Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คนเล่าประวัติศาสตร์ (komkid)
•
ติดตาม
16 ก.พ. 2020 เวลา 08:32 • ประวัติศาสตร์
บ๊ะจ่าง กับ ตำนานของปราชญ์ผู้รักบ้านเมือง
บ๊ะจ่าง หรือ ขนมจ้าง เป็นอาหารทำจากข้าวเหนียวใส่กุนเชียง เนื้อหมู แปะก้วย ถั่ว ห่อด้วยใบไผ่เป็นรูปสามเหลี่ยมแล้วนำมานึ่ง กินเป็นของว่างหรือเป็นมื้อหนักก็ได้
ทว่าที่มาของบ๊ะจ่างหรือขนมจ้างนี้ มีความเกี่ยวพันกับเรื่องของ ชวีหยวน นักปราชญ์ ผู้ทรงคุณธรรมและรักบ้านเมือง แห่งยุครณรัฐ ที่เล่าขานมายาวนานในแผ่นดินจีน
บ๊ะจ่าง
400 ปี ก่อน ค.ศ. ประเทศจีนในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก เป็นช่วงเวลาของยุคจ้านกว๋อ หรือ ยุครณรัฐ แผ่นดินแบ่งเป็นแว่นแคว้นน้อยใหญ่ ที่ทำสงครามกลืนกินดินแดนกัน โดยราชวงศ์โจวไม่มีอำนาจที่จะห้ามปรามได้ และเมื่อถึงปลายยุคจ้านกว๋อ แคว้นฉินที่อยู่ทางภาคตะวันตก ได้ปฏิรูปบ้านเมืองจนเข้มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหาร จากนั้นจึงแผ่แสนยานุภาพเข้าคุกคามแคว้นอื่น ๆ จนกลายเป็นที่ยำเกรงของทุกแคว้น
1
ชวีหยวนเป็นขุนนางของแคว้นฉู่ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ เขาเป็นผู้ทรงภูมิรู้และมีคุณธรรม ชวีหยวนเป็นที่ปรึกษาของฉู่ฮุ่ยหวาง ประมุขแคว้นฉู่ ซึ่งในระยะแรก พระองค์มีความเชื่อถือในตัวเขาเป็นอันมาก ทว่าเมื่อชื่อเสียงของชวีหยวนเริ่มเลื่องลือ ก็มีขุนนางบางคนริษยาและทูลยุแยงจนฉู่ฮุ่ยหวางเกิดความระแวงและคลายความเชื่อถือ
ปีที่ 299 ก่อน ค.ศ. แคว้นฉินกับแคว้นฉู่ทำสงครามกัน กองทัพฉู่พ่ายแพ้ยับเยิน ฉินหวางได้ยื่นข้อเสนอจะสงบศึก แต่มีข้อแม้ให้ฉู่ฮุ่ยหวางเดินทางไปแคว้นฉินเพื่อทำข้อตกลง ฉู่หยวนคาดการณ์ว่าข้อเสนอดังกล่าวมีอุบายแอบแฝงอยู่ จึงพยายามคัดค้านไม่ให้เจ้าเหนือหัวของตนไปแคว้นฉิน ทว่าฉู่ฮุ่ยหวางไม่ยอมฟังและเสด็จไปตามคำเชิญ จนถูกจับเป็นเชลย จากนั้นอีกสามปีต่อมา ก็สิ้นพระชนม์ในที่คุมขัง
หลังจากฉู่ฮุ่ยหวางถูกจับไป โอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แทน โดยมีพระนามว่า ฉิงเซียงหวาง ซึ่งหลังจากฉู่ฉิงเซียงหวางครองราชย์แล้ว กลุ่มขุนนางที่เป็นศัตรูกับชวีหยวนได้เป็นที่โปรดปรานของฉู่หวางพระองค์ใหม่ ขุนนางเหล่านั้นได้ให้ร้ายชวีหยวน จนทำให้เขาต้องออกจากราชการและถูกเนรเทศไปชนบท
ปีที่ 278 ก่อน ค.ศ. แคว้นฉินได้ส่งทัพยกมาตีแคว้นฉู่ นครหลวงอิ่งตูถูกกองทัพฉินตีแตก ทำให้แคว้นฉู่ต้องเสียเมืองหลวงและดินแดนอีกหลายเมืองให้แก่ฉิน ซึ่งเมื่อชวีหยวนได้ทราบข่าวก็เศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอันมาก และด้วยความคับแค้นใจที่ตนเองไม่อาจใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือบ้านเมืองในยามวิกฤตได้เขา จึงตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำมี่ลั่วปลิดชีพตนเอง
เมื่อพวกชาวเมืองจำนวนมากที่รักใคร่นับถือฉู่หยวน ได้ทราบข่าว ก็พากันเศร้าโศกเสียใจ พวกเขาพยายามงมหาร่างของฉู่หยวนขึ้นมาทำพิธีศพแต่ไม่พบ พวกชาวเมืองจึงพูดกันว่า ดวงวิญญาณฉู่หยวนคงไม่ปรารถนาขึ้นมาอยู่บนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จึงบันดาลให้ผู้คนหาร่างของเขาไม่พบ ทว่าชาวเมืองต่างเกรงว่าฝูงปลาในแม่น้ำมี่ลั่วจะกินร่างของฉู่หยวน จึงพายเรือไปตามแม่น้ำและตีกลองไล่ปลา พร้อมกับนำข้าวเหนียวนึ่งปั้นเป็นก้อนห่อด้วยใบไผ่โยนลงน้ำให้ปลากินเพื่อที่ปลาจะได้ไม่ไปกินร่างของฉู่หยวนที่พวกเขานับถือและศรัทธา
ชาวบ้านโนนข้าวลงน้ำ เพื่อไม่ให้พวกปลากินร่างของชวีหยวน
ทุกปี ในวันที่ 5 เดือน 5 เพื่อรำลึกถึง ชวีหยวน วีรบุรุษผู้รักแผ่นดิน พวกชาวเมืองจึงจัดงานแข่งเรือมังกรและทำข้าวเหนียวนึ่งห่อใบไผ่รับประทานกัน จนกลายเป็นธรรมเนียมแพร่หลายสืบมา โดยจากข้าวเหนียวนึ่งห่อใบไผ่ในยุคแรก ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงจนกลายมาเป็นบะจ่างหรือขนมจ้างดังเช่นทุกวันนี้
6 บันทึก
27
9
11
6
27
9
11
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย