17 ก.พ. 2020 เวลา 05:55 • ธุรกิจ
ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว Ep.4
ต้องครบวงจร
สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูง นักธุรกิจจึงถูกบีบเข้าสู่ระบบ "ครบวงจร" เพื่อลดขั้นตอนที่อยู่ตรงกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อผู้ซื้อเจอกับผู้ขายโดยตรง ต้นทุนก็จะถูกลง ข้อดีที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือ เอาผู้มีทุนมารับความเสี่ยงแทนเกษตรกร
ในประเทศกำลังพัฒนา ความรู้ของเกษตรกรยังไม่ดีพอ ขาดเทคโนโลยี ขาดเงินทุน ไม่มีตลาดหรือหาตลาดไม่เป็น เกษตรกรจึงเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงทั้งในเรื่องการเพาะปลูก ดินฟ้าอากาศ ผลผลิตล้นตลาดการขายผลผลิตไม่ได้ราคา เกษตรกรเขาไม่ได้มีเงินทุนเยอะขนาดที่จะมายอมเสี่ยงขาดทุนได้บ่อยๆ ขาดทุน 2-3 ครั้ง เงินก็หมดแล้ว
ประเทศกำลังพัฒนามักจะเอาความเสี่ยงที่สุดไปอยู่กับคนที่มีความรู้น้อยที่สุด ในขณะที่คนฉลาดมักจะเลือกทำธุรกิจที่ไม่เสี่ยง
ถ้าจะช่วยเกษตรกรออกจากความเสี่ยงนี้ ก็จำเป็นต้องนำคนที่มีทุน มีเทคโนโลยี และมีกำลังทางการตลาดมารับความเสี่ยงแทน
ระบบครบวงจร เป็นการแบ่งหน้าที่ให้คนที่ไม่มีทุน ไม่มีตลาด ไม่มีเทคโนโลยี แต่มีแรงงาน มีที่ดิน ก็มาออกที่ดิน ออกแรงงาน และให้คนมีทุนออกทุน มีเทคโนโลยีออกเทคโนโลยี และเป็นผู้หาตลาด
"วิธีนี้ทำให้เกษตรกรไม่ต้องเสี่ยงกับการขาดทุน"
ระบบครบวงจรจึงสำคัญและควรนำมาใช้กับเกษตรกรบ้านเรามากเพราะกระบวนการผลิตและการขายทั้งหมดจะครอบคลุมและอยู่ในวงจรที่เป็นระบบ เช่น เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตสินค้า การคัดเลือกวัตถุดิบ การแปรรูป การวิจัยและพัฒนา และการกระจายสินค้า
มองให้ลึกซึ้งแล้วคนเสี่ยงก็คือ คนลงทุน เกษตรกรได้แน่นอน
และที่ได้แน่นอนอีกกลุ่มคือ "ผู้บริโภค" เพราะเขาจะได้รับสินค้าในราคาที่ถูกลง เพราะระบบครบวงจรนี้ไม่ต้องผ่านหลายขั้นตอนที่แต่ละขั้นตอนก็มีการบวกทบกำไรกันมาเป็นทอดๆนั่นเอง
ส่วนในแง่ของ "นักธุรกิจ" ธุรกิจต่างๆ เริ่มพัฒนาตนเองเข้าสู่ระบบครบวงจรมากขึ้น เพราะล้วนเห็นว่า ในท้ายที่สุด อนาคตการทำธุรกิจก็ต้องทำแบบครบวงจร เพราะเป็นจุดสุดท้ายที่มีพลังแข่งขันมากที่สุด ช่วยให้อยู่รอดและเติบโตได้
"ธุรกิจจะเข้มแข็งต้อง (ครบวงจร)."
Ep.ถัดไปเราจะพูดถึงหลักการ 3 ประโยชน์ โปรดติดตามด้วยน่ะครับ😊
หากเลื่อนมือไปกดติดตาม กดไลค์และกดแชร์ด้วยจะขอบคุณมากเลยครับ😍
โฆษณา