15 ก.พ. 2020 เวลา 03:23
เรื่องเล่าจากชายแดน ตอนที่ 1 : “โก้” บุรุษไปรษณีย์ แม่ตื่น จ.ตาก ส่งจดหมายสุดวิบากทั้งข้ามคืน ขึ้นดอย ลุยโคลน
เคยคิดไหมว่า เวลาที่บุรุษไปรษณีย์ต้องนำจดหมาย หรือพัสดุ ไปส่งยังพื้นที่ห่างไกล เช่น ในหมู่บ้านบนดอยสูง ติดกับตะเข็บแนวชายแดน หรือในพื้นที่ทุรกันดาร มันจะยากลำบากขนาดไหน แล้วทำไมถึงยังมีคนที่ยอมลำบากเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ ห้อยถุงไปรษณีย์ เดินทางข้ามวันข้ามคืน ข้ามเขาเพื่อไปส่งให้ถึงมือผู้รับ
ในวันที่ผมอยู่ที่ศูนย์การเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านเลผะสุดี หมู่ที่ 10 ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก โรงเรียน ตชด. ที่แสนจะไกลปืนเที่ยง ที่ตั้งอยู่บนดอยสูงที่เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาถนนธงชัย ห่างจากตัว อ.แม่สอด 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถ 4x4 ราว 4 ชั่วโมง และห่างจากแนวเขตแดนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์เพียงแค่สันเขากั้น
ศูนย์การเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านเลผะสุดี หมู่ที่ 10 ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ศตวรรตชัย ใหม่โม่ง” หรือ “โก้” ลูกจ้างนำส่งจดหมาย ปณอ.101 แม่ตื่น วัย 27 ปี ที่สานต่ออาชีพบุรุษไปรษณีย์จากผู้เป็นพ่อ ซึ่งยึดอาชีพนี้ทำมาหาเลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 20 ปี ส่วนตัวของโก้ ก็ทำอาชีพนี้มากว่า 8 ปี ที่เขาได้ตะเวรขึ้นเขา ลงดอยส่งจดหมายและพัสดุ ทางกลางความลำบากของเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบเพียงคนเดียวทั้งตำบล
“ผมก็สานต่อนำจ่ายไปรษณีย์จากพ่อตอนจบ ม.6 ตอนนี้เข้าปีที่ 8 แล้ว ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบของผมคือใน ต.แม่ตื่น ทุกๆ หมู่บ้าน คนเดียว บนพื้นที่ 512.24 ตารางกิโลเมตร หรือ 321,050 ไร่ 3,460 ครัวเรือน ระยะทางไกลสุดก็หมู่ 7 ติดกับ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ระยะทางราว 50 กิโลเมตร และอีกฝั่งคือ หมู่ 9 ติดกับ อ.สามเงา ระยะทางก็ 40 กิโลเมตร จากไปรษณีย์ อ.แม่ระมาด ซึ่งเป็นเทือกเขาทั้งหมด และแต่ละหย่อมบ้านในแต่ละหมู่ ก็ตั้งห่างกันบนเขาเป็นลูกๆ ซึ่งเวลาที่นำไปรษณีย์ไปส่ง ก็มีปัญหาในการนำจ่ายด้วย เพราะไม่รู้ว่าตัวเจ้าของบ้านอยู่หย่อมบ้านไหน หรือบนเขาลูกไหน”
1
“ยิ่งหน้าฝนยิ่งไปกันใหญ่เลย ขนาดรถยนต์ก็ต้องเป็นรถ 4X4 แถ้มล้อยังต้องพันโซ่ถึงจะไปได้ ส่วนมอเตอร์ไซค์ผมเปลี่ยนมาเป็นคนที่ 2 แล้ว เพราะคันแรกเครื่องน็อกไปแล้ว ต้องเปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนเฟรม ดัดแปลงเป็นรถวิบากถึงจะไปได้ เพราะต้องฝ่าโคลนลึกเกือบครึ่งล้อ เบรก ยาง ตลับลูกปืน ไม่ต้องพูดถึง แต่ละปีก็ต้องเปลี่ยนการหลายรอบเลยทีเดียว ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นเขาตามทางที่เป็นโคลน พยุงตัวเองให้ถึงที่สุด เปื้อนทั้งตัวเลยครับ ทั้งขี้ดินขี้โคลน แต่พยายามจะไม่ให้จดหมายเปื้อน เพื่อให้ถึงมือผู้รับสมบูรณ์ที่สุด ”
**ในเมื่อมันลำบากขนาดนี้ แต่ทำไมโก้ยังถึงทำอาชีพนี้อยู่**
1
“ผมรักในบ้านเกิด ในเมื่อพ่อได้มอบหมายให้สานต่อ ผมก็ทำมันต่อ จนตอนนี้ผมกับพ่อนำส่งไปรษณีย์รวมกันก็ราว 30 ปี แล้ว เคยท้อเหมือนกันนะ ว่าทำไมเราต้องมาลำบากมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่งานสบายก็มีเยอะแยะ แต่ในเมื่อพ่ออยากให้เราสานต่อ เราก็ไม่อยากละทิ้งในความตั้งใจของพ่อ ถามว่าคิดอยากไปทำอย่างอื่นไหม ก็คิดครับ ตอนนี้ก็เรียนต่ออยู่ เรียนรัฐประศาสนศาสตร์ ของสถาบันแปซิฟิค ม.พะเยา แต่ตอนนี้ก็ยังคงทำอยู่ และทำมา 8 ปีแล้ว”
**แม้จะลำบาก แต่มาพร้อมมิตรภาพจากชาวบ้าน**
“อย่างขึ้นมาส่งที่บนดอยนี้ กว่าจะส่งให้ครบทุกหย่อมบ้านก็ต้องใช้เวลา 2 - 3 วัน ส่วนมากเราก็คลุกคลีกับชาวบ้านเยอะเหมือนกัน เวลาจะนอนชาวบ้านก็จะให้อาศัยที่หลับที่นอน ทำกับข้าวกับปลาให้กิน เอ็นดูเราเหมือนลูกหลาน อย่างบางทีพวกบริษัทส่งพัสดุเอกชน ทั้งสีส้ม สีต่างๆ ก็ไม่สามารถขึ้นมาส่งได้ถึงบนดอย เขาก็ฝากผมขึ้นมาส่งให้เช่นกัน ถ้าจ่าหน้าซองถึงบ้านที่ผมรู้จักก็จะเอามาส่งให้ด้วย ถือว่าช่วยๆ กันไป”
“หรือบางทีชาวบ้านที่ต้องจ่ายบิลต่างๆ มีหมายศาล ค่าประกันชีวิต หรือค่างวดผ่อนรถกระบะ ผมก็รับไปลงไปส่งให้ ถ้ามันส่งทัน ซึ่งชาวบ้านก็ไว้ใจและเชื่อใจกันครับ”
1
ก่อนจบบทสนทนาโก้บอกกับผมว่า งานที่เขาทำแม้มันจะลำบาก เงินอาจจะไม่ได้มากมายเหมือนอาชีพอื่นๆ แต่มันคืองานที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อ งานที่หาเงินเลี้ยงดูครอบครัวมาตั้งแต่ผมยังเด็ก สมัยที่เงินเดือนพ่อยังแค่ 2,000 บาท เมื่อ 30 ปีก่อน
“ก็คงจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว ในเมื่อเราเกิดที่นี่ โตที่นี่ ก็คงจะทำต่อไป เพราะชาวบ้านยังรอไปรษณีย์จากเราทุกวัน”
#ไปรษณีย์ไทย #สุดทุกส่ง #ส่งสุขส่งฟรี
โฆษณา