จุดเริ่มต้นความรักของ มิเชลล์ โอบามา
ตอนที่ 1 : ความเหมือนทำให้ได้พบกัน
ทุกๆความสัมพันธ์ของคนสองคน ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ดารา แม่ค้า นักธุรกิจ หรือแม้แต่พนักงานออฟฟิศ
ทุกอาชีพไม่สามารถหนีความรู้สึกเหล่านี้ได้
.
อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ก็เช่นเดียวกัน
จุดเริ่มต้นความรักของ มิเชลล์ โอบามา Part 1
ในปี 1989
หลังจากมิเชลล์ โรบินสัน
เรียนจบการศึกษาวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เธอก็ได้เข้ามาทำงานในบริษัท ซิดลีย์แอนด์ออสติน ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายชั้นนำในประเทศอเมริกา
ขณะนั้นเธออายุประมาณ 25 ปี
เธอได้รับมอบหมายงานให้ทำหน้าที่ วิเคราะห์ปัญหาทรัพย์สินทางปัญญาให้กับบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ รวมถึงดูแลฝ่ายงานโฆษณาให้กับลูกค้า
วันหนึ่ง
เจ้าหน้าที่อาวุโสในบริษัทได้ถามมิเชลล์ว่า
“ คุณจะช่วยฝึกงานให้กับนักกฎหมายรุ่นน้องคนหนึ่งที่บริษัททาบทามเอาไว้ได้หรือไม่ “
แน่นอนว่าด้วยภาระงานที่เธอต้องรับผิดชอบมากมายอยู่แล้ว หากจะต้องแบ่งเวลาทำงานของเธอมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับ นักกฎหมายรุ่นน้อง คงจะไม่ดีต่อตัวเธอเองสักเท่าไร
แต่เธอกลับเผลอรับปากกับเจ้าหน้าที่อาวุโสผู้นั้น
โดยหารู้ไม่ว่า สิ่งนี้กำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอ
มิเชลล์ ไม่รู้รายละเอียดใดๆเลย เกี่ยวกับเด็กฝึกงานคนนี้
รู้เพียงแค่ว่า เขาเป็นนักศึกษากฎหมายดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับที่เธอเรียนจบมา
และอีกอย่างหนึ่งที่เธอได้รู้เกี่ยวกับนักศึกษาคนนี้ก็คือชื่อของเขา “นายบารัค โอบามา”
Source : Chicago business
โดยปกติ นักศึกษาที่จะสามารถเข้ามาฝึกงานในบริษัทกฎหมายชื่อดังแห่งนี้ได้ จะต้องเรียนจบชั้นปีที่ 2 จากมหาวิทยาลัย
แต่นายบารัค ถือว่าเป็นกรณีพิเศษ เพราะเขาเพิ่งเรียนจบชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เด็กฝึกงานคนนี้ยังได้รับการยกย่องจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยว่า
เป็นนักศึกษากฎหมายที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่เคยพบเจอ
ชื่อเสียงต่างๆเหล่านี้ ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนในบริษัทพอสมควร ยกเว้นเพียงคนเดียว นั่นก็คือ มิเชลล์
วันแรกของการฝึกงาน และก็เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ได้พบกัน
บารัคได้สร้างความ ไม่พอใจอย่างหนึ่งให้กับ มิเชลล์ นั่นก็คือ การมาสาย
.
ซึ่งสิ่งที่มิเชลล์ไม่ชอบที่สุดก็คือการที่จะต้องมานั่งรอคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนนั้นเป็นเพียงแค่ นักศึกษาฝึกงาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งคู่ได้พบกันแล้ว
มิเชลล์ก็ต้องเก็บความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้นไว้ เพื่อแนะนำสิ่งต่างๆเกี่ยวกับบริษัทนี้ให้กับ บารัค ได้รู้
อาทิเช่น
- อธิบายงานต่างๆด้านกฎหมาย
- พาไปดูศูนย์จัดเตรียมเอกสาร
- อธิบายระบบที่บริษัทใช้บันทึกเวลาทำงานเพื่อคิดค่าจ้าง
โดยหน้าที่หลักๆของเธอ คือเป็นที่ปรึกษาให้กับ บารัค ทำยังไงก็ได้ให้เขามีความสุขกับงาน และทำให้เขารู้สึกได้เชื่อมโยงกับทุกทีมภายในบริษัท
แน่นอนว่า การที่จะสามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้จะต้องเริ่มต้นจาก การรู้จักกันให้มากกว่านี้ก่อน
ในช่วงเที่ยงของวันนั้น
มิเชลล์ ได้พา บารัค ไปกินร้านอาหารภายในบริษัท ทั้งสองได้พูดคุยกัน
การพูดคุยกันนี้เอง จึงทำให้เธอได้รู้ว่า
บารัค อายุ 28 ปี ซึ่งอายุมากกว่าตัวเธอถึง 3 ปีด้วยกัน
สาเหตุเพราะ
หลังจากบารัคเรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เขาได้ทำงานเป็นนักพัฒนาชุมชนอยู่หลายปี ก่อนที่จะมาเรียนต่อโทกฎหมายที่มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด
ทั้งคู่ผลัดกันเล่าเรื่องพื้นเพของตัวเอง และหัวเราะแทบจะทุกเรื่องที่เล่าสู่กันฟัง
ตอนนี้ความรู้สึกไม่ดีต่างๆของมิเชล เริ่มจางหายไป...
เธอเริ่มที่จะชื่นชมในตัวบารัคมากยิ่งขึ้น ทั้งความมั่นใจในตัวเอง ความจริงใจ การเป็นคนสดใสร่าเริง รวมไปถึง ความแน่วแน่ในทิศทางของชีวิต
Source : Wall street journal
เธอได้ถามบารัคว่า ทำไมถึงเลือกเรียนกฎหมาย ?
คำตอบที่ได้จากเขาก็คือ
เขาอยากพัฒนาชุมชน และแน่นอนว่า การที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆนั้น ไม่ได้อาศัยแค่การลงมือของคนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังต้องพึ่งพานโยบายที่ก้าวหน้าและการทำงานของภาครัฐอีกด้วย
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์
ทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้น ทุกๆครั้ง บารัคจะต้องเดินมาหาเธอ และกินข้าวด้วยกันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งหรือมากกว่านั้น
ตอนนี้ทั้งสองคนต่างค่อยๆเรียนรู้เรื่องราวของกันและกันเพิ่มมากขึ้น นับจากวันแรก
เธอได้รู้ว่า
บารัค ชอบเล่นบาสเกตบอล
ชอบวิ่งทางไกลในวันหยุด
ชอบอ่านหนังสือปรัชญาการเมืองเป็นเล่มๆ
และที่สำคัญ
เธอพอจะรับรู้ความรู้สึกของบารัคว่า
เขากำลังสนใจในตัวของเธอ
ในตอนนั้น
บารัคยังไม่มีแฟน และตัวเธอเองก็ยังไม่มีแฟน เช่นเดียวกัน
เพราะเธอยังไม่พบเจอใครที่ถูกใจเป็นพิเศษ
และก็ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ด้วย
เพราะตอนนั้นงาน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ
แต่พอได้มารู้จักกับบารัค ความรู้สึกของเธอก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ
จนรู้ตัวอีกทีก็พบว่า
เธอก็แอบชอบบารัค ไปแล้วเหมือนกัน แต่ก็ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ เพราะยังไม่แน่ใจในหลายๆอย่าง
เธอเป็นคนชอบสังสรรค์ ผ่อนคลายหลังจากเลิกงานกับกลุ่มเพื่อนๆ
แต่ตัวบารัคชอบใช้สมองไปกับการอ่านหนังสือเกี่ยวกับนโยบายในเมืองเงียบๆคนเดียว
เธอไม่ชอบคนที่สูบบุหรี่ แต่บารัคต้องสูบบุหรี่ทุกครั้งหลังจากมื้ออาหาร
รวมไปถึงเหตุผลเรื่องเป้าหมายในชีวิต
เนื่องจากว่า
เธอไม่อยากให้มีเรื่องอื่นๆมากวนใจในเส้นทางชีวิตของตัวเองที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า
จะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นหุ้นส่วนผู้ถือหุ้นบริษัทซิดลีย์แอนด์ออสติน ก่อนอายุ 32 ปีให้ได้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกือบ 2 เดือน
มิเชลล์ เฝ้าถกเถียงกับตัวเองในใจตลอดว่า
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าเกิดขึ้นแล้วมันจะเสียหายต่อการงานขนาดไหน มันจะเหมาะสมหรือเปล่า
แต่แล้ววันหนึ่ง
บารัคได้เอ่ยปากขึ้นว่า
"เรา 2 คนน่าจะลองมาเป็นแฟนกันนะ"
โดยให้เหตุผลว่า
เราสองคนเข้ากันได้ดี
เราต่างทำให้อีกฝ่ายหัวเราะได้
เราโสดสนิททั้งคู่
ยิ่งไปกว่านั้น เราต่างยอมรับว่าแทบไม่สนใจคนอื่นที่เจอะเจออีกเลย
ในตอนนั้น รอยยิ้มของบารัคแผ่กว้างไปทั่วใบหน้า เขาเป็นส่วนผสมสุดสมบูรณ์แบบระหว่างความนุ่มนวลกับความมีเหตุผล
และหลังจากนั้น บารัคก็ขอจูบเธอ
ทุกอย่างกำลังเริ่มชัดเจน
ความกังวลใดๆที่เคยมีอยู่ในใจของมิเชล
ทั้งเรื่องของชีวิตการงาน หรือแม้กระทั่งเกี่ยวกับตัวของบารัค ได้เลือนหายไปกับจูบนั้น เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ ความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองคนชัดเจนขึ้นแล้ว เป็นเวลากว่าสองเดือนที่ทั้งคู่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
แต่ทว่า ทุกคนต่างก็มีหน้าที่
บารัคจะต้องกลับไปเรียนกฎหมายต่อที่มหาวิทยาลัย
ฮาร์วาร์ด อีก 2 ปี
ส่วนมิเชลล์ก็จะต้องทุ่มเทกับงานด้านกฎหมาย เพื่อที่จะได้เป็นหุ้นส่วนของบริษัทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ระยะทางกว่า 900 ไมล์ ระหว่างมหาวิทยาลัยกับบริษัท กำลังแยกคนทั้งสองให้ห่างกัน
ไม่มี โทรศัพท์มือถือ
ไม่มี Line
ไม่มี Facebook
และเขาทั้งสองคนจะจัดการกับความห่างไกลนี้ได้อย่างไร...
โปรดติดตามต่อในตอนต่อไป...
(To be continued)
>>ลิตเติ้ลแมน
เปลี่ยนเรื่องเล็กๆ ให้มีความรู้ ด้วยความสร้างสรรค์
(Change the environment around them beautifully.)
Source : Becoming (book) by michelle obama.
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
