🌻 ทานตะวัน...ผู้มั่นในรัก 🌻
หลายคนคงเคยได้ยินผ่านหู หรือ เคยได้อ่านผ่านตามมาบ้าง กับตำนานความรักของดอกทานตะวัน กับ ดวงอาทิตย์
แต่หากใครยังไม่เคยทราบ
ผมก็จะขอเล่าสั้น ๆ ในเรื่องตำนานรักดอกทานตะวันให้ได้อ่าน
ณ ดินแดนที่ห่างไกล ย้อนไปในยุคแห่งเทพเจ้าโอลิมปัส มีเทพธิดา นามว่า "ไคลธี" นางอาศัยอยู่ใต้บาดาลลึก วันหนึ่งได้เกิดกระแสน้ำพัดพานางขึ้นมายังโลกใบใหม่ ที่นางไม่เคยเห็น โลกใบนี้ช่างสวยงาม และกว้างใหญ่ และโลกใบนี้ เป็นที่ที่ทำให้นางได้พบกับ สุริยะเทพผู้หล่อเหลา "เทพอพอลโล" จนทำให้นางเกิดตกหลุมรักโลกใบนี้เข้าแล้ว นางจึงตัดสินใจไม่ขอกลับไปยังเมืองบาดาลอีก วันทุกวัน นางเฝ้ามองเทพอพอลโลที่ขับเกวียนตะวันคอยสาดส่องความอบอุ่นให้กับโลกใบนี้ นางเฝ้าแอบฝันว่าสักวันหนึ่งเขาคนนั้น ผู้ที่อยู่สูงจะก้มลงมามองเห็น แต่นางก็ไม่สมหวัง เพราะเขาไม่เคยจะมองเห็น จนวันสุดท้ายของชีวิตนาง นางได้อธิษฐานอ้อนวอนต่อเทพเจ้า
"ข้าแต่เทพบิดร หากข้าจะต้องตาย ข้าขอให้ข้าได้กลายเป็นดอกไม้ ขอให้ข้าได้เฝ้ามองเขาตราบสิ้นแสงอัจจิมาแห่งสุริยัน"
แล้วนางก็สิ้นใจลงตรงนั้น
เทพเจ้าเกิดความสงสารในรักข้างเดียวของนางจึงได้เนรมิตให้ร่างกายของนางกลายเป็นดอกทานตะวัน หยั่งรากฝังแน่น เงยหน้าเฝ้ามองดวงตะวันตราบนาน เท่านาน.....
ผมยังคงประทับใจ และระทดใจในเรื่องราวที่ได้อ่าน
หากถามว่าประทับใจในเรื่องใด ก็คงเป็นเรื่องราวของความรักมั่นของไคลธีที่มีต่อเทพอพอลโล และระทดใจกับความรักที่ท้ายที่สุดแล้วกลับพบแต่ความผิดหวัง
พอนึกย้อนถึงเรื่องดอกทานตะวันแล้ว ก็ทำให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วก็คิดถึงรักครั้งแรก ความรักที่ไม่สมหวัง รักที่ทำได้แค่แอบรัก รักที่เป็นได้แค่น้ำกับพี่โชน รักที่เป็นได้แค่แก้วหน้าม้ากับพระปิ่นทอง (รักเขาข้างเดียวอะแหละ) แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่พอนึกย้อนกลับไปก็ทำให้ยิ้มแล้วส่ายหน้าอย่างระอาได้ทุกครั้งเลยล่ะครับ
ผมเองก็เคยมีพี่โชนหรือพระปิ่นทองอยู่คนหนึ่งครับ เป็นรักครั้งแรกตอนมัธยมปีที่1เลย แรก ๆ เราก็เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันก่อน จนมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรากลายเป็นคู่จิ้นกัน เพื่อนในห้องก็จับจิ้น จิ้นไป จิ้นมา ผมก็เริ่มจะกลายเป็นน้ำหรือแก้วหน้าม้า ผมแอบรักเพื่อนตัวเองครับ จากนั้น เราก็เริ่มตีตัวออกห่างกัน เพราะความรู้สึกอยากรักษามิตรภาพเอาไว้ แต่สุดท้ายผมก็แพ้หัวใจตัวเอง เย็นวันหนึ่งผมก็ได้โทรไปสารภาพความในใจกับเพื่อนของผม แต่ผมไม่ได้รอฟังคำตอบหรอกนะครับ พอไปโรงเรียน เขาก็ทำเหมือนเมื่อวานไม่ได้ยินที่ผมพูด เหมือนว่าเขาเองก็คงอยากรักษามิตรภาพเอาไว้เหมือนกัน จนมาทุกวันนี้ เราได้กลายเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องกันไปแล้ว และผมก็อยากจะตีตัวเองที่สารภาพความในใจออกไปโดยไม่คิดว่าเขาจะอึดอัดใจหรือเปล่า และมันก็ผ่านมา 8 ปีแล้ว ผมย้อนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักที่สุขปนเศร้าทุกครั้งที่คิดถึงเลยล่ะครับ
ผมเขียนบทความนี้ ก็อยากจะมาแชร์เรื่องดอกทานตะวันที่ผมประทับใจ แล้วก็อยากจะถามผู้อ่านทุกท่านว่า เคยมีเทพอพอลโล หรือ พี่โชน หรือ พระปิ่นทองในความทรงจำไหมครับ เขาอยู่กับคุณมานานเท่าไหร่แล้วเหรอครับ แล้วยินดีไหมครับที่เขาเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำ
สำหรับผม ผมยินดีและขอบคุณเขามากเลยครับที่ทำให้รู้ว่า ความสุขจากการรักข้างเดียวเป็นอย่างไร...
มาแชร์กันได้นะครับ แล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของผมครับ 😊
โฆษณา