12 ก.พ. 2020 เวลา 04:36 • ไลฟ์สไตล์
แตกต่างที่มุมมอง
อย่าให้แตกต่างที่ความคิด....
4
ในเวลาที่คนเรา พบหรือเห็นสิ่งใด ๆ หรือประสบเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม เราทุกคนล้วนมีมุมมองที่แตกต่างกันไป
โดยมุมมองของแต่ละคน ณ เวลานั้น อาจตีความจากภาพตรงหน้า จากการคาดเดา จากประสบการณ์
หรือบางทีก็อาจจะประเมินด้วยความเชื่อ
อารมณ์ หรือความรู้สึก
ในชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละวันนั้น คนเราจะมีมุมมองการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ
บางครั้งก็ยากจะตัดสินว่าได้ว่า ใครคิดผิด หรือใครคิดถูก
1
เพราะบางที ความถูกผิดหรือความเข้าใจ ก็ถูกกั้นกลางด้วยความไม่รู้ และความจริง
บางอย่าง
วันนี้มีนิทานเรื่องหนึ่ง
จะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องของมุมมองความคิด ที่ไม่เหมือนกัน เพราะมองกันคนละมุม
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร
เชิญติดตามครับ
อากงแก่ ๆ คนหนึ่ง รับหน้าที่เลี้ยงดูหลานที่กำลังอยู่ในวัยซนทั้งสี่ หลานทั้งสี่ก็เล่นกันบ้าง ตีกันบ้างตามประสาเด็ก
แต่ครั้งหนึ่งรุนแรงจนถึงขนาดที่อากงต้องออกโรงห้ามปราม เมื่ออารมณ์ทุกฝ่ายสงบลง อากงจึงเรียกหลาน ๆ มานั่งล้อมโต๊ะคุยกัน
อากงบอก
"เอาล่ะหลาน ๆ หลับตานะ หลับตา"
พอหลาน ๆ หลับตาอากงก็เดินกลับเข้าไป
ที่ห้องเก็บของ แล้วหยิบตะเกียงเก่า ๆ ออกมาอันหนึ่ง อากงเปิดฝาครอบ จุดไฟ แล้วปิดฝาครอบ
อากงบอกหลานทั้งสี่ให้ลืมตา "บอกซิว่าโคมไฟสีอะไร ?"
เด็กทั้งสี่ลืมตาขึ้น เห็นเปลวไฟในตะเกียง
สีต่าง ๆ ซึ่งต่างก็แย่งกันตอบ
คนที่นั่งด้านหนึ่งบอก สีแดง
อีกด้านหนึ่งบอกว่า สีเขียว
อีกด้านหนึ่งบอก สีเหลือง
และอีกด้านหนึ่งเห็น สีน้ำเงิน
จากคำตอบเล็ก ๆ กลายเป็นเสียงถกเถียง และเริ่มทะเลาะกันอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง จนเกือบกลายเป็นกรณีพิพาท
อากงนิ่ง ปล่อยให้อารมณ์ราวกับพายุ
ของหลานทั้งสี่เริ่มสงบลง
หลานคนหนึ่งจึงเอ่ยปากถามว่า "อากงของอย่างเดียวกัน ทำไมจึงมีตั้งหลายสี ?"
อากงยิ้มแล้วบอกว่า "อากงจะทำอะไรให้ดู"
อากงเดินไปที่โต๊ะหยิบฝาครอบตะเกียงออก แล้วหมุนฝาครอบนั้นให้หลาน ๆ ดู
ปรากฏว่าฝาครอบตะเกียงนั้น ทั้งสี่ด้าน มีสีที่แตกต่างกันไป.. สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน
อากงถามอีกว่า "คราวนี้บอกอากงซิว่า เห็นตะเกียงเป็นสีอะไร ?"
"สีของไฟ" หลาน ๆ ตอบเป็นเสียงเดียวกัน
"อากงขอถามอะไรสักสองข้อ เมื่อสักครู่นี้ ใครตอบผิด ?"
หลาน ๆ ตอบโดยพร้อมเพรียงกัน "ไม่มีใครผิด"
อากงจึงกล่าวต่อไปว่า
.
"เจ้าทั้งสี่นั่งอยู่ในที่เดียวกัน มองของอย่างเดียวกันในเวลาเดียวกัน ยังเห็นไม่เหมือนกัน
.
นั่นก็เพราะคนทุกคนมองตะเกียงจากมุมมอง
ของตัวเอง มองในสิ่งที่ตัวเองเห็น และก็
็เชื่อมั่นในสิ่งที่เห็น"
"แต่ถ้าเจ้าอยากรู้ว่า ทำไมคนอื่นจึงเห็น
ไม่เหมือนเรา แตกต่างกับเรา ก็จงเดินไปดูที่มุม ของเขา แล้วเราก็จะรู้ จะเข้าใจว่า เขาเห็นอย่างไร เห็นและคิดได้อย่างที่เขาเห็น"
"ต่อไปในอนาคต เวลาที่พวกหลานๆ ต้องเข้าไปอยู่ในสังคม จะต้องพบคนต่าง ๆ มากมาย ที่มองสิ่งเดียวกัน
.
แต่กลับเห็นไม่เหมือนกัน เพราะมีมุมมองที่ต่างกัน ก็อย่าไปโกรธเขา"
"เพราะนั่นเพียงแต่เป็นการมองต่างมุม ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด"
"และอย่าไปกลัวว่า ตัวเองจะผิดที่มองไม่เห็นเหมือนคนอื่น
.
เพราะแต่ละคนก็จะเห็นสิ่งต่าง ๆ ด้วยขอบข่ายจากประสบการณ์และจาก
สิ่งแวดล้อมของตนเอง"
"ถ้าเราอยากเข้าใจว่า ทำไมคนอื่นถึงคิดแบบนั้น เห็นแบบนั้น ก็จงเดินไปที่มุมของเขา
.
เราก็จะรู้ว่าเขาคิดอะไรทำให้เราเข้าใจคนอื่น
ได้มากขึ้น และเมื่อเราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น จะทำให้คนอื่นยอมที่จะเดินมาและเข้าใจหลาน
เช่นกัน"
อากงถามต่อ
.
"แล้วสิ่งที่เห็นครั้งแรกกับครั้งหลังเป็นของ
อย่างเดียวกันไหม ?"
หลาน ๆ ตอบ
"อย่างเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน"
"อย่างไร ?" อากงถาม
หลานตอบว่า
.
"ครั้งแรกเราเห็นแต่ฝาครอบตะเกียง แต่ครั้งหลังเราเห็นเปลวไฟที่อยู่ในตะเกียง"
อากงจึงกล่าวว่า
.
"นี่เป็นการบอกว่า จงอย่ามองสิ่งต่าง ๆ เพียงแค่ที่เห็น...แต่จงเข้าใจทุกสิ่งอย่าง
ที่มันเป็น"
🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀
นิทานเรื่องนี้ สอนให้คิดว่าบางทีคนเรา อาจตัดสินอะไร ๆ ด้วยบางอย่าง โดยไม่รู้ว่า อีกด้านหรืออีกมุมนั้นมีอะไรอยู่
เวลาเราตัดสิน หรือมีมุมมอง
ต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น แต่ละเรื่อง แต่ละครั้ง ที่บางครั้งในเหตุการณ์หนึ่ง ๆ
.
จะมีคนที่อยู่จุดที่แตกต่างกัน ๆ ไป บางทีมันอาจจะทำให้เรามีมุมมองใหม่ ๆ ในการดำเนินชีวิตไปแต่ละวันก็เป็นได้..
หวังว่าเพื่อน ๆ คงได้ประโยชน์
จากบทความนี้ ไม่มากก็น้อย 💕
ขอขอบคุณ นักอ่านทุก ๆ ท่าน
กดไลก์ กดติดตาม เป็นกำลังใจด้วยนะครับ 💕
.... ซัน .... 🌞
12/02/2020
โฆษณา