป็นที่ยอมรับในวงการเเพทย์
ด้วยข้อมูลทางการเเพทย์เกี่ยวกับตัวไวรัสเเละเทคโนโลยีทางการเเพทย์สมัยใหม่ผมเองก็มีความเชื่อว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะสามารถควบคุมไวรัสชนิดนี้ได้
ซึ่งระหว่างนี้เราก็ควรจะหาทางป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัส ด้วยการ ใส่หน้ากาก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ เเละทำสุขภาพตัวเองให้เเข็งเเรงไม่มีโรคประจำตัวนะครับ เพราะ ภูมิคุ้มกันที่ดีก็ เปรียบเสมือนยาต้านไวรัสทางธรรมชาติอยู่เเล้ว !!!!!
หวังว่าจะควบคุมการระบาดได้ในเร็ววันครับ
https://www.prachachat.net/general/news-415007
โฆษณา