14 ก.พ. 2020 เวลา 19:25 • ท่องเที่ยว
เรื่อยเปื่อยที่ญี่ปุ่น (2)
ตอน ใบไม้สีแดงที่วัดเอนคันโดะ
ยามบ่าย ในเมืองเกียวโต หลังนั่งรถไฟ ต่อรถประจำทางและย่ำต๊อกสองเท้าครู่ใหญ่ๆ ก้อมองเห็นประตูวัดเอนคันโดะ..
วัดเอนคันโดะ ตั้งอยู่ทางเหนือของเกียวโต เป็นวัดพุทธนิกายโจโด สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ราวปี ค.ศ.835 ซึ่งอยู่ในช่วงที่เมืองเกียวโต หรือ ชื่อเดิมคือ นครเฮอันเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่พระสงฆ์ ผู้หนึ่งนามว่า ชินโซ ต้องการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม จึงขอซื้อ คฤหาสน์ของชนชั้นสูงผู้หนึ่ง นามว่า ฟูจิวาระ โนะ เซอิโกะ และสร้างเป็นวัด แต่ในตอนแรกนั้น สถานที่แห่งนี้มีลักษณะผิดจากวัดในยุคนั้น จึงยังไม่ได้รับอนุมัติจากทางการ ให้ตั้งเป็นวัด จนเวลาล่วงไปสิบกว่าปี จึงได้รับอนุญาต
แต่เดิม วัดเอนคันโดะเป็นวัดพุทธนิกายชิงอน แต่ได้เปลี่ยนเป็นนิกายโจโดในปี ค.ศ.1100 กว่าๆ
จบประวัติย่อๆ ไปล่ะ มาพูดถึงสิ่งที่มีในวัดนี้ดีกว่า ถ้ามองผ่านๆ วัดแห่งนี้ ก็คล้ายๆวัดพุทธของญี่ปุ่นทั่วไป แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้คนของที่นี่คือ วัดนี้เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วงที่สวยที่สุด
ตั้งแต่ก่อนถึงประตู ก็จะเห็นต้นเมเปิลที่มีใบสีแดงหลายเฉด เคียงคู่กับต้นสนอยู่หลังกำแพงเตี้ยที่ขนาบสองทางเดินจนถึงประตูวัด ซึ่ง หลังจ่ายค่าผ่านประตู 600 เยน เราก้อเข้าไปข้างในและสิ่งแรกที่เห็นคือ...
คนเยอะมาก ยังกะงานมหกรรมอะไรสักอย่าง แต่ขนาดคนเยอะ ทว่ากลับยังสัมผัสได้ถึงความสงบของวัด โดยเฉพาะความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ที่ทำให้รู้สึกหลงใหล
บรรยากาศในวัดเอนคันโดะ วูบแรกที่รู้สึกนั้น บอกตรงๆว่า เหมือนที่นี่เป็นรีสอร์ท ผสมสวนพฤกษชาติ มากกว่าวัด และมีมุมสวยๆให้เก็บภาพเยอะมาก ทำเอาเดินเพลินจนลืมเหนื่อยไปเลยทีเดียว
นอกจากเดินชมบริเวณวัดแล้ว หากสนใจจะขึ้นชมอาคารก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องถอดรองเท้าเข้าชม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพื้นไม้ของอาคาร โดยเจ้าหน้าที่จะแจกถุงใส่รองเท้า ให้เราหิ้ว เดินเข้าชมห้องต่างๆ จนถึงทางออกตัวอาคาร ก็จะมีจุดเก็บถุงคืน เอากลับไปให้คนอื่นใช้ต่อ เพื่อไม่ให้เป็นมลภาวะ
ภายในอาคาร มีภาพวาดเก่าแก่และพระพุทธรูปที่สวยงามจำนวนมาก อยู่ในห้องต่างๆ โดยแต่ละห้องจะมีเจ้าหน้าที่คอยนั่งเฝ้า
ส่วนด้านหลังติดตัวอาคารของวัดเป็นภูเขา มีต้นไผ่และต้นไม้อื่นๆปกคลุมหนาแน่น แถมทีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังลิงภูเขาด้วย
ภายในตัววัด
ในวัด มีลานขายอาหารเบาๆพวกโมจิ ดังโงะ และอาหารว่างอื่นๆ สำหรับกินกับน้ำชา ซึ่งการจิบชาร้อนแกล้มขนมโมจิ และชมสวนสวยๆ นับว่าได้บรรยากาศแบบสุดๆ
ถ้าถามว่า วัดนี้มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจไหม นอกจากใบไม้สีแดงที่ปรากฏอยู่ทุกที่ คำตอบในความรู้สึกคงไม่มี แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของวัดนี้ คงเป็นการที่ได้สัมผัสถึงความสงบและงดงามของธรรมชาติที่ทำให้เกิดความสงบขึ้นภายในใจเรา อย่างชัดเจน
โฆษณา