เหตุใดจึงจำเป็นต้องฉายหนังไทยในต่างประเทศ ? : กรณีศึกษาจากเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เมื่อวานนี้ผมเขียนบทความเสนอแนะเรื่องการสร้างหนังประวัติศาสตร์ไทยโดยรวมไปแล้ว วันนี้ขอลงรายละเอียดเรื่องความจำเป็นที่จะต้องฉายหนังในต่างประเทศ โดยใช้กรณีศึกษาจากเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครับ
หนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวร 6 ภาคใช้ทุนสร้างรวมกันประมาณ 700 ล้านบาท หรือประมาณ 20 ล้านเหรียญเศษๆ ระดับน้องๆ Hollywood เลย (สาเหตุหนึ่งที่หนัง Hollywood ทุนสูงเกิดจากค่าตัวดาราและค่าแรงของทีมงานสูงกว่าประเทศอื่นๆ เมื่อตัดส่วนนี้ออกไป ทุนสร้างจริงๆจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ)
ตัวเลขรายได้ของหนังแต่ละภาค (อาจคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย ข้อมูลแต่ละแหล่งตัวเลขไม่ตรงกัน)
ภาคแรก องค์ประกันหงสา ทำรายได้ประมาณ 236.60 ล้านบาท
ภาคสอง ประกาศอิสรภาพ ทำรายได้ประมาณ 234.55 ล้านบาท
ภาคสาม ยุทธนาวี ทำรายได้ประมาณ 201.17 ล้านบาท
ภาคสี่ ศึกนันทบุเรง ทำรายได้ประมาณ 125.77 ล้านบาท
ภาคห้า ยุทธหัตถี ทำรายได้ประมาณ 205.16 ล้านบาท
ภาคหก อวสานหงสา ทำรายได้ประมาณ 115.11 ล้านบาท
รวมหกภาคทำรายได้ประมาณ 1,118.36 ล้านบาท
จากตัวเลขจะเห็นได้ว่าเฉพาะรายได้ของภาคแรกและภาคสอง ซึ่งคนส่วนใหญ่รวมถึงผมด้วยคิดว่าเป็นภาคที่ดีที่สุดรวมกันยังขาดทุนอยู่ ถ้าทำยุทธหัตถีจบที่ภาคสามเลยแล้วรายได้ออกมาใกล้เคียงกัน ก็อาจมีกำไรนิดเดียว ไม่คุ้มทุนสร้าง เมื่อยืดไปหลายๆภาคถึงจะมีรายได้คุ้มทุนสร้าง แต่ก็แลกด้วยการที่เนื้อเรื่องยืดยาวออกไปเรื่อยๆ คุณภาพและความน่าสนใจค่อยๆลดลง จนศึกยุทธหัตถีในภาคห้าที่ควรเป็นไคลแมกซ์ ทำออกมาได้ไม่อลังการอย่างที่ควรจะเป็น
ถามว่าถ้าปรับปรุงคุณภาพหนัง แล้วคนไทยช่วยกันไปดูมากขึ้น จะมีรายได้มากกว่านี้หรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่ารายได้ก็คงไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะปัจจุบันหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวรเกือบทุกภาคก็ติดอันดับหนังทำเงินสูงสุดของประเทศไทยอยู่แล้ว แสดงให้เห็นว่ารายได้ของหนังในประเทศไทยเรื่องหนึ่งอย่างมากที่สุดไม่น่าเกิน 200 - 300 ล้านบาท (ยกเว้นจะสร้างปรากฏการณ์แบบพี่มาก...พระโขนงได้)
ด้วยเหตุนี้ถ้าจะลงทุนสร้างหนังประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ให้มีรายได้ไม่ใช่แค่คุ้มทุน แต่ต้องมีกำไรพอจะต่อยอดสร้างหนังเรื่องต่อๆไปด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฉายหนังในหลายประเทศโดยเฉพาะตลาดใหญ่ๆอย่างสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (แต่จะเก็บเล็กผสมน้อยจากประเทศอื่นๆด้วยก็ได้เพราะตลาดใหญ่การแข่งขันก็สูง) ไม่ใช่ฉายแค่ในประเทศไทยเท่านั้น นำรายได้หลายๆแหล่งมารวมกัน ซึ่งวิธีการเจาะตลาดผมได้เสนอแนะไปบ้างแล้ว เช่น คุมโทนเนื้อหาออกมากลางๆให้คนทั่วโลกดูได้ ไม่ใช่เฉพาะคนไทย, ร่วมมือกับค่ายหนังต่างประเทศ เชิญดาราและทีมงานต่างชาติมาร่วมงาน เป็นต้น
สวัสดี
15.02.2020
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
