18 ก.พ. 2020 เวลา 00:32 • ไลฟ์สไตล์
รีวิวบัตร planet scb
ด้วยสมัยนี้การเดินทางไปต่างประเทศสักครั้งไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากจนเกินไป
ด้วยการที่แต่ละสายการบินออกโปรตั๋วเครื่องบินราคาถูก
ประกอบกับค่าเงินบาทที่ถูกกว่ากว่าสมัยก่อน (แต่ตอนนี้มันก็เริ่มดีดกลับมาแล้วนะ)
แน่นอนละว่าเมื่อไปต่างประเทศสิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือแลกเงิน
1
แต่การที่เราแลกเงินที่เป็นเงินสดไปมากก็มีความเสี่ยงที่จะทำหาย หรือโดนขโมยแล้วไม่ได้คืน
1
ซึ่งบางคนก็ใช้วิธีนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าด้วย แต่บัตรเหล่านั้นเมื่อนำไปใช้ก็จะมีค่าความเสี่ยงในการรูดสกุลอื่นโดยจะคิดที่ rate 2-2.5%
เมื่อนำมาคิดเป็นตัวเงินแล้วก็แพงกว่านำเงินไปแลกที่ร้านเสียอีก
1
ดังนั้นก็เลยทำให้ธนาคารออกบัตร prepaid สำหรับเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งในวันนี้ผมจะกล่าวถึงบัตร scb planet ซึ่งเป็นบัตรที่ผมได้นำไปใช้ครับ
1
(บทความนี้เขียนโดยประสบการณ์ใช้จริงด้วยตนเอง ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ไม่ได้ว่าจ้างแต่อย่างใด)
สำหรับวิธีสมัครบัตรนี้นั้นขั้นแรกจะต้องมีบัญชีของ scb และแอพ scb easy เสียก่อน โดยเราสามารถกดสมัครได้เลยผ่านแอพ
เมื่อสมัครเสร็จแล้วธนาคารจะส่งบัตรมายังที่อยู่ที่เราเคยให้ไว้กับ scb ใครที่ย้ายที่อยู่ก็แจ้งเปลี่ยนก่อนนะครับ สามารถแจ้งเปลี่ยนที่แอพได้
ซองที่ได้รับจะหน้าตาประมาณนี้ ซึ่งจะเป็นจดหมายลงทะเบียนใช้เวลาจัดส่งประมาณ 1 สัปดาห์ครับ
ซองที่ทาง scb ส่งมา
เมื่อแกะซองออกมา ข้างในก็จะมีคู่มือการใช้งานบัตร ข้อกำหนดและเงื่อนไข และตัวบัตร
ภายในซอง
ตัวบัตร planet scb ลายสวยใช้ได้เลยทีเดียวครับ หน้าบัตรก็มีพิมพ์ชื่อของเราไว้ มี VISA paywave สำหรับแตะจ่ายโดยไม่ต้องเสียบเครื่องรูด
ส่วนด้านหลังก็มีช่องให้เซ็นชื่อ และ QR code สำหรับเติมเงินในกรณีที่อยากนำเงินจากบัญชีธนาคารอื่นเติมเข้าบัตร
ด้านหน้าและหลังบัตร
เมื่อได้บัตรมาแล้วก็ทำการเปิดบัตร จากนั้นเราสามารถทำรายการในแอพได้เลย
หลังจากเปิดบัตรเรียบร้อยเราก็จะสามารถเข้าไปในหน้าเมนูรายการของบัตรได้
ภายในเมนูของบัตร planet ในแอพ scb easy
วิธีการเติมเงินมี 2 วิธีคือ
1. กดที่เมนูเติมเงินเข้าวอลเล็ท อันนี้จะเป็นการหักเงินจากบัญชี scb เข้าไปในตัวบัตร
2. เติมจากแอพของธนาคารอื่น ทำได้โดย scan QR code ด้านหลังของบัตร planet
ทั้งนี้ตัวบัตร planet มีตัวเลือกให้เรากดระงับใช้บัตรชั่วคราวด้วย ซึ่งเราสามารถระงับไว้นานเท่าไรก็ได้ เวลาจะใช้ก็ค่อยปลดระงับ ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างนึงสำหรับคนที่กลัวโดนขโมยบัตรและถูกนำไปรูด
และในขณะที่เราจะเติมเงินเข้าไปในบัตรนั้นจะต้องทำการปลดระงับบัตรด้วยไม่เช่นนั้นจะเติมเงินไม่ได้
หลังจากที่เราเติมเงินเข้าไปในบัตรแล้วเราสามารถที่จะแลกเงินเก็บเอาไว้ก่อนได้ โดยเป็นเรทพิเศษของ scb
สกุลที่สามารถแลกล่วงหน้าได้
ทั้งนี้หากเรานำไปใช้สกุลเงินที่ไม่มีให้แลก หรือแลกสกุลที่มีให้แลกแต่ใช้เกิน ตัวบัตรจะทำการหักเงินจากสกุลอื่นให้เราอัตโนมัติ โดยแลกจากเงินบาทไทยเป็นอันดับแรก
โดยเรทที่ใช้จะเป็นของ VISA ซึ่งมีข้อดีอีกอย่างของบัตรนี้คือไม่คิดค่าความเสี่ยงในการรูดสกุลอื่น ซึ่งจะทำให้เรทนั้นถูกกว่ารูดบัตรเครดิต
ซึ่งจากการที่ผมได้ไปตุรกีมา ซึ่งตัวบัตร planet ไม่มีสกุล ลีร่า ให้แลก ดังนั้นผมจึงเติมเงินบาทไทยใส่เข้าไปในบัตรเท่านั้น
แล้วก็ได้ไปลองรูดจากร้านใน Spice market ในอิสตันบลู ก็สามารถรูดได้ครับ ตอนที่รูดบัตรก็จะบังคับให้กด pin 6 หลักด้วย ซึ่งเหมือนกับบัตรเดบิต
1
pin นี้เราจะเป็นคนตั้งเองตั้งแต่ตอนเปิดบัตร และสามารถเปลี่ยน pin เองได้ผ่านแอพ scb easy
รายการที่รูดไปจะโชว์ที่แอพ อันนี้แคปจากวันที่รูด
เมื่อรูดเสร็จเงินจะถูกหักออกไปจากบัตรทันที แต่ผมได้พบปัญหาข้อหนึ่งคือ เงินที่ถูกหักออกไปจากบัตรในวันที่รูดนั้นจะเป็นแค่การกันยอดเท่านั้น เรทที่คิดจริงๆจะเป็นของวันถัดไป
ซึ่งในตอนแรกนั้นเงินในบัตรของผมถูกหักไป 577.30 บาท คิดแล้วจะได้เรท 1 ลีร่า = 5.2482
แต่พอวันถัดมายอดนั้น ได้ถูกปรับลงเหลือ 575.65 บาท คิดแล้วจะได้เรท 1 ลีร่า = 5.2331
ยอดที่ scb เก็บจริง
จากรูปจะเห็นว่า วันที่ผมรูดคือวันที่ 4 ก.พ. 63 แต่วันที่ scb บันทึกรายการคือ 5 ก.พ. 63
ก็เป็นความโชคดีของผมที่สามารถซื้อของได้ถูกลง
ทั้งนี้ใครที่ซีเรียสเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจุดนี้ก็ต้องพิจารณาด้วย
แต่ถ้าไปใช้สกุลเงินที่มีให้แลกในบัตร และเราแลกไปเรียบร้อย ปัญหานี้จะไม่เกิดครับ
ความจริงแล้วไม่ว่าเรทจะเป็นของวันไหนผมก็รับได้ เพราะร้านแลกเงินคิดเรทประมาณ 1 ลีร่า = 5.50 แพงกว่ารูดบัตรเสียอีก
ทั้งนี้บัตร scb planet มีข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดี
1. เป็นบัตร prepaid ซึ่งต้องเติมเงินเข้าบัตรไปก่อนถึงจะสามารถรูดซื้อของได้ เติมเท่าไรก็ใช้ได้เท่านั้น
2. สามารถเติมเงินจากบัญชี scb หรือธนาคารอื่นได้
3. สามารถแลกเงินเก็บไว้ล่วงหน้าก่อนได้ (ตามสกุลที่มีให้แลก)
4. กรณีที่รูดสกุลที่ไม่มีให้แลกจะใช้เรทของ VISA ซึ่งจะไม่คิดค่าความเสี่ยงในการรูด
5. สามารถระงับการใช้บัตรชั่วคราวเพื่อป้องกันการโดนขโมยได้
ข้อเสีย
1. ในกรณีที่ให้บัตรทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินให้อัตโนมัติ อัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะเป็นของวันถัดไป
2. จากข้อ 1. เมื่อ scb บันทึกรายการเรียบร้อย เราจะไม่สามารถดูยอดเงินที่รูดเป็นสกุลนั้นได้ โดยยอดที่โชว์ในแอพจะเป็นเงินบาทไทย (ดูได้จากรูปด้านบน)
3. เมื่อรูดบัตร ทั้งแอพ scb easy และ scb line connect จะไม่แจ้งเตือน
4. ในกรณีที่รูดซื้อของที่ดิวตี้ฟรีในบางประเทศเราจะพบว่าราคาจะเป็น ดอลลาร์หรือไม่ก็ยูโร ซึ่งไม่ใช่เงินสกุลท้องถิ่น แต่เวลาที่เรารูดไปแล้วธนาคารต้นทางจะเรียกเก็บกับบัตรของเราเป็นสกุลท้องถิ่น
นอกจากบัตร planet scb แล้วตอนนี้ก็มีอีก 2 เจ้าที่ออกบัตรแบบนี้ออกมา ก็คือ travel card ของกรุงไทย และ youtrip ของกสิกร
ถ้ามีโอกาสหน้าก็จะลองใช้ของทั้ง 2 เจ้านี้ครับ อยากรู้ว่าต่างกับของ scb ยังไง
หากชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ และกดติดตามเพจนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
โฆษณา