3 ก.พ. 2020 เวลา 13:58 • ประวัติศาสตร์
ไปเที่ยวงานวัดกับพ่อ
เครดิตภาพจาก google
ในช่วงปี2520-2525 แถวบ้านผมเรียกว่ายุในป่าเลยละครับ การคมนาคมมีทางเดียวคือรถไฟ มีสถานีเล็กรถไฟจะจอดเฉพาะรถไฟที่วิ่งระยะสั้นๆ ขณะนั้นผมอายุประมาณสักห้าปีได้ คุณพ่อมีอาชีพทำไม้ในป่าแถวบ้าน ส่วนแม่ก็ยุบ้านเลี้ยงลูก ก็ผมนี่แหละเป็นลูกคนเดียวซะด้วยสิ ช่วงนั้นงานเทศกาลที่เด็กๆอย่างพวกเราจะได้ไปเทียวกัน ก็คืองานกินสลากวัดประจำอำเภอหนึ่งแห่ง แล้วก็วัดประจำตำบลอีกแห่งหนึ่ง ช่วงหลังนี้มีวัดอีกวัดหนึ่งเริ่มเจิรญชึ้นมา พระอาจารย์ท่านมีชือเสียงเรื่องความศักสิทธิ์ แม่กระทั้งผบ.ทบ.สมัยนั้นยังทำกฐินมาทอดที่วัดนี้เลยครับ งานนี้ใหญ่โตมโหฬารมากสำหรับเด็กๆอย่างพวกเรา งานนี้พ่อจะไปเทียวกับเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกันด้วยผมจะเลยขอไปเทียวด้ย เดินทางกันตั้งแต่ตอนเทียงขึนรถไฟไปกัน ทั้งที่ระยะทางแค่ประมาณ 20 กิโลได้ แต่ที่ต้องไปแต่เทียงเพราะมีรถไปงานแค่ขบวนนี้เที่ยวเดียว เสร็จแล้วคืนนี้ต้องนอนที่วัด ซึ่งวัดจะมีศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ให้นอนกันสบายๆ ตอนเช้าก็มีอาหารเลี้ยง ก็อาหารที่เขามาทำบุญนั่นแหละ เมื่อพระอาจายรย์ท่านฉันแล้ว พวกเราก็ไปทานได้ อาหารเยอะแยะไปหมด เยนนั้นพ่อพาไปกินก๋วยเตี๋ยวยังนึกรสชาดก๋วยเตี๋ยววันนั้นเปนอย่างดีทำไมมันอร่อยอย่างนี้ พึ่งมารู้ตอนที่โตมานี่แหละๆ เป็นเพราะผงนัวนั่นเอง 555 พอ่พาไปดูรำวง แต่ที่น่าตื่นเต้นคือสนามมวย ต่อยกันสดๆ เลือดสดๆทะลัก ไม่ใช่อะไรคิ้วนักมวโดนศอกคู่ต่อสู้แตก พอตกดึกก็มานอนที่ศาลามีหมอนให้หนุนนอนด้วยนะ เพื่อรุ่นน้องของพ่อบอกว่าถ้าไม่เอาลูกชายมาด้วยจะพากลับบ้านคืนนี้ละ วิธีกลับกะคือแอดโดดขึ้นรถไฟขนสินค้าไป พอไปถึงสถานีที่บ้านผมก็โดดลงเลยเพราะรถไม่จอด แค่ชลอๆเท่านั้นเอง นี่คือความสนุกของลูกชายอิพ่อที่ได้มาเที่ยวงานกลางคืน วันนี้มานั่งปั้นจนจบเรื่อง คิดถึงพ่อนะครับพ่อพึ่งจากผมไปเมื่อเดือนกันยายนปี 61 นี้เอง ขอบคุณพ่อที่อดทนลำบากส่งผมเรียนหนังสือจนจบ มีงานทำที่มั่นคงจนถึงปัจจุบัน
โฆษณา