See KHAMER before you die part4.2
ทำความรู้จักกับนครวัดสั้นๆ ในฐานะนักท่องเที่ยว การรู้จักประวัติของสถานที่ที่เราไป มันทำให้เราเข้าใจเเละเรียนรู้อารยธรรมของสิ่งเหล่านั้นมากกว่าจะเดินชมเเล้ว check in ถ่ายรูป
นครวัด ถูกชาวฝรั่งเรียกว่าอังกอร์วัด เนื่องมาจากการอ่านออกเสียงของเค้าที่ไม่สามารถออกเสียงคำว่า นคร ได้อย่างชัดเจน จนคำคำนี้ถูกใช้อย่างต่อเนื่องในภาษาอังกฤษจนถึงปัจจุบัน
นครวัดสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เเห่งอาณาจักรขอมที่ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1656-1693 โดยขณะนั้นเป็นสมัยที่นับถือพราหมณ์ฮินดูไวษณพนิกาย (พระวิษณุ — พระนารายณ์) พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นี้จึงต้องการสร้างนครวัดเเห่งนี้เป็น เทวาลัยบูชาพระวิษณุเเละต้องการเป็นที่เก็บพระศพของพระองค์เองด้วย ดังนั้น นครวัดจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า บรมวิษณุมหาปราสาท เเละนครวัดจึงหันหน้าไปทางทิศตะวันตก(ทิศของผู้ตาย) เเทนทิศตะวันออกเหมือนปราสาททั่วไป
ทางเข้าสู่ปราสาทนครวัดช่วงเช้า
ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงเปลี่ยนนครวัดเป็นศาสนสถานของพุทธศาสนานิกายมหายานที่ทรงนับถือเเทน เเละทรงสร้างเมืองนครธมเเละปราสาทบายนขึ้นทางทิศเหนือของนครวัดเป็นเมืองหลวงเเห่งใหม่
นครวัดถูกสร้างจากหินทรายปริมาตรหลายล้านลูกบาศก์เมตร เเรงงานช้างนับหมื่นเชือก ขนเเละชักลากหินมาจากเขาพนมกุเลนซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 km มาสร้างปราสาทที่มีเสา 1800 ต้น หนักต้นละกว่า 10 ตัน ความยาว 1.5 km กว้าง 1.3 km พื้นที่ 1219 ไร่ หรือราวๆ 2 เเสนตารางเมตร มีปราสาท 5 หลัง ตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติฮินดู คือเป็นศูนย์กลางของโลกเเละจักรวาล คูน้ำล้อมรอบตามมหาสมุทรล้อมเขาพระสุเมรุ
คูน้ำทางด้านหน้าซึ่งเป็นทางเข้าสู่เขตนครวัด
ทางเข้าด้านหน้าจะผ่านคูน้ำขนาดใหญ่ รายทางเป็นสระบัว ปัจจุบันทางข้ามถูกปิดซ่อมเเซม ใช้เป็นโป๊ะขนาดใหญ่ทางด้านขวาให้นักท่องเที่ยวเดินเข้ามาในเขตนครวัดเเทน
top view ของนครวัด
กำเเพงชั้นนอกรอบปราสาทสลักด้วยงานหิน วรรณคดี รามายณะ นางอัปสร 1635 นาง ซึ่งมีทรงผมไม่ซ้ำกันเลย
ภาพสลักกำเเพงเเละนางอัปสรา
ผ่านมาหลายร้อยปีที่นครวัดถูกทิ้งร้างให้ป่าปกคลุม เนื่องจากกษัตริย์รุ่นต่อๆมาย้ายเมืองหลวงไปทางใต้ ยุคเเผ่นดินรุ่งเรืองเปลี่ยนเเปลงไปจนถึงบทสิ้นสูญ ปราสาทต่างๆถูกปล่อยร้างเเละห่างจากสายตาของผู้คน จนกระทั่งมีชาวต่างชาติมาเยือน ปรากฏในบันทึกของนักเเสวงบุญจากโปรตุเกสเเละฝรั่งเศส
ความยิ่งใหญ่ภายในนครวัด เรารู้สึกว่าตัวเราเล็กมาก เมื่อไปยืนมองอยู่รอบๆสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่เเห่งนี้
นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส อองรี มูโอต์ เดินทางมาศึกษาพรรณพืชเมืองร้อน จากเมืองไทย มูโอต์เข้ากัมพูชาทางทะเลตะวันออก เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2403 ได้พบปราสาทนครวัดเป็นแห่งแรก เป็นการค้นพบโบราณสถานที่สำคัญของโลก หลังจากดินแดนขอมโบราณสาบสูญไปกว่า 4 ศตวรรษ
ครั้นกลับฝรั่งเศส เขาเขียนหนังสือบรรยายถึงสิ่งที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรแน่ในเวลานั้น ว่า “นี่คือความยิ่งใหญ่ที่ท้าทายวิหารโซโลมอน มันถูกสร้างขึ้นโดยน้ำมือของไมเคิล แองเจโล แห่งยุคบรรพกาล และสามารถยืนเคียงกับสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์ที่สุดของโลกตะวันตกได้อย่างเต็มภาคภูมิ มันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดๆ ที่กรีกและโรมันทิ้งไว้เป็นมรดกแก่เรา เป็นภาพขัดแย้งอันน่าสลดใจท่ามกลางความเสื่อมโทรมป่าเถื่อนของดินแดนที่ให้กำเนิดมันขึ้นมา” (สำนวนแปล จิระนันท์ พิตรปรีชา หนังสือตำนานนักเดินทาง สนพ.สารคดี)
3 ปีหลังจากมูโอต์ค้นพบนครวัดและนครธม ฝรั่งเศสก็บุกกัมพูชา ยึดเป็นเมืองขึ้นเมื่อ พ.ศ.2406 โบราณสถานเมืองพระนครถูกปล้นอย่างถูกกฎหมายโดยเจ้าอาณานิคมและนักค้าของเก่าจากทุกสารทิศ ของบางอย่างถูกเก็บใน national museum ของที่นี่ เเละบางส่วนไกด์บอกว่าอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ของฝรั่งเศส 😞😞😞
การเดินทางครั้งนี้ เรายังไม่สามารถเดินสำรวจนครวัดให้ได้ทั่วถึงทุกมุม เเละบริเวณทางชึ้นพระปรางค์ก็ปิดเนื่องจากเป็นวันพระ 😱 ถ้าหากมีโอกาสคราวหน้าก็อยากจะเเวะมาเเก้ตัวเเละคงต้องเผื่อเวลาสักครึ่งวันค่ะ
ทางขึ้นพระปรางค์ ปกติคนจะมาต่อคิวเยอะ เเต่วันนี้ปิดเพราะเป็นวันพระ
ปล.ติดตามการเดินทางสู่ปราสาทอื่นๆได้ต่อใน part ต่อๆไปค่ะ😊
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
