3 ก.พ. 2020 เวลา 09:16 • บันเทิง
มังกรหยก ภาค ๑...ตอนที่ ๕
กลศึกโต้กลับของเตมูจินในครั้งนี้ โมเมนตั้มการรบถึงกับพลิก...ทัพข้าศึกที่บุกอยู่โครมๆต้องถอยแตกกระเจิง...เตมูจินกวาดตามองจำได้ว่า หนึ่งในข้าศึกที่กำลังเปิดตูดหนี มีนายพลชุดดำผู้ฝากลูกธนูไว้ที่ซอกคอเขา...กำลังหนีอยู่ด้วย...
...”ใครจับนายพลชุดดำนั่นได้ กูมีรางวัลให้อย่างงาม”...คำประกาศของเตมูจิน ทำให้นายพลชุดดำกลายเป็นกระต่ายน้อย หัวซุกหัวซุนหนีฝูงเหยี่ยวไปในทันที...
เหตุการณ์นั้น ก้วยเจ๋งรู้สึกประทับใจทั้งตัวเตมูจินที่เป็นผู้นำองอาจห้าวหาญ และนายพลชุดดำที่โดนไล่ล่า...
...หลายวันถัดมาขณะที่ก้วยเจ๋งเล่นอยู่หน้าบ้าน...ก็มีชายคนนึง ลากสังขารที่เลอะไปด้วยเลือด ครึ่งเป็นครึ่งตายมาบนหลังม้า...ไอ้ม้านั่นก็กระโผลกกระเผลก สภาพไม่ได้ดีกว่าเจ้านายซักเท่าไหร่...
“น้ำๆ ขอน้ำให้ข้าหน่อย”...ชายคนนั้นเอ่ยปากเสียงแหบแห้ง ก้วยเจ๋งจำได้ว่า นี่คือนายพลชุดดำผู้ห้าวหาญ...เขารอดตายมาจากการไล่ล่าได้หรือนี่...
เจ้าหนูก้วยชื่นชมในความเก่งกาจของนายพลชุดดำนี้ มาตั้งแต่เห็นในสนามรบแล้ว...ก็วิ่งตื๋อเข้าไปตักน้ำมาให้ พร้อมอาหารแห้งติดมือ...
...ได้เติมน้ำเติมอาหารเข้าไป นายพลหนุ่มชุดดำก็พอจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้บ้าง...ไม่นานก็ได้ยินเสียงม้ากลุ่มนึงควบเข้ามาแต่ไกล...
...มันมาตามล่ากูแน่เลย นายพลชุดดำคิด...”ไอ้หนู เอ็งรีบไล่ม้าข้าไปไกลๆ ข้าจะซ่อนตัวอยู่ในกองฟาง เอ็งอย่าบอกนะว่าข้าอยู่ตรงนี้”...
...แล้วทหารม้ากลุ่มนั้นก็มาถึง...ผู้นำทหารกลุ่มนี้คือลูกๆของเตมูจิน มาไล่ล่านายพลชุดดำจริงๆ...
...มาเจอเจ้าหนูก้วยเข้า ก็ทั้งขู่ทั้งปลอบอยู่พักนึง...เด็กสมองทึบไร้เล่ห์เหลี่ยมอย่างก้วยเจ๋งก็เผยพิรุธ...แล้วยิ่งฝ่ายไล่ล่าไปเจอกับม้า ยิ่งยืนยันได้ชัดเลยว่า...เจอเป นายพลชุดดำซ่อนตัวอยู่แถวนี้แน่นอน...
...จากทั้งขู่ทั้งปลอบ คราวนี้เจ้าหัวทึบเจอแส้เข้าไปหลายแผล...แต่ความหัวช้าของก้วยเจ๋ง ก็แลกมากับคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม...เขาซื่อสัตย์และอดทนเกินเด็ก เมื่อรับปากกับเจอเป...วีรบุรุษในสายตาของเขาแล้วว่า จะไม่บอกที่ซ่อน...จะเป็นจะตายยังไงเขาก็ตะโกนแต่ว่า...
“ข้าไม่บอกๆ”...
...โถๆๆๆ ไอ้หนูก้วยเอ๊ย...แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ดันตะโกนยังงี้คนอื่นเค้าก็รู้หมดสิวะว่าเอ็งรู้ที่ซ่อน...
จนเตมูจินตามมาด้วยตัวเอง...คราวนี้เด็ดขาดไปเลยว่า ยังไงก็ต้องหาเจอเปให้เจอ ไม่ต้องสนไอ้เด็กเล็กนี่แล้ว...
...ทั้งคนทั้งหมากระจายกันหาไปทั่ว จนเข้าใกล้กองฟางที่เจอเปซ่อนตัวอยู่...ก้วยเจ๋งเด็กซื่อก็ยิ่งเผยพิรุธ โดยการไปยืนจังก้าขวางกองฟางนี้ไว้...
โจจิ...ลูกชายคนโตของเตมูจิน ย่างสามขุมเข้าไป ตีนขวาซัดเต็มข้อกะจะให้ไอ้เด็กดื้อนี่กระเด็น...แต่ก้วยเจ๋งใช้แขนกอดขาคนเตะเอาไว้ แบบสุดแรงไม่ยอมปล่อย...
...โจจิรู้สึกเสียหน้าที่ตนเองเป็นหนุ่มตัวใหญ่โต กลับไม่สามารถเตะเด็กน้อยให้กระเด็นได้...ก็เกิดอาการหน้ามืด เรียกหายาหอม...เอ้อ ไม่ใช่...หน้ามืดไม่สนใจล่ะว่าไอ้ที่กอดขากูอยู่นี่เด็กหรือโต...ชักดาบออกจากฝัก...ไอ้หนู มึงขาดสองท่อนแน่...
...ดาบฟาดเฟี้ยวลงไป ก้วยเจ๋งวัยแค่หกขวบหลับตาปี๋...ทันใดนั้น ก็มีดาบแทงควับออกมาจากกองฟาง รับดาบของโจจิไว้ได้ทันเวลา...
...ไม่ต้องบอกก็เดาถูกใช่มั้ย...เจอเป นายพลชุดดำยอมเผยตัวออกมาก่อนที่ก้วยเจ๋งจะถูกฟันขาดสองท่อน...
...ฝั่งเตมูจินก็ฮือกันเข้าไปกะจะสับให้เละ...เจอเปก็ตะโกนออกมา...”เสียดายโว้ย เสียดายจริงๆ”...
...อ้าวๆๆ จะตายโหงอยู่แล้วยังเสียดายอะไร...เตมูจินรีบห้ามลูกน้อง เพราะอยากรู้ว่าเจอเปมันเสียดายอะไรของมัน...
“กูเสียดายนัก ที่ไม่ได้ตายอย่างผู้กล้ากลางสมรภูมิ แต่กลับต้องมาตายยังกะหมูสับยังงี้...กูเปรียบเหมือนพญาอินทรีปีกหัก นอนกองอยู่กับพื้น ตอนนี้ต้องมาตายเพราะฝูงมดรุมกัด”...
สำหรับชาวมงโกลแล้ว...ไอ้เรื่องศักดิ์ศรีนี่สะกิดเมื่อไหร เป็นยอมกันไม่ได้เลยเชียว...
...ดาบทุกเล่มของฝั่งเตมูจินเลยต้องเงื้อค้างเอาไว้...กลัวว่ารุมกินโต๊ะยังงี้ พวกตนจะกลายเป็นมดตะนอย รุมกัดนกอินทรีตามที่ว่า ซึ่งมันเสียศักดิ์ศรียอมกันไม่ได้...
เปอเลอโจ...เป็นทั้งเพื่อนรักและนายพลของเตมูจิน...ผู้ได้ชื่อว่าเป็นยอดขมังธนู ก้าวออกมาท้าเลย...
“ไอ้เจอเป ได้ข่าวว่ามึงแม่นชิบหาย สองตัวบนสองตัวล่างตรงเป๊ะทุกงวด...งั้นมึงมาประลองธนูกะกูดีกว่า”...
เอ้อ...แล้วทำไมมึงต้องชื่อคล้ายกันด้วยวะ เปอเลอโจ กับ เจอเป...ด้วยก็งงตายชัก
นายพลเปอนี่สนิทกับข่านเตมูจิน ถึงขนาดว่าเตมูจินปลดธนูส่วนตัวพร้อมม้าที่กำลังขี่อยู่...นายพลเปอใช้ธนูและม้าของกู...ก็เหมือนกูได้สังหารมึงด้วยตัวกูเองนะไอ้เจอเป...
เจอเปถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางการรุมล้อมของข่านเตมูจิน แต่ก็มั่นใจในฝีมือธนูของตน บวกกับอยากจะข่มนายพลเปอด้วย...ก็เลยร้องขอแค่คันธนู...ลูกไม่ต้อง...
...เฮ้ย มึงเอาแต่คันธนูไม่มีลูกศร แล้วมึงจะไปสู้เค้าได้ยังไง...
เจอเปบอกเดี๋ยวคอยดู...หาม้าให้กูด้วยแล้วกัน...
โฆษณา