14 ก.พ. 2020 เวลา 04:58
ขอโทษทีรักนี้มีเวลาแค่วันเดียว : ตำนานความรักที่มีวันเวลาเป็นอุปสรรคขวางกั้นระหว่าง หญิงทอผ้า และชายเลี้ยงวัว
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะกับ เมย์มีเรื่องเล่านะคะ เพราะทุกที่มี เรื่องเราจึงเก็บมาเล่านะคะ วันนี้เรามาติดตามกันดีกว่าค่ะว่าเรื่องราวแห่ง ความรักเรื่องไหนที่จะถูกนำมาให้อ่าน
สำหรับวันนี้เราจะนำตำนานความรักของจีน เป็นตำนานความรักที่ยาวและ ประวัติที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะคะ ซึ่งตำนานที่ว่านั้นก็คือ “หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า” นั่นเองค่ะ ซึ่งวันที่ 7 เดือน 7ตามตำนานแล้ว เชื่อว่าเป็นวันที่ หนุ่มเลี้ยงวัวนั้นได้กลับมาพบกับสาวทอผ้าค่ะ
ซึ่งจุดกำเนิดของวันที่ว่านั้นก็มาจากตำนานปรัมปราของจีน ในสถานที่ที่ชื่อว่า “ภูเขาเพชร” ว่ากันว่าเป็นจุดที่นางฟ้าลงมาเล่นน้ำ และเป็นเวลาประจวบเหมาะกับ ชายหนุ่มเลี้ยงวัว ชื่อว่า “หนิวหลาง” อยู่บริเวณนั้นพอดี เขาพบเจอนางฟ้าเจ็ดองค์ที่ลงมาจากสวรรค์เพื่อลงมาเล่นน้ำตรงบริเวณทะเลสาบเข้า พอดี วัวของ “หนิวหลาง” ได้กระซิบและออกอุบายให้เขาไปขโมยเสื้อผ้า ของเหล่านางฟ้ามา
โดยให้เขาแอบสังเกตการณ์ว่าหลังจากที่เหล่านางฟ้าเล่นน้ำเสร็จแล้ว พวกเธอนั้นจะทำอย่างไรแล้วจะพบเสื้อผ้าของพวกนางหรือไม่ แหมวัวของ หนิวหลางนี่ก็แอบแสบใช่ย่อยนะคะเนี่ย แต่ว่าหลังจากที่พวกนางนั้นอาบน้ำ เสร็จแล้ว เมื่อไม่พบเสื้อผ้า ก็ให้นางฟ้าน้องเล็ก ที่ชื่อว่า “จือหนี่” ซึ่งแปล ตรงตัวว่าหญิงทอผ้า ไปตามหาเสื้อผ้ามาคืนให้พวกพี่ ๆ
จนเมื่อรู้ว่าคนที่เอาเสื้อผ้าทั้งหมดไปก็คือ “หนิวหลาง” นางจึงขอเจรจาเอา เสื้อผ้าคืน แต่ว่า “หนิวหลาง” เองก็มีข้อแลกเปลี่ยนเช่นกันค่ะ ซึ่งนั้นก็คือ การขอนางแต่งงาน ซึ่งตัวนางเองก็ยินยอม ใครที่บอกว่าคนสมัยนี้ดูใจกันเร็วต้องมาดูคู่ของ “หนิวหลาง” และ “จือหนี่” นะคะ เพราะสองคนนี้เขาสปาค กันเร็วเหลือเกินซึ่ง “จือหนี่” สุดท้ายก็อยู่กินกับ “หนิวหลาง” แล้วปล่อยพี่ๆ เหล่านางฟ้าอีก 6คนนั้นกลับสวรรค์ไป
และเมื่อทั้งสองตกลงปลงใจอยู่กินกับฉันสามีภรรยา ก็เหมือนว่าชีวิตคู่ของทั้งสองดูไม่ต่างจากฝันซะเท่าไหร่ เพราะตัว “หนิวหลาง” ก็เป็นสามีที่แสนดีรักและคอยดูแลภรรยาของเขา ส่วน “จื่อหนี่” เองก็เป็นภรรยาคอยปฏิบัติพัดวีสามีของเธออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนกระทั่งทั้งสองมีบุตรสองคน
ดังที่บอกไปแล้วนะคะว่าชื่อ “จื่อหนี่” นั้นหมายถึงสาวทอผ้า เพราะงั้นนาง จึงถือได้ว่าเป็นคนที่มีฝีไม้ลายมือในเรื่องของการทอผ้าเป็นอย่างมาก เรียก ได้ว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้าเลยละค่ะ ทำให้ผ้าที่ “จื่อหนี่” และ “หนิวหลาง” นั้นนำผ้าไปขายจนขายดิบขายดี และส่งผลทำให้พวกเขากลายเป็นเศรษฐี อย่างไม่ทันตั้งตัว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องราวของจือหนี่ และ หนิวหลางนั้น จะมีแต่เรื่องสวยงามชวนฝันเท่านั้นนะคะ เพราะว่าเรื่องราวก็แดงจนไปถึงหูของ “เง็กเซียนฮ่องเต้” และ “ฮ่องเฮา” ผู้ซึ่งเป็นบิดา มารดาของเหล่านางฟ้า พอได้ยินว่า “จือหนี่”ไปแต่งงานกับชายธรรมดานั้นก็โกรธจัด เลยออกคำสั่งให้ “จือหนี่” กลับสวรรค์
และเมื่อ “หนิวหลาง”กลับมาบ้านแล้วไม่เห็นภรรยาก็ เศร้าโศกเสียใจ จนกระทั่งวัวของ “หนิวหลาง”ได้ออกไอเดียว่า ให้ “หนิวหลาง” นั้นฆ่าตนเสีย และให้เอาหนังวัวคลุมร่าง เพื่อจะได้ไปสู่สวรรค์แล้วไปหาภรรยาได้ ทำให้ “หนิวหลาง” ต้องฆ่าวัวด้วยน้ำตาแล้วนำหนังมาคลุมร่างของเขาและบุตรทั้งสองคน แล้วขึ้นมาบนสวรรค์เพื่อตามภรรยาของตน
และเมื่อ “เง็กเซียน” และ “ฮ่องเฮา” รู้เข้าก็ยิ่งทวีความโกรธ แล้วด้วยความโกรธนี้เองทำให้ “ฮองเฮา” นั้นได้ดึงปิ่นปักผมของนางออกมาแล้วก็กรีดฟ้า ให้แบ่งออกมาเป็นสองด้านโดนมีแม่น้ำนั้นกั้นกลาง เพื่อขัดขวางความรัก ระหว่างเขาและเธอ ซึ่งแม่น้ำที่ว่านั้นก็เป็นที่มาของ “ทางช้างเผือก” นั่นเอง
และเมื่อมีแม่น้ำมาขัดขวางความรักทำให้ทั้งสองต่างต้องทำหน้าที่ของตัว เองไปอย่างไร้ทางเลือก โดยตัวของจือหนี่เองก็ต้องทอผ้าไปด้วยใจที่ สิ้นหวัง ส่วน หนิวหลาง ก็ทำได้แค่เพียงดูแลลูกน้อยทั้งสองของตนกับ จือหนี่ไป และรอคอยวันที่จะกลับมาพบกันใหม่ วันนั้นก็คือวันที่เหล่านกกระ เรียนจะมารวมตัวกันเป็นสะพานเพื่อนำพาให้ทั้งสองคนมาพบเจอกัน ซึ่ง สะพานนั้นมีชื่อว่า Que Qiao(ฉิวเฉียน) หรือสะพานนกกระเรียนอันเป็น สะพานที่ทอดข้ามในกลุ่มดาวหงส์ ทำให้ “จือหนี่” และ “หนิวหลาง” นั้น สามารถเดินทางมาพบกันได้แม้แค่เพียงปีละครั้งเท่านั้น
ซึ่งก็คือวันที่ 7 เดือน 7 และเล่ากันว่าถ้าวันนั้นเป็นวันที่มีฝนตก นั่นจะแสดงว่าฝนนั้นจะเป็นตัวแทนของน้ำตา ของทั้ง “จือหนี่” และ “หนิวหลาง” นั่นเองค่ะ เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กับความรักของตำนานที่แสนเศร้าแต่ก็แอบสุขใจ เล็กๆเพราะอย่างน้อยทั้งสองก็ยังมีโอกาสพบกันแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่วันเดียวของปีเท่านั้น แต่ว่าสตอรี่ความรักนี้ยังไม่จบนะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องให้ติดตามกันยังไงก็ลืมติดตามดันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
โฆษณา