ด้วยความที่ทั้งคู่อยู่กันคนละวงการ และไม่ใช่คนสัญชาติเดียวกัน การจะหาเรื่องสานสัมพันธ์กันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่แน่นอนว่า ชากีร่า คือเจ้าของเพลงประจำศึกเวิลด์คัพ 2010 นั่นทำให้ ปิเก้ รู้ดีว่า ชากีร่า จะต้องไปปรากฏตัวที่แอฟริกาใต้แน่นอน
และนั่นคือแรงบันดาลใจที่สำคัญ ที่ทำให้ปราการหลังเครางามต้องการพาทีมกระทิงดุไปให้ไกลที่สุด นอกจากเพื่อเกียรติยศของประเทศชาติแล้ว มันยังหมายถึงโอกาสที่จะได้พบนางในฝันอีกครั้งด้วย
“เธอไปถึงแอฟริกาใต้ก่อนพวกเรา (ทีมชาติสเปน) เสียอีก เพราะเธอต้องไปร้องเพลงในพิธีเปิด”
“ผมส่งข้อความไปหาเธอ โดยถามว่าอากาศเป็นไงบ้าง เพราะพวกเราจะไปถึงในอีกไม่กี่วัน”
“นี่คือแบบฉบับคำถามโง่ๆ เลยนะ และคำตอบที่ได้รับก็ธรรมดามาก เธอบอกว่าอากาศหนาว ให้ผมเอาเสื้อโค้ทไปด้วย”
“แต่หลังจากนั้นเธอก็พิมพ์ยาวๆ มาเป็นพารากราฟ โดยบอกรายละเอียดสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวันเลยล่ะ”
“ผมคิดในใจว่า “พระเจ้า นี่มันไม่ปกติแล้ว” มันเหมือนกับว่ารายละเอียดเหล่านั้น ผมสามารถบอกได้เลยว่ามีความชอบพอกันอยู่ด้วย”
“เราเริ่มส่งข้อความหากันตลอดทัวร์นาเมนต์ แต่โอกาสเดียวเท่านั้น ที่ผมจะได้เจอเธออีกครั้งคือนัดชิงชนะเลิศ เพราะเธอจะต้องไปร่วมแสดงในพิธีปิดการแข่งขัน”
“ผมบอกเธอว่า ถ้าหากผมต้องไปให้ถึงนัดชิงเท่านั้นที่จะได้เจอเธอ ผมจะทำให้ได้”
“และนั่นคือครั้งที่สองที่เราได้พบกันจริงๆ เราได้พบกันหลังจากจบเกมนัดชิงฟุตบอลโลก”
ชากีร่า เองก็เผยในภายหลัง ว่าก่อนเกมนัดชิง ปิเก้ ส่งข้อความมาหา โดยบอกว่า “ผมจะต้องคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ ผมจะได้เจอคุณอีกครั้งหลังจบนัดชิง”