31 ม.ค. 2020 เวลา 12:31 • ธุรกิจ
แค่ Differentiation ไม่พอ อยากทำธุรกิจให้รอดต้องมี Unfair Advantage
เราได้ยินกันบ่อยแล้วว่าทำธุรกิจต้องแตกต่าง
หลายธุรกิจเลยพยายามทำสินค้าหรือให้บริการที่ไม่เหมือนคนอื่น
กว่าจะทำการตลาดให้เกิดกลุ่มลูกค้าที่สนใจ กลับถูกคู่แข่งทำเลียนแบบแล้วดึงลูกค้าไปต่อหน้าต่อตา
ทำธุรกิจก็เหมือนอยู่ในสนามแข่งขัน คนอ่อนแอก็ย่อมแพ้ไป
เพราะแค่แตกต่างอย่างเดียวไม่พอแล้วสำหรับยุคนี้...
ในสนามที่ต่างคนต่างงัดกลยุทธ์ของตัวเองออกมาเพื่อต่อสู้ แค่เอาชนะธรรมดาๆ ยังน้อยไป แต่ต้องทำให้คู่ต่อสู้แพ้อย่างราบคาบ
เพราะอย่าลืมว่าคู่แข่งที่แพ้ ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วกลับมาต่อกรกับเราได้ใหม่ แต่ถ้าเราทำให้เกมๆ นี้ เป็นเกมที่ไม่มีใครล้มเราได้ เราย่อมครอบครองได้ทุกอย่าง
และนั่นคือคอนเซปของ Unfair Advantage
ช้าก่อน Unfair ในที่นี้ เราไม่ได้บอกว่าให้เล่นกลโกงหรือทำสิ่งที่ผิดจริยธรรมและศีลธรรม
ความหมายที่แท้จริงของ Unfair Advantage คือ การที่เรามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี เป็นสิ่งเหนือกว่าคู่แข่งเสมอ และเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถสู้เราได้เลย มันคือความได้เปรียบเทียบที่คนอื่นไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ หรือถ้าทำได้ก็ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทมากสุดๆ (มันเลยดูไม่ยุติธรรมสำหรับคู่แข่งเพราะเขาไม่มีทางจะเอาชนะได้เลย)
อย่าเพิ่งถอดใจสำหรับใครที่คิดยอมแพ้ให้กับเกมที่ไม่ยุติธรรมนี้ เพราะ Unfair Advantage นั้นก็ไม่ใช่จะมีมาตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจหรือจะหาเจอกันได้ง่ายๆ ต้องอาศัยเวลาที่เจ้าของธุรกิจต้องหมั่นถามตัวเองซ้ำๆ วันแล้ววันเล่า ค่อยๆ ก่อร่างสร้างข้อได้เปรียบนี้ให้แข็งแกร่งจนไม่มีใครเอาชนะได้
ถ้าให้ลองนึกถึงร้านคาเฟ่ขนมหวานสักร้าน
After You ต้องเป็นร้านนึงในดวงใจของใครหลายคน
ร้านที่เปลี่ยนรูปแบบการกินขนมที่ไม่ทำให้อิ่ม แต่ให้ความฟินได้
และเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นร้านขนมหวานมีชื่ออยู่ในตลาดทรัพย์
เส้นทางแห่งความสำเร็จของ After You นั้นมาจากสิ่งที่ไม่มีใคร “ก๊อป” ได้
ย้อนกลับไปสัก 10 ปีที่แล้ว ขนมหวานยอดฮิตที่เห็นขายแทบจะทุกร้านไม่ว่าจะในร้านกาแฟ ร้านอาหารต้องมีเมนู “ฮันนี้ โทสต์” เข้าไปเป็นหนึ่งในเมนูของตัวเองให้ได้ ที่มาเริ่มแรกสุดของกระแสสุดฮิตก็มาจาก After You นั่นแหละ
ถึงวันนี้เราได้ข้อพิสูจน์แล้ว
คนที่วิ่งตามกระแส มีแต่ล้มหายตายจาก ไปไม่เป็นท่า
สิ่งที่ทุกคนเข้าใจผิดคือสิ่งที่ After You มี ไม่ใช่ “กระแส”
แต่เป็นความ “Unique" ที่ไม่มีใครก็อปปี้ได้
แม้วันนี้ “ฮันนี้ โทสต์” จะไม่ได้ครองแชมป์เมนูยอดนิยมเพราะก็เป็นไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังมี “คากิโกริ” เมนูน้ำแข็งใสที่ยิ่งตอกย้ำลงไปอีกว่า After You เป็นผู้ชนะแห่งสงครามคาเฟ่ขนมหวานตัวจริง
ถึงตรงนี้ เราคงเห็นภาพแล้วว่า
การมี Unfair Advantage ไม่แค่เรื่องดี
แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้ธุรกิจเรารอด
ใครที่ยังไม่แน่ใจว่า Unfair Advantage ของตัวเองคืออะไร
อาจเริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ ที่ว่า “เรามีของอะไรดี ที่คนไม่อื่นไม่มี”
cr. pinterest
โฆษณา