19 ก.พ. 2020 เวลา 13:51 • บันเทิง
Contratiempo เมื่อความจริง มีเพียงหนึ่งเดียว
คำเตือน ⚠️ บทความนี้เป็นการเปิดเผยเนื้อเรื่องทั้งหมด Spoil
Contratiempo ภาพยนตร์สัญชาติ สเปน (2016)
ภาพยนตร์เล่าถึง เศรษฐีหนุ่มเจ้าของบริษัทด้านไอที ที่พึ่งตีตลาดเอเชีย
และได้รับรางวัลนักธุรกิจแห่งปี เอเดรียน ดอเรีย ชีวิตของเขาที่ช่างสมบูรณ์
แบบ ธุรกิจที่กำลังไปได้ดี ภรรยาและลูกน้อยที่กำลังอยู่ในวัยน่ารัก แต่การ
ตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีฆาตกรรม ลอร่า หญิงสาว ซึ่งเป็นชู้รัก ทำให้ชีวิตเขาแทบจบสิ้นทันที ลำพัง เฟลิกซ์ ทนายประจำตัวเขา ไม่อาจจะช่วยให้เขา
หลุดรอด จากคดีในครั้งนี้ได้ จึงได้ติดต่อ เวอร์จิเนีย กู๊ดแมน ทนายมือฉมัง ที่กำลังจะรามือจากอาชีพทนาย ให้เข้ามาช่วยอีกแรง
เวอร์จิเนีย มาหาเอเดรียนก่อนเวลาที่เขานัดไว้ เธอเริ่มให้เอเดรียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามความจริง เขาบอกกับเธอว่า มีคนรู้เรื่องที่เขานอกใจภรรยา ไปแอบคบกับลอร่า และขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องนี้ โดยขอนัดเจอ เพื่อเอาเงิน แลกกับการปิดปาก ที่โรงแรมใกล้ หุบเขาห้อง 715 ซึ่งห่างจากตัวเมืองออกไป และให้ลอร่าทิ้งโทรศัพท์ไว้ในถังขยะหน้าสถานีรถไฟ ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะต้องนั่งรถไฟขึ้นเขาไปยังโรงแรม
เมื่อถึงปรากฎว่า ห้องถูกจองไว้ในชื่อเอเดรียน ทั้งคู่นั่งรออยู่นาน จนมีข้อความถูกส่งหาโทรศัพท์ของเอเดรียนมาจากมือถือลอร่า ว่าให้มาพบที่โรงแรม(เพื่อสร้างสถานการณ์ ให้คนอื่น เข้าใจว่าลอร่าขู่จะแฉ เอเดรียนเอง ) พวกเขาจึงสงสับว่าจะโดนจัดฉากซะเอง จึงรีบเก็บของเพื่อหนีไปจากที่นั่น แต่เอเดรียนถูกทำร้ายจนสลบไป 2 -3 นาที พอฟื้นขึ้นมาลอร่าก็โดนทุบที่หัวจนตาย พร้อมเงินที่กระจายอยู่บนร่างลอร่า ตำรวจบุกเข้ามา ก็จับกุมเอเดรียนในข้อหาฆ่าคนตายทันที
และเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่ม ยิ่งมัดตัวเอเดรียนแน่น เพราะหน้าต่างทุกบานปิดล็อคจากด้านใน ประตูคล้องจากด้านใน เอเดรียนบอกกับเวอร์จิเนีย ว่า เขาไม่รู้จริงๆว่าฆาตกรที่ฆ่าลอร่า และทำร้ายเขา หายไปได้อย่างไร
ฝ่ายเวอร์จิเนีย เมื่อฟังจบ เธอบอกเอเดรียนว่า ลูกความที่เธอพบนั้น มี อยู่ 2 ประเภท ประเภทแรก คือลูกความที่อยากให้เธอช่วย และยอมเล่าความจริงทั้งหมด ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และประเภทที่สอง คือคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าเธอ เล่าแค่ความจริงบางส่วน และหวังให้เธอช่วย และเอเดรียนเป็นประเภทที่สอง เพราะเขายังไม่สามารถอธิบายได้ว่า บุคคลปริศนาที่ทำร้ายเขาและฆ่าลอร่านั้นหนีไปราวกับว่าเป็นอากาศธาตุได้อย่างไร
เวอร์จิเนีย ขอให้เขาเล่าเรื่องทั้งหมด ด้วยความสัตย์จริง อีกครั้ง และคุย กับเฟลิกซ์ที่โทรมาหาเอเดรียน ว่าเธอจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่ศาลจะได้พยานเพิ่มมา
เอเดรียนเริ่มต้นเล่าอีกครั้ง เหตุการณ์ในครั้งนี้นั้น แท้จริงแล้ว เริ่มต้นเมื่อ 3 เดือนก่อน ลอร่าและเอเดรียน ซึ่งแอบมีความสัมพันธ์กันทั้งที่ทั้งคู่ต่างมี ครอบครัวแล้ว ได้แอบนัดเจอกัน ที่ชุมชนที่ห่างไกลตัวเมือง โดยเอเดรียน อ้างกับโซเฟีย ภรรยาของเขาว่าไปติดต่อธุรกิจที่ปารีส ลอร่าเองก็บอกสามี ว่าติดงานเช่นกัน เช้าวันก่อนกลับ เกิดอุบัติเหตุเมื่อรถของพวกเขาถูกกวาง ตัดหน้า และเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่ง เด็กหนุ่มที่ขับรถคันนั้นเสียชีวิตทันที
เอเดรียนพยายามจะโทรแจ้งตำรวจ แต่ลอร่าห้ามไว้ จะปล่อยให้เรื่องนี้ทำ ลายชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันที่นี่ โชคร้ายที่รถของเอเดรียนดันสตาร์ทไม่ติด และมีคนขับรถผ่านมาพอดี ลอร่าแกล้งทำเป็นว่า เธอและเอเดรียนขับรถเฉี่ยวชนกัน และกำลังติดต่อประกัน อยู่ ชายคนนั้นดูทีท่าอยู่สักครู่ ก็ขับรถออกไป
เอเดรียนก็ได้นำศพยัดใส่ท้ายรถยนต์ของเด็กหนุ่มเอง และขับไปทิ้งในบึงที่ห่างออกไป ส่วนลอร่าก็รออยู่ที่รถ ที่ยังสตาร์ทไม่ติด โชคดีที่เธอเจอ โทมัส การ์ริโด อดีตวิศวกรเครื่องยนต์ ขับรถผ่านมาพอดี เขาเสนอตัวพ่วงรถไปซ่อมให้ที่บ้าน ระหว่างทางก็ พูดถึงภรรยา ว่าเจอกันที่ชมรมละคร และตอนนี้เธอป่วยเป็นมะเร็ง จึงมาอยู่ที่สงบ ห่างไกลผู้คนขึ้น และทำงานอยู่ที่ใกล้ๆหุบเขา
1
เมื่อไปถึง เอลวิรา ภรรยาของโทมัสให้การต้อนรับลอร่าระหว่างรอรถซ่อมเสร็จ และลอร่าพบว่า เด็กหนุ่มที่เกิดอุบัติเหตุ คือลูกชายของพวกเขา แดเนียล การ์ริโด เธอจึงรีบร้อนอ้างว่ามีธุระ และขอกลับก่อน เป็นจังหวะพอดีกับที่เพื่อนของ แดเนียลโทร แจ้งว่า ติดต่อแดเนียลไม่ได้ เอลวิราผู้เป็นแม่จึงรีบโทรติดต่อลูกชายทันที ลอร่าเก็บโทรศัพท์ของแดเนียลไว้ในกระเป๋าเสื้อ เธอรู้ตัวและรีบซ่อนไว้บริเวณโซฟาได้ทัน ทำให้โทมัสและเอลวิรา คิดว่าแดเนียลคงลืมโทรศัพท์ไว้
ลอร่าได้ติดต่อกับเอเดรียนและขับรถมารับเขากลับ เมื่อกลับถึงก็ได้กำจัดรถทิ้ง และทำเป็นแจ้งว่ารถโดนขโมย แต่หลังจากนั้น มีรายงานข่าวถึงการหายตัวไปของเด็กหนุ่มที่ชื่อ แดเนียล การ์ริโด พร้อมกับการเจอเศษชิ้นส่วน ของรถที่น่าจะมีการเฉี่ยวชน แต่กลับไม่พบรายงานอุบัติเหตุในวันนั้นเลย
โทมัส ให้การกับตำรวจว่าเขารับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุชนกวางในวันเดียวกันนั้นเอง และสงสัยในตัวเธอ ตำรวจสืบจากทะเบียนรถ และพบว่า รถเป็นชื่อของ เอเดรียน ดอเรีย จึงได้เรียกเขาเข้ามาสอบปากคำ และเอเดรียนได้เล่าให้เวอร์จิเนียฟังต่อว่า เขาให้เฟลิกซ์ ทำเอกสารยืนยันว่าเขาบินไปปารีสในวันนั้น และจองโรงแรมไว้ และลบชื่อเขาออกจากแฟ้มตำรวจ จึงทำให้รอดพ้นคดี ซึ่งเวอร์จิเนียแย้งว่า เรื่องที่สอง เฟลิกซ์คงไม่ได้ทำ เพราะเธอยังสืบค้นเรื่องของเขาจากแฟ้มตำรวจได้เลย เวอร์จิเนีย ถามต่อว่า แล้ว ทำไมถึงยังกลับมาติดต่อกับลอร่าอีก
1
เอเดรียนเล่าต่อว่า เขาไม่คิดว่าลอร่าจะ ทำได้ถึงขนาดนี้ เธอเคยทำงานธนาคารมาก่อน จึงแอบเอาบัตรของแดเนียล ยักยอกเงินเข้าบัญชี เพื่อให้คดีกลายเป็นเรื่องของแดเนียล ที่โกงเงินลูกค้าและต้องการ หนีไปเอง แต่นั่นยิ่งเป็นการสร้างความเสียใจและเพิ่มไฟแค้น ให้พ่อแม่ของแดเนียลมากขึ้น
โทมัสปลอมตัวเป็นนักข่าว และเข้าพบเอเดรียน เขาแสดงตัวและ สอบถามเขาเกี่ยวกับแดเนียล ลูกชายที่หายไป เอเดรียนปฏิเสธว่าเขาไม่รู้ เรื่อง แต่โทมัสกลับยิ่งโมโห ด่าทอเขา เพราะรู้ว่าเอเดรียนคือคนที่ขับรถคัน นั้น เพราะไฟแช็กของเอเดรียนอยู่ในรถคันนั้น และลอร่า ปรับเบาะขณะกำลังจะขับรถออกมาจากบ้านเขา นั่นยืนยันว่าเธอไม่ใช่คนขับมาตั้งแต่แรก และ แดเนียลรับสายเพื่อนระหว่างขับรถ แต่โทรศัพท์กลับมาอยู่ที่บ้านได้ ลอร่า ต้องเป็นคนนำมันมาแน่นอน เอเดรียนตกตะลึง แต่ไม่ได้ยอมรับ และโทมัสก็ถูกนำ ตัวออกไปจากงาน และไม่ได้มาหาเขาอีก
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลอร่าได้ติดต่อมาหาเอเดรียนว่ามีคนรู้เรื่องที่พวกเขาทำ และพยายามขู่เอาเงิน 1 แสนยูโร เธอและเอเดรียนจึงนำเงิน ไปให้ที่โรงแรม และเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเป็นผู้ต้องสงสัยว่าฆ่าลอร่า โดยที่เขาไม่รู้เลย ว่าใครอยู่เบื้องหลัง และทำได้อย่างไร
เวอร์จิเนีย บอกกับเอเดรียนว่า คนที่มีแรงจูงใจในการทำมากที่สุด น่าจะเป็น พ่อแม่ของแดเนียลนั่นแหละ เอเดรียนเห็นด้วย ในครั้งแรกนั้นเขาสงสัยคนขับรถที่เจอเขากับลอร่าตอนที่เกิดอุบัติเหตุ แต่เวอร์จิเนียบอกถึงแผนการที่น่าจะเป็นไปได้ของโทมัส โทมัสต้องเข้าไปซ่อนตัวในนั้นก่อน และหลบหนีออกไปก่อนที่ตำรวจจะมา เวอร์จิเนียบอกว่า เหตุที่ต้องนัดเจอที่โรงแรมนั้น เพราะเอลวิราทำงานที่โรงแรมนั้นเช่นกัน และเธอคงเป็นคนที่เข้าไปล็อก หน้าต่างจากด้านใน หลังเกิดเหตุแล้ว เพื่อให้การฆาตกรรม เกิดในห้องปิด ตายนั่นเอง
เวอร์จิเนียรับโทรศัพท์และบอกเอเดรียนว่า ศาลได้ตัวคนที่ขับรถผ่านไปเจอในวันนั้นแล้ว เขาและเธอต้องรีบหาทางออกและจบคดีนี้เพื่อให้เอเดรียนรอดคดี เวอร์จิเนียเสนอให้เอเดรียนบอกศาลว่า เขาเป็นเหยื่อของเรื่องนี้เช่นกัน ลอร่าเป็นคนก่อเหตุทั้งหมด และเสนอให้เขาช่วยตอนที่โดนขู่แบล็กเมล์แล้ว เขาไม่เคยทราบเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อน แต่เอเดรียนต้องนำของใช้สักอย่างของลอร่าไปใส่ในท้ายรถที่มีศพแดเนียลอีกครั้ง เธอให้แดเนียลชี้จุดที่ขับรถนำศพไปทิ้งในแผนที่ เอเดรียนยอมทำตามและขอให้เวอร์จิเนียช่วยเขาอีกเรื่อง เอเดรียนบอกว่าถ้าตำรวจพบศพ ต้องรู้อีกเรื่องแน่ๆ ตอนที่เขานำศพไปทิ้ง เด็กหนุ่มยังไม่ตาย และเกิดฟื้นขึ้นมา เขาจึงทิ้งรถลงน้ำทั้งที่เด็กหนุ่มยังไม่ตาย
เวอร์จิเนียโกรธมากที่เขาบอกความจริงไม่หมด และบอกว่าเอเดรียนอาจจะโกหกเธอก็ได้ ที่เขาเล่ามา ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ อาจจะเป็นลอร่าที่พยายามติดต่อตำรวจ และเอเดรียนเป็นคนที่คิดแผนนำศพไปทิ้ง แกล้งทำเป็นว่ารถชน และใช้เส้นสายใส่ความแดเนียลเรื่องยักยอกเงิน และลอร่าอาจรู้สึกผิดจนโทรไปสารภาพกับพ่อแม่ของแดเนียล และนัดกับพวกเขา เพื่อนำเงิน 1 แสนยูโรไปให้
โดยหลอกเอเดรียนว่าโดนขู่จะเปิดโปง และตั้งส่งข้อความล่วงหน้า เข้ามือถือตัวเองตอนที่อยู่สถานีรถไฟ พอถึงโรงแรมลอร่าอาจขอให้เอเดรียนให้เงินนี้กับพ่อแม่ของแดเนียล และเกลี้ยกล่อมให้เขายอมมอบตัวพร้อมเธอ แต่เอเดรียนไม่มีวันยอมสูญเสียธุรกิจที่เขาสร้างมาและครอบครัวไปแน่นอน เขาจึงฆ่าลอร่าทิ้งก็ได้
เพราะเวอร์จิเนียมีหลักฐานว่า หลังจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ ลอร่าเป็นโรควิตกอย่างรุนแรง จนเข้ารักษาตัว ถ้าเธอเป็นคนต้นคิดเรื่องทั้งหมด เธอคงไม่รู้สึกผิดและกังวลถึงขนาดนี้ เวอร์จิเนียถามเอเดรียนอีกครั้ง ว่าเขาฆ่าลอร่าเอง ใช่หรือไม่ เอเดรียนไม่ยอมรับ เขาเอารูปหลังเกิดเหตุให้เธอดู เอลวิรา การ์ริโด ยืนอยู่หน้าห้องนั้นหลังเกิดเหตุด้วย เวอร์จิเนียพูดกับเอเดรียนว่า คุณสังเกตุกระจกในรูปสิ นี่มันรูปตัดต่อ ไม่มีรูปเธอสะท้อนในกระจกเลย ฉันตรวจสอบแล้ว วันนั้นเป็นวันหยุดของเธอ และคุณก็รู้ตัวอยู่แล้วก่อนจะไปที่นั่น เอเดรียนยอมรับว่าเขารู้และอยากฟังจากปากเวอร์จิเนียว่าเธอจะหาทางให้โทมัสเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์และหายไปได้อย่างไร เวอร์จิเนียย้ำอีกครั้งว่าจริงๆแล้ว เอเดรียนฆ่าลอร่าใช่ไหม คราวนี้เอเดรียนยอมรับว่าเขาฆ่าลอร่าเอง
เวอร์จิเนียได้ชี้ให้เอเดรียนดูตึกที่ตรงข้ามกับห้องของเอเดรียน โทมัส การ์ริโด ได้ติดตามเขาอยู่ตลอด ขนาดที่ยอมมาเช่าตึกตรงข้ามเพื่อดูความเคลื่อนไหวของเขา แม้แต่เธอเองก็เคยเจอ พ่อแม่ของแดเนียล ที่ตามไปถึงหน้าตึกที่เธอทำงานเช่นกัน เธอจึงสืบเรื่องของพวกเขาจนรู้เรื่อง และบอกเอเดรียนว่าคนที่จนตรอก เสียลูกไปแล้วยังโดนใส่ความ ไม่มีอะไรจะเสีย บางทีก็ทำได้ทุกอย่าง
เวอร์จิเนียบอกกับเขาว่า เธอจะยอมช่วย เพราะเธอจะแพ้ในคดีสุดท้ายก่อนออกจากวงการทนายไม่ได้ และตอนนี้ศาลยังไม่ได้ตัวพยานเพิ่ม เธอแค่บอกเพื่อให้เอเดรียนเกิดความกังวลและให้ความร่วมมือมากขึ้นเท่านั้น เอเดรียนโล่งใจและกล่าวขอบคุณเวอร์จิเนียก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้อง
1
เฟลิกซ์โทรมาหา เอเดรียนและบอกว่าติดต่อมือถือเขาไม่ได้ โทรศัพท์ปิดเครื่องอยู่ พร้อมกับบอกข่าวดีกับเอเดรียนว่า เขาได้ตัวคนที่ขับรถไปเจอเหตุการณ์รถชนในวันนั้นแล้ว และปิดปากเขาได้สำเร็จ ด้วยการแลกกับเงิน และถามเอเดรียนว่า เวอร์จิเนียเป็นอย่างไรบ้าง กับการคุยกับเวอร์จิเนีย เอเดรียนบอกว่า เธอมีจิตวิทยาสูง และเก่งมาก ทันใดนั้น มีคลื่นรบกวน สัญญาณโทรศัพท์ เอเดรียนจึงขอวางสาย และพบว่า หมึกปากกาซึมเลอะกระเป๋าเสื้อเขาอยู่ เอเดรียนจึงถอดด้ามปากกาออก พบว่าข้างในเป็นสายไฟและตัวดักฟัง
ช่วงท้ายที่สุดของภาพยนตร์ คือจุดจบที่พีคที่สุดของเรื่อง ภาพย้อนกลับไปให้เห็นว่า เวอร์จิเนียนั้นไม่ใช่ตัวจริง เธอใช้ปากกาดักฟังเสียงเอเดรียน และหลอกล่อถามจุดที่เขานำศพไปทิ้ง และเป็นคนปิดมือถือของเอเดรียนหลังจากที่เธอวางสายจากเฟลิกซ์ เอเดรียนวิ่งไปดูที่กระจกหน้าต่าง เวอร์จิเนียคนที่คุยกับเขาเมื่อครู่ อยู่ในห้องกับโทมัส การ์ริโด ที่อัดเสียงเขาไว้หมดแล้ว เธอค่อยๆถอดวิกผม และซิลิโคนที่ใบหน้าออก เธอคือ เอลวิรา การ์ริโดนั่นเอง เพราะเธอเคยอยู่ชมรมละคร จึงแสดงได้อย่างแนบเนียน
สองสามีภรรยา แอบตามเอเดรียนและคนรอบตัวเขา และเวอร์จิเนีย กู๊ดแมน คือคนที่เอลวิราตัดสินใจปลอมตัวให้เหมือนเพื่อเข้าหาเอเดรียน ขณะที่โทมัสโทรหาตำรวจและแจ้งความว่ามีความจริงจะบอก เกี่ยวกับคดีที่ลูกชายเขาหายตัวไป เป็นเวลาเดียวกับที่ทนายเวอร์จิเนียตัวจริงเพิ่งเดินทางมาถึงหน้าห้อง เธอกล่าวแนะนำตัวกับเอเดรียนที่แทบล้มทั้งยืนว่า "ฉันชื่อ เวอร์จิเนีย กู๊ดแมน"
เรื่องนี้ลุ้นแบบหักไปมาหลายรอบมาก เป็นหนังสเปนเรื่องแรกที่ดู และประทับใจเลย
โฆษณา