7 ก.พ. 2020 เวลา 04:02 • บันเทิง
ความหวังช่อง “พระนาง” เจนใหม่ ถึงเวลาเฉิดฉาย
“ดารา-นักแสดง” ถือเป็นอาชีพที่มีอายุงานค่อนข้างจำกัด เพราะเมื่อใดที่อายุหลุดเกินที่จะเล่นบท “พระเอก-นางเอก” ไปแล้ว ความนิยมก็จะลดลงทันที
แถมเมื่ออายุงานมากขึ้น ตัวเลือกทางการแสดงก็ยิ่งน้อยลง จะเล่นบทซ้ำก็ไม่ได้ เล่นบทเบาๆ ก็ไม่ได้ เพราะสุดท้ายเดี๋ยวคนดูก็จะเริ่มเบื่อกันไป
ซึ่งเหตุผลข้างต้นนี่แหละ ที่ทำให้เหล่า “นักแสดง” รุ่นใหญ่ที่ชั่วโมงบินสูง เริ่มหันเหตัวเองออกจากรังเดิม เพื่อไปหาประสบการณ์ใหม่ เพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง ไม่ตายรังเป็นของตายอยู่ช่องเก่า
เมื่อรุ่นพี่ที่ชั่วโมงบินสูง เริ่มจะต้องเลือกงาน เลือกบทมากขึ้น ภาระหนักก็จะตกไปอยู่ที่ช่อง เพราะจะต้องคอยปั้นนักแสดงดาวรุ่งใหม่ๆ ขึ้นมาประดับวงการอยู่เสมอ
แต่การจะปั้นใครซักคนให้มีชื่อเสียงขึ้นมาชั่วข้ามคืนในสมัยนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้หลายช่องจะมีนักแสดงรุ่นใหม่สต็อกไว้เป็นสิบ แต่ก็ดันแจ้งเกิดได้ไม่กี่คน
ซึ่งบางคนก็ยังต้องอาศัยบารมีรุ่นพี่ช่วยดันอีกแรง บางช่องก็ใช้วิธีการค่อยๆ ป้อนงานให้ เป็นตัวสาม ตัวสี่ ให้คนดูค่อยๆซึมซับหน้าตา และฝีมือ แล้วค่อยๆ ดันขึ้นบทพระเอก-นางเอกเต็มตัว จากละครเย็น ก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นไปละครหลังข่าว เป็นขั้นตอนเบสิคในการจะปั้นซุป’ตาร์ซักคน
อย่างปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่วงการบันเทิงคึกคักอย่างมากในการแจ้งเกิด “ดาราดาวรุ่ง” บางคนที่ไม่ใช่หน้าใหม่ใสกริ๊ก ก็เริ่มเฉิดฉายขึ้นมา มีกระแสเป็นที่พูดถึงจากผลงานปังๆ และคาดว่าจะปังต่อเนื่องในปีนี้
จนกลายเป็นความหวังและเป็นนักแสดงเจเนอเรชั่นใหม่ที่ช่องต้องยกขึ้นหิ้งแทนเหล่ารุ่นพี่คิวทอง
ไล่กันทีละช่องเริ่มตั้งแต่ช่อง 3 ที่เห็นได้ชัดว่าตั้งใจดันเด็กใหม่เต็มที่ เอาที่มาแรงมากที่สุดที่แจ้งเกิดแบบดังไม่ลืมหูลืมตาและดูท่าสายป่านความดังจะทอยาวไปเรื่อยๆ ก็คือหนุ่ม “ภณ-ณวัสน์ ภูพันธัชสีห์” ที่ดังมากๆ จากละครเรื่อง “ตราบาปสีชมพู” และ “เพลิงพรางเทียน”
ด้วยรูปร่างหน้าตา และฝีมือการแสดงที่ส่งออกมานั้น ก็ทำให้มีงานละครต่อเนื่อง ปีนี้มีงานละครต่อคิวถึง 3 เรื่อง ทั้ง "เก็บแผ่นดิน" , "พราวมุก" และ "ฟากฟ้าคีรีดาว" ที่หากออกอากาศทั้งหมดพร้อมกันในปีนี้ ปีหน้าหนุ่มภณก็เตรียมขึ้นรถพาเหรดได้เลย
ส่วนคนที่ดันแรง แต่ยังต้องรอดูฟีดแบกอีกทีว่าจะปังไม่ปัง ก็คือ “พีค-กองทัพ ยุทธพิชัย” ที่หลังจากให้ไปก่อสร้างฐานแฟนคลับไกลถึงประเทศเกาหลีแล้ว กลับมาไทยปุ๊ปก็ได้ลงละคร “ให้รักพิพากษา Dare to Love” ประกบคู่รุ่นพี่เบอร์ใหญ่ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” ทันที
รวมถึงหนุ่ม “ไอซ์-ภาณุวัฒน์ เปรมมณีนันท์” หนุ่มเซอร์สไตล์ที่ไม่ค่อยเห็นในช่อง 3 ก็ถูกดันให้ประกบคู่สาว “ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ในละคร “วาสนารัก”
ข้ามฟากไปฝั่งอโศก ช่องวัน31 ช่องนี้ระยะหลังค่อนข้างดันนักแสดงใหม่แบบสุดตัว เพราะที่ผ่านมาแม้จะดึงนักแสดงอิสระเบอร์ใหญ่มาร่วมงานด้วยเรียกกระแส แต่ผลที่ได้ก็ดูไม่ค่อยคุ้มทุน สู้หันมาปั้นเด็กตัวเองให้เกิดไปเลยจะดีกว่า แล้วใช้วิธีขยี้บทละครให้สุด เอาให้ฟินสุด ดราม่าสุดไปเลย
ซึ่งผลจากการดันเด็ก ปีที่ผ่านมาละครที่เรตติ้งปังของช่องก็มาจากผลงานเด็กใหม่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “ภาตุฆาต”, “หัวใจศิลา”, “เสียงเอื้อนสะเทือนดาว” หรือบางเรื่องที่กระแสมาเต็มก็มักจะเป็นการจับคู่ให้หน้าใหม่ปะทะหน้าเก่า เช่นเรื่อง “ฤกษ์สังหาร” หรือ “เรือนไหมมัจจุราช” ที่เพิ่งลาจอไป
จากผลผลิตที่สร้างมูลค่าขนาดนี้ รายชื่อนักแสดงที่ไม่ว่าจะเป็น “ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต”, “ตรี-ภรภัทร ศรีขจรเดชา” , “เน๋ง-ศรัณย์นรา ประเสริฐกุล”, “เพลงขวัญ-นัตยา ทองเสน”, “ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์”,
“เฟิร์น-นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล”, “มิลลี่-คามิลล่า กิตติวัฒน์” และ “มะปราง-อลิสา ขุนแขวง” ที่ถูกขนานนามว่า “แก๊งความหวังของหมู่บ้าน” แห่งช่องวัน ก็เตรียมขึ้นแท่นเป็นลูกรักช่องได้เลย
ไม่ใช่แค่พวกเขาเหล่านี้เท่านั้นที่ที่เป็นเจนความหวังใหม่ของที่นี่ เพราะยังมีนักแสดงความหวังใหม่ที่ช่องวันปั้นขึ้นในรายการ The Next One อีกด้วย ที่ช่องเตรียมดันแจ้งเกิดรัวๆ ในปีนี้
ส่วนบ้านหลังใหญ่ย่านหมอชิต ก็ขอดันเด็กๆ ในช่องแบบรัวๆ เช่นกัน หลังจากเด็กใหม่หลายคนเปรี้ยงปร้างไม่เบาจากการประกบดารารุ่นพี่ อย่างเช่นสาว “มุกดา นรินทร์รักษ์” หรือ “เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” ครั้งนี้ช่องเลยจับพวกเขามาดันคู่กันเสียเลย ในละครเรื่อง “โซ่เวรี”
เราจะไม่ค่อยเห็นฝั่งช่อง 7 จับดารารุ่นนี้คู่กันแล้วดันลงหลังข่าว งานนี้มองจากพระรามสี่มาถึงหมอชิตก็รู้แล้วว่าปีนี้ใครจะปังเป็นความหวังใหม่ของช่อง
แต่ก็ใช่ว่าจะดันแค่ 2 คนนี้รัวๆ เพราะเรายังได้เห็นนักแสดงดาวรุ่งในช่องหลายคน ขยับจากพระนางละครเย็นมาสู่ละครหลังข่าว เช่นหนุ่ม “ยูโร-ยศวรรธน์ ทะวาปี” ที่ถูกทาบให้เป็นพระเอกหลังข่าวเรื่องแรกในละคร “คนเหนือคน” ประกบคู่นักแสดงเจนเดียวกันสาว “เนย-ปภาดา กลิ่นสุมาลย์”ที่ยังคงเล่นละครบู๊ไม่หยุด
หรือสาว “พระพาย-รมิดา ธีรพัฒน์” ที่ได้เป็นนางเอกเต็มตัวในละครหลังข่าวเรื่อง “ฟ้ามีตะวัน” ประกบคู่หนุ่ม “โดนัท-ภัทรพลฒ์เดชพงษ์วรานนท์” ส่วนสาว “พิงค์พลอย-ปภาวดี ชาญสมอน” ที่ปังจาก “ขิงก็รา ข่าก็แรง” ก็ได้เลื่อนขั้นเช่นกัน กับละครหลังข่าวเรื่อง “รหัสริษยา”
ด้านพระเอกที่ปังมาพร้อมกันอย่าง “โก้-วศิน อัศวนฤนาท” ก็ไม่แพ้ เพราะเตรียมถูกวางตัวเป็นพระเอกหลังข่าวประกบคู่นางเอกรุ่นพี่เช่นกัน
จริงๆ ต้องบอกว่าช่อง 7 ตอนนี้นั้น มีดาราดาวรุ่งอยู่มากทีเดียว และชื่อของพวกเขาแต่ละคนก็กำลังติดตลาดฐานแฟนคลับช่องทุกคน แม้บางคนจะยังไม่ถูกดันขึ้นรับบทพระ-นางหลังข่าวเลยก็ตาม
อาทิเช่น “บอม-พงศกร โตสุวรรณ”, “เกรท-สพล อัศวมั่นคง”, “แชป-วรากร ศวัสกร” และ “เมฆ-จุติ จำเริญเกตุประทีป” แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีละครแน่นเอี๊ยดทุกคน
จะเห็นว่าเหล่าดาวรุ่งที่เราเอ่ยถึง บางคนกำลังเป็นที่รู้จัก บางคนมีชื่อติดลมบนชนิดที่เอ่ยขึ้นมาแฟนก็ต้องร้องอ๋อจำได้ และหากดูชื่อผลงานที่พวกเขาได้รับมา ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าพวกเขาเหล่านี้จะต้องเกิดแน่ๆ
แต่อาจจะต้องรอเวลาอีกซักนิดให้ผลงานพวกเขาพร้อมออนแอร์ เพราะเท่านี้พวกเขาก็เปรียบเสมือน “ความหวังใหม่” ที่จะทำให้หลังจากนี้ช่องไม่ต้องง้อเบอร์ใหญ่หรือใครจะไปจะมาอีกแล้ว
โฆษณา