ความแตกต่างระหว่างยีนของมนุษย์และลิงต่างกันเพียง 1% มีต้นกำเนิดจากเผ่าพันธ์เดียวกัน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปยิ่งเนินนานเพียงใดคนและลิงยิ่งมีความแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ลิงยังคงอยู่อาศัยอยู่ในป่าตรงกันข้ามกับมนุษย์ที่มีพัฒนาการแทบทุกด้าน มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้นเรื่อยๆ สะดวกสบายแตกต่างจากลิงอย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้เกิดจากจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันเพียงแค่ 1% เท่านั้น เปรียบเสมือนการแล่นเรือของเรือ 2 ลำ จุดเริ่มต้นกำหนดหางเรือที่ต่างกันเพียง 1องศาเท่านั้น แต่เมื่อเรือเริ่มแล่นออกไป เรือ 2 ลำจะห่างออกจากกันไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ไม่มีการเปลี่ยนองศาของหางเรือ
จุดเริ่มต้นระหว่างคนรวยกับคนจนก็ต่างกันเพียงนิดเดียวเช่นกัน ที่ทำให้คน 2 คน รวยจนต่างกันมหาศาล โดยมีเวลาเป็นตัวขับเคลื่อนความแตกต่างมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้คนสองคนรวยจนต่างกันไม่ใช่เพราะวาสนา แต่เป็นมุมมองที่เปรียบเหมือนการตั้งทิศทางของหางเรือ การกระทำที่สม่ำเสมอเป็นเหมือนการแล่นเรือ คนรวยออมเงินวันละ 10 บาท กับคนจนที่ไม่ออมเงินเลย ในวันแรกคน 2 คนจะมีเงินแตกต่างกันเพียง 1 บาท แต่ถ้าเวลาผ่านไป 300 วัน คนแรกจะมีเงิน 3,000 บาท คนที่ 2 ก็ยังไม่มีเงินเลย ถ้าทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆความรวยจนของคนสองคนจะห่างกันไปเรื่อยๆ จนถึงหลักล้าน สิบล้าน ร้อยล้าน
ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่จุดเริ่มต้นต่างกันเพียงนิดแตกผลลัพท์สุดท้ายต่างกันมหาศาล
มีคนหลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยในวันแรกที่เป็นจุดเริ่มต้น ชีวิตเขาเหล่านั้นต่างจากเราหลายๆคนเพียงนิดเดียว แต่วันนี้นเขาเหล่านั้นร่ำรวยมหาศาล สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ สามารถแบ่งปันให้คนอื่นได้อย่างไม่จำกัด
คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี เศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทย ที่เริ่มต้นธุรกิจจากครอบครัวที่ทำการค้าขาย ด้วยการขายหอยทอด ในซอยเล็กๆ
คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ครอบครัวเริ่มต้นธุรกิจเพียงการขายเมล็ดพันธุ์ผัก
วันนี้เราต้องถามตัวเองว่าเรากำหนดหางเรือถูกทิศ ถูกองศา แล้วหรือยัง และยืนหยัดทำมันอย่างไม่หยุดอยู่กับที่
ทำสิ่งที่แตกต่างวันละ 1% ทุกวัน.....ชีวิตจะแตกต่างกันไปเรื่อยๆ ความสำเร็จและความล้มเหลวขึ้นอยู่กับการตั้งหางเรือในวันแรกของการออกเดินทาง