2 ก.พ. 2020 เวลา 09:14 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าที่28...สัญญาณไฟที่เคารพ
เรื่องเบาๆแบบบ้านๆมาพบกันอีกเช่นเคย
คราวนี้เป็นเรื่องที่ตัวแอดเจอเองบ้าง
อาทิตย์ที่แล้วเอง แอดมีธุระขับรถเข้าไปในเมือง
ก็พอมาถึงสี่แยกนึง เป็นสัญญาณไฟแดงพอดี
แอดเองก็รอจะเลี้ยวซ้าย ซึ่งมีป้ายบอกชัดเจน
ว่าเลี้ยวซ้ายให้รอสัญญาณไฟเขียว
แต่ด้วยเป็นเช้าวันอาทิตย์ ถนนโล่งมาก
ก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าไฟแดงขับตรงไป2-3คัน
แอดเองก็ไม่ได้สนใจ รอไฟเขียวเพื่อเลี้ยวซ้ายต่อไป
แต่รถสองแถวที่อยู่ข้างหลัง
กลับบีบแตรไล่ คงมองเห็นว่าถนนว่าง ทำไมไม่ไป
เราก็ไม่สนใจ ใครจะมักง่ายก็มักง่ายไป แต่ไม่ใช่เรา
รอสัญญาณไฟเขียวต่อไป
เค้าเลยออกขวาแล้วเลี้ยวซ้ายตัดหน้าเราไป
ครั้งนี้ยังไม่มีอะไร
ซื้อของเสร็จ ก็ขับรถกลับบ้าน
จนขับออกมาเกือบออกนอกเมืองแล้วล่ะ
อีกสักประมาณ 30 เมตร จะถึงสี่แยกไฟแดง
ก็พอดีเป็นสัญญาณไฟเหลือง
เราก็เลยหยุดรถ ด้วยถนนค่อนข้างโล่ง
ไอ้เราก็เลยประมาทไปหน่อย ไม่ได้มองรถข้างหลัง
ปรากฏว่ามี Fortuner ขับตามมา
และคงมั่นใจว่า จขกท.คงฝ่าไฟเหลืองแน่ๆ ก็เลยไม่ได้เบารถ
เค้าก็เลยต้องเบรคกระทันหัน แต่ด้วยสภาพถนนไม่ค่อยดี
เค้าก็คงขับเร็วไม่ได้
แต่ก็ชนท้ายรถเราอยู่ดี แต่ไม่รุนแรงอะไร
พอลงไปดู เห็นมีรอยบุบเล็กน้อย ส่วนคู่กรณีกันชนหน้าก็บุบเล็กน้อยเช่นกัน
ด้วยรถที่ขับไปเป็นรถปิ๊คอัพมิตซู สตราด้าเก่าๆ
ไม่ใช่ซุปเปอร์คาร์คันที่ใช้ประจำ 😂😂😂
ก็เลยตั้งใจว่าถ้าคนขับพูดจาดีๆ
เราก็จะหยวนๆไปไม่อยากเสียเวลา
อีกอย่างนึงเห็นพี่คนขับที่ลงมา หุ่นอย่างกับบัวขาว บัญชาเมฆ
ดูแล้วร่างกายเราคงไม่อยากปะทะด้วยเป็นแน่แท้
แต่เค้าก็พูดดีๆนะ ถามสำเนียงทองแดงว่า
รถเป็นอะไรมากหรือเปล่า
ยังไม่ได้ตอบเลย คนทีนั่งหลังรถ น่าจะเป็นเจ้านาย
ก็ลงมา ท่าทางโมโหอย่างแรง พร้อมตะคอกเราว่า
เฮ้ย !! ขับรถยังไงวะ ถนนออกโล่งจะหยุดทำไม
ก็ว่าจะจะขึ้นไปขับให้ดูใหม่ว่า เมื่อกี๊ขับยังไง
แต่ดูท่าทางพี่เค้าขี้โมโห กลัวมันว่าเรากวนทีน
ก็พูดกลับไปดีๆ ว่า คุณครับสัญญาณไฟเหลือง
นี่เค้าต้องเตรียมหยุดไม่ใช่หรือ
พอเค้าเห็นเราพูดกลาง และค่อนข้างสุภาพ
เค้าก็เลยอ่อนลงบ้าง แต่ก็ยังดูอวดเบ่งอยู่
บอกว่า ก็ข้างหน้าไม่มีรถแล้วจะหยุดทำไม แล้วก็
พูดจาโวยวายเหมือนจะกดดันให้เรายอมๆซะโดยดี
ประมาณว่า ให้มันรู้ซะบ้างว่าที่นี่เค้าใหญ่
ระหว่างนั้นก็มีตำรวจยศนายดาบคนหนึ่งเดินมา
เราก็ใจชื้นขึ้นสิครับคุณ
แต่ปรากฏว่า ตำรวจคนนั้นเดินเข้าไปสวัสดีเจ้าของรถFortuner
ซึ่งเคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในย่านนี้
คุยกันสนิทสนมเชียว เสร็จแล้วก็เดินมาถามเราว่า
มาจากไหนแล้วจะไปไหน
เสร็จแล้วก็ขอดูใบขับขี่ ดูเล่มทะเบียน ดูพรบ.
เอ่อ รถกรูโดนชนท้ายนะ
ก็พอรู้ล่ะนะ ว่าเค้าจะกดดันให้เรายอมๆ แล้วรีบไปซะ
แต่ด้วยเราค่อนข้างนิ่ง พวกเค้าก็เลยดูเกรงใจเหมือนกัน
ก็เลยต้องบอกว่า ดาบจะทำยังไงก็ทำซะ
เพราะจะรีบเอาของไปให้.....(ชื่อ สส.ท่านนึง)
ดาบมองหน้าคู่กรณีแอด เหมือนขอความเห็น
เค้าก็เลยถามแอดว่า รู้จัก.......หรือ
ืเราก็พยักหน้า...นึกในใจ
ก็รู้จักสิเค้าดังออก เพียงแต่คุณสส.เค้าไม่รู้จักเรา 55
แล้วเย็นวันนั้น แอดก็ต้องไปส่งของที่บ้านสส.จริงๆนี่นา
เพราะที่บ้านเค้าแค่สั่งของจากที่ร้านพี่สาวแอด
สส.คงไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก 😁
คราวนี้คู่กรณี ปรับโทนเสียงลงจนน่าฟัง ส่งนามบัตรมาให้
บอกกับแอดว่า เฮียเอารถไปซ่อมแล้วกัน อู่ไหนก็ได้
เสร็จแล้วโทรหา จะไปจ่ายค่าซ่อมให้เอง
ไม่ต้องรอประกันหรอกของรถเค้าหรอก เสียเวลา
อ้าว..เปลี่ยนเป็นคนดีมีความรับผิดชอบซะแล้ว
ขับรถกลับบ้านอย่างโล่งอก
แต่ก็แทบรู้สึกสิ้นหวัง กับสิ่งที่เจอะเจอบนท้องถนน
ซึ่งหลายๆท่านก็อาจคุ้นชินกันไปแล้ว
กับการฝ่าฝืนกฏจราจรของบ้านเรา
แค่วันเดียว จอดรถรอไฟเขียวก็โดนบีบแตรไล่
ชลอรถจอดทันทีที่เห็นไฟเหลืองก็โดนชนท้าย
ก็ได้แต่คิดว่า แล้วเราจะอยู่กันแบบนี้หรือ
ไหนจะมีเรื่องของการเล่นพรรคเล่นพวกของผู้มีอำนาจ
การข่มเหงรังแกผู้ที่ด้อยกว่า
ซึ่งกรณีของแอดคงเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ
เมื่อเทียบกับที่หลายๆท่านเจอ
ครั้งนี้ แอดผ่านมันไปได้ ก็อาจจะด้วยความนิ่ง
และไหวพริบเล็กๆน้อยๆ
แต่ก็ยังคงมีคนอีกมากมายที่ถูกกระทำ
และไม่มีทางต่อสู้
ซึ่งเรื่องแบบนี้ ก็ยังคงมีอยู่ในสังคมไทย
เปลี่ยนไปแค่รูปแบบและวิธีการ
แต่ก็คงสิ้นหวังไม่ได้ ได้แต่หวังว่าวันนึงสังคมเราคงดีขึ้นกว่านี้
ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนล่ะนะ
ทำเท่าที่ทำได้ ไม่เอาเปรียบใคร ปฏิบัติตามกฏจราจร
ก็เราเป็นประชาชนนี่นา (^_^)v
cr.pixabay.com
โฆษณา