12 ก.พ. 2020 เวลา 23:19 • ปรัชญา
Attitude that make your life changes.
ทัศนะ...คติ เปลี่ยนชีวิต
คนจำนวนไม่น้อยในสังคม ที่ได้เรียนรู้แนวทางการจัดการชีวิตของในหลวงรัชกาลที่เก้ากันมาแทบทั้งนั้น
เชื่อได้ว่าคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยที่ได้เกิดมาทันยุคสมัยของพระองค์ท่าน
คนมากมายได้พบจุดเปลี่ยนในการสร้างชีวิต ด้วยการน้อมนำทัศนะที่ถือว่าเป็นสุดยอดมาปรับใช้ในชีวิตกัน
ผมเชื่อว่า..ทุกทัศนะที่ถูกถ่ายทอดออกมาล้วนมีพลังอันยิ่งใหญ่มาก จนไม่อาจมองข้ามกันไปได้เลย
สิ่งที่อยากจะบอกเล่าอีกสักครั้ง เชื่อได้ว่าทัศนะแนวทางที่เป็นคติ สอนใจคนนั้น
มีมากมายที่ถูกถ่ายทอดมาตลอดเวลาหลายทศวรรษ ล้วนแล้วสามารถพลิกเปลี่ยนชีวิตคนเรา ให้เปลี่ยนได้ ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม
สำหรับผมนั้นได้มีประสบการณ์เห็นผู้คนที่ได้นำทัศนะไปใช้เป็นประโยชน์ในชีวิตจริงอยู่ไม่น้อย
จึงขอหยิบยกมาบางส่วน ที่คิดว่าเป็นแก่นที่สำคัญ นำมาขยายความ สรุปเป็น๙ทัศนะ..อันสำคัญดังต่อไปนี้คือ
(1)"ความคิด..คือแม่บทใหญ่ของทุกสิ่ง"
ทุกสิ่งต่างมีจุดเริ่มต้นมาจากความคิดเสมอ จึงสามารถพลิกชีวิตคนเราให้เปลี่ยนได้
ความคิดทีดีเป็นเสมือนพิมพ์เขียว ที่อยู่ในใจคนเรา ก่อนที่จะนำมาสร้างความเป็นจริงที่เป็นไปได้ให้เกิดขึ้นตามมา
คนเราจึงต้องคิดก่อนทำ..และคิดก่อนพูด..เสมอจึงจะสำเร็จได้
(2)"การระเบิดจากข้างใน..คือความยั่งยืน"
สิ่งที่อยู่ในใจคนเราล้วนคือพลังที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมาจากแรงบันดาลใจ ก็จะยิ่งมุ่งมั่นเดินหน้าสานฝันให้เป็นจริง โดยมักไม่ท้อที่จะหยุดลงได้อย่างง่ายๆ จึงยั่งยืนเสมอ
ส่วนสิ่งที่ระเบิดมาจากภายนอก มักจะเป็นพลัง ที่มาจากแรงกระตุ้นและแรงจูงใจ เพื่อลับ ลวงพราง ล่อหลอกให้คนเราหลง
จึงมักจะเป็นพลังที่มีอยู่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แล้วก็หายหมดไป ต้องคอยหาแรงกระตุ้นชนิดใหม่มาแทนเสมอ
(3)"การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา คือแนวทางการสร้างความเปลี่ยนแปลง"
เมื่อคนเรามีความเข้าใจทุกสิ่งว่า เรากำลังทำอะไรเพื่ออะไรอย่างชัดเจน คนเราจะสามารถเข้าถึงผู้คนได้ด้วยพื้นฐานเข้าใจต่อกัน และจะสามารถนำไปสู่การพัฒนาเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้
(4)"สามห่วง สร้างสมดุลให้ชีวิต คือความมีเหตุผล ความพอประมาณ ความมีภูมิคุ้มกัน"
ชีวิตที่ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป ย่อมเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ในทุกสิ่งที่ทำ
ดังนั้นเมื่อสิ่งที่คนเราทำนั้น มีความสมเหตุสมผล มีความพอเหมาะพอดี และมีความรอบคอบระมัดระวังไม่ประมาท จนเกินตัว เกินกำลัง
ก็ย่อมที่จะสร้างสมดุลชีวิตให้เป็นสุขได้เสมอ
(5)"คุณธรรม นำความรู้ คือเงื่อนไขคู่สู่ความสำเร็จทุกสิ่ง"
เมื่อความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม เป็นจุดเริ่มต้นลงที่ใจคนได้แล้ว
ก็ย่อมที่จะมีความพร้อมที่จะช่วยให้ความรู้ที่มี สามารถถูกนำไปใช้ ให้เกิดผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ต่อผู้คนและสังคมอย่างบริสุทธิ์ใจ มากกว่าการมีผลประโยชน์แอบแฝงใส่ตน
(6)"สามระดับชั้น การพัฒนาที่มั่นคง คือพึ่งตนเอง พึ่งพาซึ่งกันและกัน เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย"
ชีวิตคนเรานั้นไม่มีทางลัด จึงจำเป็นต้องอาศัยการสั่งสมพัฒนาการให้เกิดความเข้มแข็ง อย่างมั่นคงไปตามลำดับและจังหวะชีวิต
จากการอยู่ให้รอดพึ่งตนได้ เติบโตไปแบบพึ่งพากันได้ และอยู่ในสถานะยืนหยัดอยู่ร่วมกันได้
(7)"การทำหน้าที่ เพื่อหน้าที่ คือไม่ใช่การทำไปตามหน้าที่เท่านั้น"
ชีวิตคนเรานั้น ล้วนมีบางสิ่งที่ต้องทำอย่างมีจุดยืน ชีวิตจึงมีคุณค่าและความหมาย
การอยู่เพื่อหน้าที่คือการสร้างชีวิต แต่การอยู่เพื่อทำไปตามหน้าที่นั้น คือการใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆอย่างไร้ความหมาย
(8)"ขาดทุน คือกำไร ถือเป็นการให้อย่างไม่มีเงื่อนไข"
เงินไม่ใช่เป็นตัวตั้งที่ทำให้คนเรามีค่าเหนือไปกว่า การเป็นผู้ให้และการแบ่งปันต่อผู้อื่น
โดยไม่หวังรอผลตอบแทนกลับคืนมา แม้แต่คำชมเชย
เมื่อคิดจะช่วยคนให้มีที่ยืนในสังคม ต้องไม่คิดเรื่องกำไรขาดทุนมานำหน้า
เพราะกำไรที่แท้จริงนั้นคือการได้ทำความดี
(9)"พระพุทธรูปจะงามสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อมีคนปิดทองหลังพระ"
การทำทุกสิ่งเพียงแค่เอาหน้าก็เป็นได้แค่การปิดทองเฉพาะส่วนหน้าเท่านั้น
ความสำเร็จที่แท้จริงนั้น ล้วนเกิดขึ้นมาจากคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น งานจึงสำเร็จบริบูรณ์ครบถ้วนทุกด้าน
ด้วยทัศนะ..9สิ่งดังได้กล่าวมานี้ ถือเป็นทัศนะ..ที่ช่วยเสริมสร้างให้เกิด"ปัญญาปฏิบัติ"(Action Wisdom) ที่คนเราจะสามารถรู้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น
เมื่อคนเรายิ่งเรียนรู้ ฝึกปรับใช้ ในวิถีชีวิตประจำวัน เราจะยิ่งรู้คุณค่าแห่ง"พลังการพลิกเปลี่ยน.. ฟื้นคืน และยืนหยัดได้ "
ว่าสามารถส่งผลให้ชีวิตใครบางคน ได้มีโอกาสกลับตัวเข้ามาเดินบนเส้นทาง เช่นเดียวกับคนปกติได้อย่างสง่างาม....
"ทัศนะ..ที่ไม่เคยลืมไปจากความทรงจำแห่ง..ความรักในพระองค์ได้เลย.."LL&L13/2/63
โฆษณา