14 ก.พ. 2020 เวลา 10:01 • บันเทิง
รักแท้ในคืนหลอกหลอน
เอกพลทำงานห้างสัญชาติอังกฤษอยู่แถวๆ บีทีเอสอ่อนนุช
วันนี้เงินเดือนออกหลังจากเลิกงานจึงชวนเพื่อนๆ
ไปร้องเพลงที่ร้านคาราโอเกะเจ้าประจำที่มาเปิดบริการอยู่ใกล้ๆห้าง ตามประสาคนโสด
หลังจากดื่มจนเมาได้ที่เอกพลเห็นท่าจะไม่ไหว
จึงชวนเพื่อนๆ กลับบ้านเพราะพรุ่งนี้ยังต้องทำงาน
ขอบคุณภาพสวยๆ:pixabay
มองดูนาฬิกาเวลาก็ปาเข้าไป เกือบตีหนึ่งแล้วหลังจากเช็คบิลเสร็จเรียบร้อย เอกพลไม่ลืมที่จะให้ทิปน้องๆ ที่มาคอยบริการตามระเบียบ จากนั้นต่างคนต่างก็แยกย้ายกันเดินทางกลับ
เอกพลเดินออกจากร้านเพื่อไปนั่งรถสองแถวต่อ
บริเวณหน้าห้างสัญชาติฝรั่งเศส
วันนี้ผู้โดยสารมีมากทำให้รถสองแถวดูแออัดยัดเยียดพอสมควร พลันสายตาเอกพล มองไป
เห็นสาวน้อยน่าตาน่ารักนางหนึ่งนั่งอยู่เบาะ
ด้านซ้ายเกือบในสุด
จำได้ว่าเธอทำงานที่เดียวกับเขา ตำแหน่งแคชเชียร์ เธอคือสาวน้อยน่ารักคนที่เขาแอบชอบอยู่นั่นเอง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเธออย่างจริงจังซักที
วันนี้ถือว่าเป็นโชคดีของเอกพลที่ได้เจอกับเธอ
แต่จะทำอย่างไรดีจึงจะได้ทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้ จะถามก็ไม่กล้าด้วยเกรงใจผู้โดยสารคนอื่นเกรงว่าเขาจะรำคาญจึงได้แต่แอบมองเธอ
นั่งรถมากว่าครึ่งชั่วโมงเสียงใครสักคนในรถกดกริ๊งเป็นสัญญาณเตือนให้คนขับรถจอดให้ผู้โดยสารลง
ป้ายหน้า
เอกพลมองไปที่ป้ายชื่อบอกซอยแม้จะเมาไปบ้าง แต่เขาก็จำได้แม่นว่านี่มันถึงซอยที่เขาต้องลงแล้ว ได้แต่บ่นเสียดายเลยไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร
โชคดีที่เขายืนเกาะอยู่ท้ายรถจึงเดินลงไปได้ก่อนใคร หลังจากเดินไปจ่ายค่าโดยสารเสร็จจึงเดินเข้าซอยไป
ในซอยมีไฟส่องสว่างข้างทางทำให้มองเห็นทางเดินได้อย่างชัดเจนไม่น่ากลัวเท่าใดนัก แม้ว่าจะ
ดึกดื่นแค่ไหน
ขณะที่เดินๆ อยู่พลันรู้สึกว่าเหมือนมีใครบางคนกำลังเดินตามหลังมา เอกพลจึงค่อยๆ หันหลังกลับไปมอง
ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า ทำให้หัวใจของเขาเต้น
แทบไม่เป็นจังหวะมันสั่นระรัวไปหมด
เธอคนนั้นสาวน้อยน่ารักคนนั้นนั่นเองไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเธอก็พักอยู่ซอยเดียวกัน อาจเป็นเพราะว่าเราเข้างานกันคนละกะเลยไม่เคยเจอกันเลยสักที
เอกพลหยุดรอเธอนิดหนึ่ง ก่อนรวบรวมความกล้าเพื่อพูดกับเธอ เพราะปกติแล้วเอกพลเป็นคนไม่ค่อยช่างพูดเท่าใดนัก
แต่ด้วยวันนี้โอกาสมันดีเหลือเกิน เพราะถ้าไม่ตัดสินใจทำความรู้จักกับเธอในวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเจอกันอีกทีเมื่อไหร่
และอาจจะด้วยเพราะฤทธิ์ดีกรีจากสุราที่ยังวิ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือดรึเปล่าก็ไม่รู้ จึงทำให้เขามีความ
กล้าบ้าบิ่นที่จะคุยกับเธอ
'เอาวะเป็นไงเป็นกันวันนี้จะได้รู้เสียที'
เอกพลคิด
ที่สำคัญเอกพลอยากจะรู้ว่าเธอมีแฟนหรือ
ยัง ถ้ายังไม่มีเขาจะได้เสนอขายขนมจีน เอ้ย!
ขายขนมจีบซะเลย เบื่อชีวิตคนโสดเต็มทีอยากมีเมียแล้ว
'ไม่แน่ฟ้าอาจส่งเธอมาให้เป็นเนื้อคู่ของเขาก็ได้
ไม่งั้นจะบังเอิญมาเจอกันในซอยเปลี่ยวกลางดึกอย่างนี้ได้อย่างไร' เอกพลเริ่มคิดเข้าข้างตัวเอง
"พักอยู่ในซอยนี้เหรอครับ?"
เริ่มเปิดบทสนทนา น้องเขาไม่ตอบได้แต่ยิ้มๆแล้วก็เดินผ่านหน้าเขาไป
'สงสัยน้องเขากลัวเราหรือว่าเราพูดเบาไปนะหูตึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงไม่ได้ยินที่เราพูด
ลองใหม่อีกทีคราวนี้พูดให้เสียงดังขึ้นหน่อยละกัน'
"น้องชื่ออะไรครับ?"
เงียบไม่มีเสียงตอบรับได้ยินแต่เสียงฝีเท้าเธอเดิน
อย่างเร่งรีบเหมือนกับว่าเธอกลัวว่าเขาจะเป็นตัวอันตรายหรืออย่างไร
"พี่ขอไปส่งได้ไหม?"
เอกพลยังไม่หยุดพล่ามแต่คำตอบที่ได้รับก็ยังคงเหมือนเดิมคือความเงียบ
เธอเดินต่อไปเรื่อยๆ แล้วมาหยุดอยู่ตรงทางเข้าบ้าน
มันดูคล้ายๆ สะพานเล็กๆเป็นเสาปูนยกพื้นขึ้นหนีน้ำ
สูงจากพื้นราว 1 เมตร ทางซ้ายเป็นคลองระบายน้ำส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทางขวาเป็นพงหญ้าขึ้นรกๆ
เหมือนเธอจะกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง แล้ว
กวาดสายตามองฝ่าความมืดออกไปเบื้องหน้า
ห้องพักของเธอน่าจะอยู่ทางนั้นเอกพลมองเห็น
แสงไฟส่องสว่างรำไรอยู่ไกลออกไป
คงต้องเดินต่อไปอีกกว่า 100 เมตร ระหว่างทางไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างมันดูมืดๆ สลัวๆบรรยากาส
วิเวกวังเวงชวนให้น่ากลัวอยู่ไม่น้อย
"พักอยู่ที่นี่เหรอครับ?"
เอกพลยังถามต่อขณะที่ตัวเขาเองก็พยายามควบคุมอาการ เพื่อไม่ให้เธอรู้ว่าเขาเริ่มจะเสียการทรงตัว
เหมือนว่าเธอกำลังคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง
อย่างลำบากยากเย็น แล้วเธอก็หันมามองหน้าเอกพลแล้วพูดว่า
"ค่ะ หนูพักอยู่ซอยนี้
พี่จะตามไปส่งหนูจริงหรือคะ?"
"จริงสิ"
"พี่ไม่กลัวหรือ?"
'เฮ้ย! มีไรต้องกลัววะหรือว่าเธอมีสามีแล้ว'
เอกพลได้แต่คิดก่อนที่เขาจะอ้าปากพูดแต่ช้าไป
"หนูจำได้ว่าพี่ทำงานที่เดียวกับหนู พี่เป็นซีเนีย
แผนกเฟรชฟู้ด ชื่อเอกพล พรุ่งนี้หนูจะตอบคำถามพี่ทุกอย่าง
แต่ตอนนี้หนูขอร้องให้พี่เดินเข้าไปส่งหนูที่ห้องก่อนได้ไหมคะ?"
'เฮ้ยนี่กูฝันไปหรือเปล่าวะ เธอชวนกูไปส่งที่ห้อง
งานนี้มีลุ้น'
เอกพลยืนงุนงงสงสัยยังกะไก่ถูกเตะอยู่ซักพักได้แต่ตบหน้าตัวเองไปมาหลายฉาด
'เออก็เจ็บนี่หว่านึกว่ายังไม่ตื่นบทจะง่ายก็ง่ายเนาะสงสัยน้องเขาจะแอบมีใจให้ไม่งั้นจะรู้จักชื่อเรา
ได้ไง'เริ่มคิดฟุ้งซ่าน
'แต่ทำไมน้ำเสียงเธอดูสั่นๆ แปลกๆ พิลึกชอบกลเหมือนกำลังกลัวอะไรซักอย่าง'
เอาวะโอกาสดีดีแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เป็นไงเป็นกัน
จะได้รู้กันไปเลย ถ้าเธอมีแฟนแล้วเราจะได้ไม่ต้อง
มาตามตื๊อให้เสียเวลา
สู้เอาเวลาอันน้อยนิดที่มีไปร้องโอเกะกะสาวๆ ดีกว่า
"ว้าว! เซอร์ไพร้ส์! สุดๆ รู้จักชื่อพี่ด้วย
แต่เอาเถอะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน โอเครพี่ไปส่ง"
พร้อมกับชูนิ้วขึ้นเป็นท่าแสดงว่าไอเลิฟยูส่งให้เธอ
หน้าตาเธอยังดูเคร่งขลึมไม่ยอมเล่นด้วย
"โทษทีจ้ะ ผิดคิวไปนิด แค่มุกเสี่ยวๆ ไม่ขำหรือจ๊ะ?"
แล้วเอกพลก็เปลี่ยนยกนิ้วขึ้นใหม่แสดงว่าโอเค
เธอยิ้มให้เขานิดๆ
"ขอบคุณค่ะพี่"
'นี่ถ้าเป็นความฝันก็คงเป็นฝันดีสุดๆในชีวิตของแกเลยล่ะวะเอกพลเอ๊ย'
ขณะที่เอกพลเดินตามเธอฝ่าความมืดเข้าไปในซอยด้วยหัวใจที่เต้นระรัว มันเป็นสองอารมณ์ในคราวเดียวกันบอกไม่ถูกคือทั้งสุข และทุกข์กังวล
สุขใจที่จะได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดทำความรู้จักกับ
สาวน้อยคนนี้ให้มากขึ้น
ทุกข์ใจกังวลคือกลัวว่าเธอจะมีแผนการร้ายอะไรสักอย่างไว้แกล้งเขาหรือเปล่า เพราะเท่าที่รู้มาข่าวว่าอยู่ที่ทำงานเธอก็แสบใช้ได้
ต่างคนต่างเดินไปด้วยกันในระยะเอื้อมมือถึง
ต่างคนต่างเงียบไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา
หลังจากเดินเข้ามาในซอยได้ครึ่งทางจะเจอต้นมะยมต้นใหญ่ต้นหนึ่ง อยู่ทางขวามือดูเหมือนว่าเธอจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนกลัวอะไร
บางอย่างแล้วหยุดอยูตรงนั้น เหมือนจะรอให้เขา
เดินตามไป
บรู๊ๆๆๆ เสียงหมาหอนดังมาเป็นระยะแต่เอกพล
ก็ไม่ได้ใส่ใจ
หลังจากที่เอกพลพยายามปรับสายตาให้ชินกับ
ความมืดอยู่สักพัก
พลันเขาก็สังเกตเห็นที่ใต้ต้นมะยมต้นนั้นเหมือนว่าจะมีใครบางคนนั่งยองๆอยู่ดูท่าทางจะเป็นผู้ชาย
'หรือว่า...น้องนางจะเล่นพี่เอกซะแล้ว'
เอกพลทำใจดีสู้เสือคิดในทางที่ดี
'อาจจะเป็นพ่อหรือพี่ชายของเธอ มารอก็ได้คงไม่ใช่สามีของเธอหรอก แต่ถ้าเป็นพ่อหรือพี่ชายของเธอจริง แล้วทำไมต้องมานั่งรออยู่ตรงนี้ด้วยวะ ทำไมไม่เดินไปรับที่ปากซอยหรือว่าเป็นโจรมาดักจี้'
ถึงตรงนี้เอกพลชักเริ่มกล้าๆ กลัวๆ ส่วนน้องนาง
ไม่ต้องถามเธอหลับตาปี๋ คว้าแขนเอกพลมากอดไว้แน่นตั้งแต่ตอนเสียงหมาหอนแล้ว
แขนของเขาจะชน...เธออยู่แล้ว จนเอกพลต้องค่อยๆ ขยับแขนของเขาออกมาน้องนางอาจไม่ถือสา แต่พี่เอกพลคิด...
เมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ ต้นมะยมจุดที่มองเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่เอกพลพบว่าเขาเป็นผู้ชายจริงๆ อย่างที่คิด ไว้แต่ด้วยเพราะมันมืดมาก จึงมองไม่ถนัดนัก เขาสวมกางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้นไว้ผมสั้น
นั่งหันด้านข้างให้พวกเขาเหมือนกำลังเหม่อมองออกไปทางห้องแถวข้างหน้าไม่พูดไม่จา
ดูแล้วไม่น่าไว้ใจ
'อาจจะเพราะเหตุนี้กระมังที่ทำให้น้องนางดูท่าทางกลัวลนลานนักหนา ก็น่าอยู่หรอกก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว อย่างนี้เราคงต้องอาสามาส่งทุกวันเพื่อสร้างคะแนนนิยม'
คิดไปพลางเอกพลยิ้มไปพลางท่ามกลาง
ความมืดมิด
เดินมาอีกหน่อยก็ถึงห้องพักของเธอเป็นห้องแถวสร้างด้วยไม้หลังเก่าๆ ยกพื้นสูงราว 2 เมตรเพื่อหนีน้ำ
"ขอบใจนะจ๊ะพี่เอกพลที่มาส่ง พรุ่งนี้น้องเข้ากะบ่าย
เจอกันที่ทำงานนะจ๊ะ เดินทางปลอดภัย นอนหลับ
ฝันเห็นผี เอ้ย!นอนหลับฝันดีจ้ะ"
"ตะ แต่ เอ่อ คือว่า ขะครับ นอนหลับฝันดีครับ"
เธอยิ้มให้เอกพลนิดๆ อย่างมีเลสนัยก่อนเปิดประตูเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้เอกพลอารมณ์ค้าง
อยู่ข้างนอกห้องคนเดียว
ก่อนเดินกลับออกมาด้วยความงุนงงอีกรอบเขาได้ยินเสียงเธอพูดกับใครบางคนที่อยู่ในห้อง
เอกพลพยายามเงี่ยหูฟังเป็นเสียงของผู้หญิงได้ยินแว่วๆมาว่า
"กลับมาแล้วเหรอแก้ว"
'อ๋อชื่อแก้ว สงสัยชื่อจริงว่าคำแก้ว คงไม่ใช่เจ้าแม่
นาคีนะ พักอยู่กับเพื่อนอย่างนี้เราก็พอมีหวัง อย่าง
น้อยก็ได้รู้จักว่าเธอพักอยู่ที่ไหนอยู่ใกล้กันแค่นี้ไว้วันหน้าค่อยมาหาเธอใหม่ก็ได้'
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงเดินกลับออกมาทางเดิม เพราะตรงนั้นมันเป็นซอยตันไปต่อไม่ได้
อพาร์ทเม้นของเอกพลอยู่ไม่ไกลเดินต่อไปอีกสองซอยก็ถึงแล้ว
ขณะที่เอกพลเดินมาถึงต้นมะยมต้นเดิม เขาก็ยังเห็นชายคนเดิมนั่งอยู่ตรงที่เดิม นั่งท่าเดิมไม่ลุกหนีไปไหน 'ไม่เมื่อยหรือไงวะ'
ขณะที่เอกพลเดินผ่านเขาไปนั้นพลันสายตา
ของเขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรบางอย่าง
ที่เกิดขึ้นกับชายคนนั้น จึงค่อยๆ หันหลังกลับไปมองเขาอย่างสงสัย
ดูเหมือนว่าเขาก็กำลังจะพยายามหันมามอง
เอกพลเหมือนกัน แต่อากัปกริยาที่เขาทำมันดูผิดแผกแตกต่างไปจากคนธรรมดาสามัญที่เขาจะทำกันคือ เขาคนนั้นหันมาแต่หัว
ส่วนตัวยังนั่งอยู่ท่าเดิมเป๊ะไม่ขยับเลยสักนิด
'เฮ้ย! ทำได้ไงวะ!
เอกพลขยี้ตาเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง แล้วมองดูชัดๆอีกที หรือว่าดื่มมากไปเลยเมาจนตาลาย
นี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วน่าจะสร่างเมาได้แล้ว มองอีกทีคราวนี้ชัดเลย ชัดเจนเลยแบบไม่มีข้อสงสัย
'เอกพลเอ๋ยเจอเข้าให้แล้ว มิน่าล่ะน้องสาวคนสวย
ถึงถามแล้วถามอีกว่าพี่ไม่กลัวเหรอ แถมตอนเดินมา
ด้วยกันพอถึงต้นมะยมจึงหลับตาปี๋ หันหน้าหนีตลอด กอดแขนเราไว้ซะแน่น'
😊
ตัดกลับมาที่ห้องของน้องแก้วคนสวย
"กลับมาแล้วเหรอแก้ว"
"จ้าสร้อย"
"เป็นไงวันนี้เจอไหม?"
"เจอซิยังนั่งอยู่ที่เดิมเลย ตรงต้นมะยมใหญ่ต้นนั้นแหละ"
"ฉันสงสัยว่าพี่เขาคงจะยังอาลัยอาวรพี่แดงกับลูกอยู่ เลยไม่ยอมไปผุดไปเกิดซะที
เออว่าแต่วันนี้ใครมาส่งแกล่ะ พี่เดชหรอ?"
"เปล่าๆ รายนั้นยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย สงสัยป๋านนี้จับไข้หัวโกร๋นตายไปแล้วมั๊ง"
"อ้าวแล้วใครมาส่งแกล่ะ"
"พี่เอกพล ซีเนียแผนกเฟรช ไม่รู้ว่าตอนนี้
จะเป็นไงมั่ง"
"หวังว่าจะไม่ใจเสาะตายไปซะก่อนนะ"
"555"
".."
😊
"อยากเห็นคนในสังคมนี้
มีแต่รอยยิ้มและความสุข"
เกษตรเอส'Society
หากผิดพลาดต้องขออภัย
มีความคิดเห็นเป็นประการใดเขียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
อยากให้กำลังใจผู้เขียนและทีมงานง่ายๆ ด้วยการ
กดไลค์
กดแชร์
กดติดตาม
หรือจะเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ก็ยินดีครับ
😁

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา