อยากเริ่มลงทุน ทำอย่างไร?
ลองถามตัวเองตามเส้นทางนี้...
ก่อนเริ่มลงทุนในอะไรก็ตาม
ผมคิดว่า.....คำถามแรกที่ต้องถามตัวเองก่อนคือ
มีเงินเก็บรึยัง ?
ซึ่งถ้ายังไม่มีเนี่ย ยังไม่ต้องคิดอะไรให้เมื่อยตุ้ม
ตั้งใจทำงาน รู้จักคุมค่าใช้จ่าย และเก็บเงินให้ได้ก่อน
ซึ่งถ้าเริ่มมีเงินเก็บบ้างแล้ว คำถามถัดมาคือ
เงินเก็บเพียงพอหรือยัง และควรจะมีเงินเก็บเท่าไหร่ ?
ซึ่งคำตอบมันจะไม่เหมือนกันในแต่ละคน
แต่ถ้าคิดง่ายๆ ผมมองว่าควรจะมีสักจำนวนนึง
ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น โดนไล่ออก หรือต้องตกงาน
ควรมีเงินพอให้ดำรงชีพอยู่ได้สัก 6 เดือน
ซึ่งเงินก้อนนี้ ไม่ต้องคิดนำไปลงทุนอะไรเลย
ฝากออมทรัพย์ไว้ก็พอ
เพราะเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ต้องสามารถถอนได้เสมอ
หลังจากมีเงินสำรองฉุกเฉินแล้ว
ผมคิดว่า เราควรมีประกันชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหตุไว้บ้าง
ไม่จำเป็นต้องทำซะเยอะแยะ จนส่งเบี้ยแล้วเป็นภาระ
(ใครที่บริษัททำให้แล้ว ก็เอามาคิดรวมด้วย)
เอาให้พอคุ้มครอง ป้องกันความเสี่ยงได้บางส่วน
เพราะถ้าเกิดต้องป่วย นอน รพ. สัก 1 อาทิตย์
ซึ่งถ้าไม่มีประกันเลย เงินที่เก็บมาตั้งใจจะเอาไปลงทุน
อาจหมดไปอย่างรวดเร็ว
จำไว้ว่า "ก่อนจะรวย ต้องป้องกันไม่ให้จนก่อน"
จากนั้น ถ้ายังมีเงินออมเหลืออยู่
อาจเริ่มมองมันเป็นเงินเย็นได้แล้ว
ควรหาช่องทางเอาไปลงทุนทำให้มันงอกเงย
เพราะทุกวันนี้ การฝากธนาคารมันได้ดอกเบี้ยน้อยมากๆ
ถ้ามีภาระต้องเสียภาษี และต้องการลดหย่อนภาษี
อาจนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในสิ่งที่ได้สิทธิ์ในการลดหย่อน
เช่น ประกันชีวิต, LTF, RMF ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เรารับได้
แต่ต้องอย่าลืมว่า การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี
มักมาพร้อมเงื่อนไข ว่าต้องลงทุนนานเท่านั้นเท่านี้ปี
ควรเช็คดูให้มั่นใจ ว่าเงินที่จะนำมาลงทุนนั้น
สามารถทิ้งไว้ได้ตามระยะเวลาที่เงื่อนไขกำหนด
ถ้าลดหย่อนภาษีครบถ้วนแล้ว
ยังเหลือเงินที่อยากนำไปลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติม
ต้องถามตัวเองว่า
เราชอบที่จะศึกษา หรือเรียนรู้เรื่องการลงทุนด้วยตนเองไหม ?
ซึ่งถ้าไม่ชอบ หรือไม่มีเวลาที่จะศึกษา
การเลือกลงทุนในกองทุนรวม ที่มีผู้บริหารกองทุนบริหารให้
ก็ดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ทั้งนี้กองทุนก็มีมากมายให้เลือก
ทั้งความเสี่ยงน้อย ไปจนถึงความเสี่ยงมาก
ผลตอบแทนก็ต่างกัน
แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบศึกษา และอยากลงทุนด้วยตนเอง
ก็มีช่องทางมากมายให้เลือกลงทุน
มีข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง ระยะเวลาที่ต้องลงทุน และผลตอบแทน แตกต่างกันไป
ผมไม่สามารถตอบได้ว่าอันไหนดีกว่าอันไหน
มันอยู่ที่ความถนัดของแต่ละบุคคล และเหมาะกับคนนั้นๆมากกว่า
นี่ก็เป็นเพียงแค่ภาพรวมคร่าวๆ อยากให้เห็นภาพใหญ่
หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เริ่มมีการวางแผน
จริงๆแล้ว ยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ทั้งในการลดหย่อนภาษี
ในการเลือกกองทุน รวมไปถึงการวิเคราะห์การลงทุนด้วยตนเอง
ไว้คุยกันในโอกาสต่อไปนะครับ
- 35
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
