17 ก.พ. 2020 เวลา 02:32 • กีฬา
สวัสดีสาวกมวยปล้ำทุกท่าน
กำเนิดค่ายมวยปล้ำพันล้านEP.5
บทเรียนที่ WWF เรียนรู้หลังตกเป็นเบอร์สองของวงการ คืออย่ามองข้ามปัญหาที่เกิดขึ้นปี 1996 WWF ขาดทุนเป็นจำนวนเงิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ วินซ์ แม็คแมน ตัดสินใจปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมด ด้วยการเริ่มต้นยุคใหม่ของสมาคมในชื่อ “ยุคแอดติจูด” (Attitude Era) ที่สือถึงทัศนคติใหม่ของสมาคม พวกเขาเลิกยึดติดกับนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียง และนำนักมวยปล้ำระดับกลางที่ถูกเขี่ยทิ้งจาก WCW มาปั้นใหม่ให้เป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการ
นักมวยปล้ำชื่อดังอย่าง สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน (Stone Cold Steve Austin), ทริปเปิล เอช (Triple H), มิค โฟลีย์ (Mick Foley) และ คริส เจอริโก ชื่อเหล่านี้คือตัวอย่างของนักมวยปล้ำที่ถูกทิ้งขว้างจาก WCW แล้วมาแจ้งเกิดที่ WWF จนเป็นกำลังหลักของสมาคมในเวลาถัดมา
ในขณะที่ WCW กำลังจ่ายค่าจ้างมหาศาลให้แก่นักมวยปล้ำที่ดังมาตั้งแต่ยุค 80’s WWF ปั้นหนักมวยปล้ำหน้าใหม่ที่โด่งดังไม่แพ้กัน แต่ค่าจ้างถูกกว่า และสร้างความสนใจจากคนดูได้มากกว่า เรตติ้งของ RAW เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนแซงหน้า WCW ในเดือนเมษายน ปี 1998
สวนทางกับค่ายคู่แข่ง WCW ยังคงผลักดันแต่นักมวยปล้ำหน้าเดิม ที่แสนจะขี้เกียจและคิดถึงแต่เรื่องเงิน คนเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่กับการถือเข็มขัดแชมป์โลก ส่วนนักมวยปล้ำที่สร้างแมตช์คุณภาพดีไม่ใกล้เคียงกับการไปถึงจุดนั้น เพราะไม่สามารถก้าวผ่านอำนาจหลังฉากของกลุ่ม nWo
อำนาจของกลุ่ม nWo ในเวลานั้น มีสูงมากจนแม้แต่ WCW ไม่สามารถควบคุมได้ การปฏิบัติแบบสองมาตรฐานทำให้ความไม่พอใจขยายเป็นวงกว้าง ปัญหาจากเดิมที่จำกัดในนักมวยปล้ำระดับสูง กระจายตัวสู่นักมวยปล้ำระดับกลางและครุยเซอร์เวต พวกเขาไม่พอใจที่ไม่ได้รับการผลักดัน และถูกปฏิบัติเป็นเหมือนตัวตลกให้นักมวยปล้ำระดับสูงกระทืบเล่น
เมื่ออิทธิพลของ nWo มากเกินไป คนที่รู้สึกถึงอันตรายมากที่สุด กลับกลายเป็น เอริค บิสชอฟ เขากลัวจะสูญเสียอำนาจของตัวเองไป บิสชอฟเริ่มแสดงไม้แข็ง เพื่อแสดงว่าใครคือเจ้านายที่แท้จริง ด้วยการไล่ ฌอน วอลต์แมน (Sean Waltman) เพื่อนซี้ของแนชและฮอลล์ออก ผลสุดท้ายสองคนนี้ไม่พอใจมาก และหายจากจอทีวีแบบดื้อๆ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ วอลต์แมนย้ายซบ WWF และสร้างชื่อเสียงโด่งดังในนาม เอ็กซ์ แพค (X-Pac)
ถึงปัญหาหลังบ้านจะวุ่นวายแค่ไหน บิสชอฟสนใจแค่การเอาชนะ WWF ในสงครามเรตติ้ง เขาผลักดันโกลด์เบิร์ก (Goldberg) อดีตผู้เล่นอเมริกันฟุตบอล NFL มาเป็นหมายเลขหนึ่งคนใหม่ของสมาคม และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆ แต่ความผิดพลาดมีอยู่ในทุกอณูของ WCW
แทนที่พวกเขาจะนำแมตช์ในฝันของผู้ชม โฮแกน-โกลด์เบิร์ก ไปใส่ไว้ในโชว์ต้องจ่ายเงินเพื่อรับชม และสร้างรายได้แก่สมาคมหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บิสชอฟกลับปล่อยให้ดูฟรีทางรายการ Monday Nitro เพราะเขาสนใจแค่เรื่องเรตติ้งทางทีวีเท่านั้น
สุดท้าย บิสชอฟต้องจ่ายราคามหาศาลในความหมกมุ่นเรื่องเรตติ้งของเขา ปี 1999 WCW ขาดทุน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของสมาคม ตัวเลขสีแดงในผลประกอบการ บีบให้บิสชอฟลงจากตำแหน่งในช่วงปลายปี 1999 เป็นการยุติช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของยุค WCW ไว้เพียงเท่านี้
โฆษณา