14 ก.พ. 2020 เวลา 02:15 • ไลฟ์สไตล์
ในบรรดาแฟนสาวของนักฟุตบอลระดับโลก คงมีเพียงไม่กี่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าหวานใจของเธอเอง
 
แน่นอนว่า “ชากีร่า” ป๊อปสตาร์ชาวโคลอมเบียน แฟนสาวของ เคราร์ด ปิเก้ ปราการหลังอดีตทีมชาติสเปนของ บาร์เซโลน่า คือหนึ่งในนั้น
 
และถ้าหากมีใครบอกว่านี่คือแฟนนักบอลที่ดังที่สุดตลอดกาลของโลก ก็คงไม่มีใครเถียง
 
ป๊อปสตาร์ละตินเจ้าของฉายา “สะโพกดินระเบิด” คือมนุษย์คนแรกของโลก ที่เพจเฟซบุ๊กมียอดไลค์เกิน 100 ล้านไลค์เมื่อปี 2014 จากการยืนยันโดย กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด
 
ล่าสุดคลิปแสดงสดที่ ชากีร่า กับ เจนนิเฟอร์ โลเปซ ไปโชว์ร่วมกันระหว่างพักครึ่งของการแข่งขัน ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งล่าสุด มียอดผู้ชมใน Youtube ทะลุ 120 ล้านวิวไปแล้ว
 
ยังไม่นับรวมการกล่าวถึงจากคนทั่วโลก ที่ยกย่องให้โชว์พักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ 2020 ถือเป็น Performance ที่ดีที่สุดในรอบหลายปีของอีเว้นท์กีฬาใหญ่ๆ เลยทีเดียว
ชากีร่า มีอายุมากกว่า เคราร์ด ปิเก้ ถึง 10 ปี
 
ทั้งคู่เกิดวันเดียวกันคือ 2 กุมภาพันธ์ โดยปัจจุบัน ชากีร่า อายุ 43 ส่วน ปิเก้ อายุ 33 ปี
 
ด้วยวัยที่ห่างกันถึง 1 ทศวรรษ ทำให้ ชากีร่า มีเส้นทางชีวิตที่ประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะสร้างชื่อเสียงให้คนทั่วโลกได้รู้จักก่อนถึง 10 ปี
 
ตอนที่อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายนี้ เพิ่งลงสนามเกมระดับซีเนียร์นัดแรกให้ทีมปีศาจแดงเมื่อเดือนตุลาคม 2004 ทางด้าน ชากีร่า ก็เป็นป๊อปสตาร์ที่ทุกคนรู้จัก โดยกวาดรางวัลนับไม่ถ้วนแล้ว
 
ซิงเกิ้ลแรกๆ ของ ชากีร่า ที่เป็นภาษาอังกฤษ ที่หลายคนน่าจะเคยฟังก็เช่น Whenever, Wherever และ Underneath Your Clothes
 
เท่านั้นไม่พอ ชากีร่า ยังเคยใช้ชีวิตอยู่กินกับ อันโตนิโอ เด ลา รัว ลูกชายของ เฟร์นานโด เด ลา รัว อดีตประธานาธิบดีของอาร์เจนตินานานกว่า 10 ปี ก่อนเลิกรากันไปในเดือนสิงหาคม 2010 โดยไม่มีลูกด้วยกัน
 
ก่อนจะได้พบกับ ปิเก้ ถือว่าซิงเกิ้ลของ ชากีร่า ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมีนับไม่ถ้วน
 
ไม่ว่าจะเป็น La Tortura, Hips Don’t Lie (ฟีเจอริ่งกับ ไวเคลฟ ฌอง), Beautiful Liar (ฟีเจอริ่งกับ บียอนเซ่) หรือ She Wolf ซิงเกิ้ลเหล่านี้ระดับทะลุ 100 ล้านวิวใน Youtube ทั้งนั้น
ในช่วงเวลาระหว่างนั้น ทางด้านของ เคราร์ด ปิเก้ ก็ค่อยๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นกองหลังระดับเวิลด์คลาสของวงการฟุตบอล
 
ปิเก้ คือผลผลิตจากศูนย์ฝึกเยาวชนของ บาร์เซโลน่า (ลา มาเซีย) แต่ได้รับสัญญานักเตะอาชีพฉบับแรกในชีวิตกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 ด้วยวัย 17 ปี
 
การที่ยังเด็กเกินไป บวกกับช่วงปี 2006-2008 คู่เซนเตอร์แบ็กผีแดง คือคู่หูสุดแกร่งอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ เนมานย่า วิดิช ทำให้ ปิเก้ ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงมาครองได้เลย ตลอดช่วงเวลา 4 ปีในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
 
แต่ทุกคนรู้ดีว่า ปิเก้ มีศักยภาพดีพอว่าจะพัฒนาเป็นปราการหลังชั้นดีได้ ทำให้ในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 เขาได้ย้ายกลับไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า ด้วยราคา 5 ล้านปอนด์ ก่อนยึดตำแหน่งตัวหลักของทีมยาวนานมาจนถึงตอนนี้
 
ฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การดูแลของยอดโค้ชอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำให้ ปิเก้ กลายเป็นสุดยอดกองหลังของทีมชาติสเปนในเวลาต่อมา และได้ไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในปี 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ
 
และฟุตบอลโลกปีนั้นแหละ คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันยาวนานของคู่รักที่โด่งดังที่สุดของวงการลูกหนังคู่นี้
1
ทุกคนคงรู้ดีว่า ชากีร่า คือเจ้าของบทเพลง Waka Waka ซึ่งเป็น Official Song ประจำศึกฟุตบอลโลก 2010 และเป็นเพลงฟุตบอลโลกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล (มากกว่า 2.4 พันล้านวิว บน Youtube)
 
ไม่เพียงแค่ขับร้อง และออกแบบท่าเต้นประกอบเพลง แต่ ชากีร่า ยังเป็นหนึ่งในทีมงานเขียนเพลงนี้ด้วย
 
มิวสิควิดีโอเพลงดังกล่าว ถ่ายทำกันที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยนักเตะทุกคนที่ไปร่วมแสดง ล้วนค้าแข้งใน ลา ลีกา ตอนนั้น
 
แน่นอนว่า เคราร์ด ปิเก้ คือหนึ่งในนั้น ส่วนคนอื่นๆ ได้แก่ ลิโอเนล เมสซี่, ราฟาเอล มาร์เกซ, คาร์ลอส กาเมนี่ และ ดานี่ อัลเวส
 
แม้ ชากีร่า จะอายุมากกว่าถึง 10 ปี แต่ด้วยความหลงเสน่ห์และปลาบปลื้ม ทำให้ ปิเก้ ต้องตัดสินใจขอเบอร์โทรเอาไว้
1
ด้วยความที่ทั้งคู่อยู่กันคนละวงการ และไม่ใช่คนสัญชาติเดียวกัน การจะหาเรื่องสานสัมพันธ์กันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
 
แต่แน่นอนว่า ชากีร่า คือเจ้าของเพลงประจำศึกเวิลด์คัพ 2010 นั่นทำให้ ปิเก้ รู้ดีว่า ชากีร่า จะต้องไปปรากฏตัวที่แอฟริกาใต้แน่นอน
 
และนั่นคือแรงบันดาลใจที่สำคัญ ที่ทำให้ปราการหลังเครางามต้องการพาทีมกระทิงดุไปให้ไกลที่สุด นอกจากเพื่อเกียรติยศของประเทศชาติแล้ว มันยังหมายถึงโอกาสที่จะได้พบนางในฝันอีกครั้งด้วย
 
“เธอไปถึงแอฟริกาใต้ก่อนพวกเรา (ทีมชาติสเปน) เสียอีก เพราะเธอต้องไปร้องเพลงในพิธีเปิด”
 
“ผมส่งข้อความไปหาเธอ โดยถามว่าอากาศเป็นไงบ้าง เพราะพวกเราจะไปถึงในอีกไม่กี่วัน”
 
“นี่คือแบบฉบับคำถามโง่ๆ เลยนะ และคำตอบที่ได้รับก็ธรรมดามาก เธอบอกว่าอากาศหนาว ให้ผมเอาเสื้อโค้ทไปด้วย”
 
“แต่หลังจากนั้นเธอก็พิมพ์ยาวๆ มาเป็นพารากราฟ โดยบอกรายละเอียดสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวันเลยล่ะ”
 
“ผมคิดในใจว่า “พระเจ้า นี่มันไม่ปกติแล้ว” มันเหมือนกับว่ารายละเอียดเหล่านั้น ผมสามารถบอกได้เลยว่ามีความชอบพอกันอยู่ด้วย”
 
“เราเริ่มส่งข้อความหากันตลอดทัวร์นาเมนต์ แต่โอกาสเดียวเท่านั้น ที่ผมจะได้เจอเธออีกครั้งคือนัดชิงชนะเลิศ เพราะเธอจะต้องไปร่วมแสดงในพิธีปิดการแข่งขัน”
 
“ผมบอกเธอว่า ถ้าหากผมต้องไปให้ถึงนัดชิงเท่านั้นที่จะได้เจอเธอ ผมจะทำให้ได้”
 
“และนั่นคือครั้งที่สองที่เราได้พบกันจริงๆ เราได้พบกันหลังจากจบเกมนัดชิงฟุตบอลโลก”
 
ชากีร่า เองก็เผยในภายหลัง ว่าก่อนเกมนัดชิง ปิเก้ ส่งข้อความมาหา โดยบอกว่า “ผมจะต้องคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ ผมจะได้เจอคุณอีกครั้งหลังจบนัดชิง”
3
เขาทำได้อย่างที่พูดจริงๆ เมื่อ สเปน เอาชนะ ฮอลแลนด์ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมนัดชิงชนะเลิศ จากประตูชัยของ อันเดรส อิเนียสต้า ในเกมที่กรุงโจฮันเนสเบิร์ก
 
หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม 2010 ชากีร่า เลิกรากับอดีตแฟนหนุ่มอย่าง อันโตนิโอ เด ลา รัว อย่างเป็นทางการ นั่นทำให้ ปิเก้ มีโอกาสขยับสถานะมาเป็นหนุ่มคนสนิทมากขึ้นทันที
 
แน่นอนว่า ปิเก้ ถูกจับผิดว่าอาจมีส่วนกับการทำให้ ชากีร่า เลิกรากับแฟนเก่า แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเขาไม่เคยทำอะไรเลยเถิดที่มากกว่าการคุยกันแบบเป็นเพื่อน
 
ถ้าหากเธอตัดสินใจสิ้นสุดความรักครั้งเก่าลง ก็เป็นการตัดสินใจของฝ่ายหญิงกับอดีตคนรักเอง
1
หลังจากที่ ชากีร่า อยู่ในสถานะโสดเต็มตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอพร้อมจะเปิดใจให้ ปิเก้ เข้ามายกระดับความสัมพันธ์จาก “คนคุย” ให้กลายเป็น “คนรัก” ในเวลาต่อมา
 
เดือนกุมภาพันธ์ 2011 มีปาปารัซซี่จับภาพ ปิเก้ กับ ชากีร่า เดินจับมือกันออกมาจากภัตตาคารในเมืองบาร์เซโลน่า
ก่อนที่ถัดจากนั้น 1 เดือน ชากีร่า ประกาศให้สาธารณะได้รับรู้ ว่าพบรักครั้งใหม่แล้วกับหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธอ 10 ปี เมื่อลงรูปคู่กับ ปิเก้ ในทวิตเตอร์ พร้อมแคปชั่นหวานๆ ว่า “ฉันคือปัจจุบันของคุณนะ แสงอาทิตย์ของฉัน”
 
ดูเหมือนหัวใจที่เบ่งบานของปราการหลังสแปนิช จะยิ่งช่วยให้ผลงานในสนามดีขึ้นไปอีก เมื่อฤดูกาล 2010-11 เขาพา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ใหญ่ได้ทั้ง ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
 
29 พฤษภาคม 2011 ซึ่งเป็นหนึ่งวันให้หลังจากที่บาร์ซ่า เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ในเกมนัดชิงเจ้ายุโรป ชากีร่า ไปแสดงสดที่ บาร์เซโลน่า พอดี
 
บรรดานักเตะทีมอาซูลกราน่า 6 คนประกอบด้วย ปิเก้, ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด บีย่า, เปโดร โรดริเกซ, โบยาน เกร์กิช และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ เป็นผู้ชมระดับวีไอพี โดยได้นั่งด้านหน้าติดขอบเวที และถูก ชากีร่า เรียกขึ้นไปร่วมแจมบนเวทีระหว่างเพลง Whenever, Wherever แบบเซอร์ไพรส์ทั้งหมด
 
แน่นอนว่าใน 6 คนนั้น ปิเก้ มีความเป็นวีไอพียิ่งกว่าใคร เขาถูกเรียกขึ้นเวทีเป็นคนแรก และมีการแสดงความเป็นเจ้าของ ด้วยการโผเข้ากอด และหอมแก้มแบบสวีทระหว่างโชว์ด้วย
 
และหลังจากนั้นความรักระหว่าง เคราร์ด ปิเก้ กับ ชากีร่า ก็ไม่ใช่แค่แฟนกันที่สวีทกันธรรมดาอีก เมื่อทั้งคู่ลงหลักปักฐานใช้ชีวิตด้วยกันที่ บาร์เซโลน่า โดยมีลูกด้วยกัน 2 คนชื่อ มิลาน (ปัจจุบันอายุ 7 ขวบ) และ ซาช่า (ตอนนี้ 5 ขวบ)
ในช่วงต้นปี 2013 ชากีร่า เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร US Weekly เอาไว้ โดยชื่นชมหวานใจว่าทำหน้าที่พ่อของลูกได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย
 
“ขอบคุณพระเจ้า ที่พ่อของเด็กช่วยได้เยอะมาก เขาน่าอัศจรรย์ ลูกของฉันใช้เวลากับฉันมากพอๆ กับพ่อของเขา เขาคือคุณพ่อตัวอย่างที่มีความรับผิดชอบมากสุดๆ เลย”
 
“เขาเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำให้เด็ก และสนุกกับการเล่นกับลูก เขาสนุกกับการป้อนนมลูก และการทำทุกๆ อย่าง ซึ่งนั่นช่วยฉันได้เยอะมาก”
 
“ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าทำทุกอย่างเหล่านี้ได้โดยไม่มีพ่อของเด็กช่วย”
 
แต่ถึงจะมีลูกกับ ปิเก้ ด้วยกันแล้ว 2 คน แต่คู่รักคนดังคู่นี้ ยังไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานกันมาก่อน
 
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ชากีร่า ควง ปิเก้ ไปให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes โดยเธอบอกว่า มีความสุขกับหวานใจของเธอดี โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานะของ “ภรรยา” อย่างเป็นทางการ
 
“ฉันจะบอกความจริงกับคุณนะ ฉันกลัวการแต่งงานมากๆ ฉันไม่ต้องการให้เขามองฉันในฐานะภรรยา ฉันอยากให้เขามองฉันในฐานะแฟนสาวของเขามากกว่า”
 
“คุณรู้ไหม? ฉันอยากเป็นความรักของเขา เป็นแฟนเขา เป็นเหมือนกับผลไม้ต้องห้าม ฉันอยากให้เขาเป็นของฉันไปแบบนี้ ฉันอยากให้เขาคิดว่าทุกๆ อย่างมันเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม”
ในปี 2017 ชากีร่า ได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงหนึ่ง ที่เธอเขียนเนื้อเพลงเอง โดยมีชื่อภาษาสเปนว่า Me Enamoré หรือแปลได้ว่า “ฉันตกหลุมรัก” ซึ่งแน่นอนว่า แรงบันดาลใจมาจากความรักที่มีต่อ เคราร์ด ปิเก้
 
ในเนื้อเพลงมีบางท่อนที่สื่อได้ชัดว่ากำลังพูดถึงความรักของเธอเอง อย่างเช่น “ฉันรักหนวดเครานั้น” (ลักษณะหน้าตาของปิเก้) หรือ “กับคุณแล้ว ฉันอยากมีลูก 10 คน เรามาเริ่มกันด้วยลูก 2 คนนะ” (ตอนนี้ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน)
 
จากเรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามา เห็นได้ชัดว่า การมี ชากีร่า เข้ามาในชีวิต ทำให้ เคราร์ด ปีเก้ กลายเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งในอาชีพนักฟุตบอล และการเป็นหัวหน้าครอบครัว แม้จะมีอายุน้อยกว่าคู่ชีวิตที่เป็นนางในฝันของชายทั้งโลกถึง 10 ปี
 
ส่วน ชากีร่า ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับทุกคนว่า สุดท้ายความสุขที่แท้จริงของผู้หญิง ยิ่งกว่าการเป็นคนเด่นคนดัง ก็คือการมีผู้ชายเข้ามาหลงรักที่ตัวตนของเธอในฐานะ "ผู้หญิงคนหนึ่ง" ไม่ใช่เรือนร่าง ไม่ใช่ความเป็นดารา
 
ไม่ใช่แค่ชายหนุ่มที่หวังควงเธอให้ดูเท่ ไม่ใช่ผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่าง แล้วมาพยายามทำทุกอย่างให้เธออยู่ใต้อาณัติ
แต่เป็นผู้ชายธรรมดา ที่ต้องการดูแล และใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกันอย่างมีความสุขจริงๆ
 
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ ให้ทุกคนนะครับ
#เสียบสามเหลี่ยม #Shakira #Pique #LoveStory #ValentinesDay
 
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเรา อย่าลืมกดไลค์เพจ และติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
 
..สนใจติดต่อลงโฆษณา, สนับสนุนเพจ ติดต่อจ้างงานเขียนบทความฟุตบอล งานแปลข่าว เขียนสคริปต์สำหรับ Content ฟุตบอล หรือแปลหนังสือฟุตบอล ทักอินบ็อกซ์ สอบถามได้ตลอดเวลาครับ
โฆษณา