20 ก.พ. 2020 เวลา 08:39 • ความคิดเห็น
ค น ป รุ ง อ า ห า ร
".... บางคนเคยบอกว่า ระหว่างกุ๊กชื่อดัง กับใครสักคนที่เพิ่งทอดไข่เจียวเป็น ถ้าต้องทำอาหารประเภทเดียวกัน นั่นคือเมนู ปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย ผลก็คือ จานเด็ดจากฝีมือกุ๊กมีชื่อ คงอร่อยถูกปากมากกว่า อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่บางคนกลับบอกว่า ไม่เสมอไป
ทำอร่อยน่ากินหรือไม่? อยู่ที่ปลาหมึก น้ำมัน และกระเทียมต่างหาก
ถ้าปลาหมึกไม่สด กระเทียมเน่า ๆ น้ำมันเก่าและขึ้นหืน กุ๊กต่อให้เงินเดือนเกินแสนบาท ก็เอาไม่อยู่ คงกินไม่อร่อย และต้องทิ้งสถานเดียว?
ส่วนตัวก็เห็นว่า “เป็นไปได้”
วิธีคิดเช่นนี้ ก็คงพอจะใช้ได้ในการทำเพลงอยู่บ้าง เมื่อคนปรุงอาหาร ก็คือคนผสมเสียง ที่รียกกันง่าย ๆ ว่า "คนมิกซ์เพลง"
คนปรุงอาหารในวงการเพลง มีมากมายเหลือเกิน ค่าตัวมีตั้งแต่ถูกมาก เพลงละ 1,000 บาท ไปจนถึงเพลงละ 10,000 บาท แต่ทั่ว ๆ ไปก็อยู่ที่เพลง ละ 2,000 – 5,000 บาท ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับระดับของความสัมพันธ์ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ระยะเวลาในการทำงานร่วมกัน รวมถึงการผูกขาดการทำงานกันไปแบบยาว ๆ
ไอ้ที่ว่ามิกซ์เพลงละหมื่นขึ้น ส่วนตัวก็ยังไม่เคยใช้บริการ เพราะยังไม่เห็นความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องจ่ายแพงขนาดนั้น
ทำอาหารแต่ละที ควรจะถามตัวเองก่อนว่า ทำมาให้ใครกิน?
ระหว่างบุคคลชื่อดัง กินแต่ละครั้งต้องของดี หรูหรา ราคาแพง และคนในสังคมชั้นสูง
หรือไอ้น้อยลูกตาสม บ้านอยู่แถวแคราย ที่กินได้ทุกอย่าง ง่าย ๆ ไม่ต้องการความพิถีพิถันในการกินอาหารใด ๆ เลย
แต่ไม่ว่าจะทำมาให้ใครกินหรือชิม แต่ละจานของเราที่ทำ ก็ควรมีรสชาติในแบบเรา สไตล์เรา มีมาตรฐานที่ดี ที่เราควรตั้งไว้
และพยายามอย่าให้ต่ำกว่านั้น?
งานเพลงแต่ละชุดก็เช่นกัน ผมเลือกใช้คนปรุงอาหารไม่เหมือนกัน
แต่ชอบทำงานกับคนเดิม ๆ คนที่คุ้นเคย รู้ใจกัน แก้ไขอะไรก็ได้ถ้าไม่ชอบ ราคาก็ให้กันเป็นกันเอง ด้วยหวังทำงานกันไปแบบยาว ๆ
ผูกใจกันไปบนถนนดนตรี ด้วยความเคารพนับถือ และรู้ใจกัน
ทำงานไปคุยเรื่องส่วนตัวไป แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตให้กันฟัง งานจบลงแต่ละครั้ง ความสนิทคุ้นเคยก็เพิ่มมากขึ้นทุกที
อีกอย่างในการผลิตเพลง ไม่ควรมองข้ามเรื่องวัตถุดิบ มีวัตถุดิบดี ๆ บางทีกุ๊กไม่ต้องเก่งมากก็ได้ แค่เข้าใจในสิ่งที่ทำเป็นพอ และเราก็ไม่ต้องเสียเงินมากกว่าที่ควร
มีคนหลายคน พยายามเสาะหา "คนปรุงอาหาร" ที่มีฝีมือ ที่มากกว่าที่มีอยู่ในประเทศนี้ ราคาแพงแค่ไหน ยอมจ่ายไม่อั้น
เพราะเชื่อว่า ถูกและดีไม่น่าจะมีอยู่จริง?!
อยากได้ของดี ก็คงราคาไม่ถูก โดยลืมมองงานของตัวเองว่าเป็นอย่างไร? มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน? ที่ต้องจ่ายขนาดนั้น?
หลังปรุงอาหารเสร็จ หลายคนยืนดู หลายคนลงนั่งชิม เมื่อชิมแล้ว บางคน ทำหน้าเจื่อน ๆ
บางคนฝืนยิ้ม และพูดต่อ เออ..พอใช้ได้ (จ่ายแพงขนาดนั้น แค่พอใช้ได้เองหรือ?)
ทีม "อุปทานอาชีพ" ที่มีนิสัยชอบ “เลีย” คนรวย ที่ยืนมุงอยู่ รีบแหวกวงโผเข้ามาบอก “สุดยอดเลยครับท่าน” เข้าท่ามาก คุ้มค่าจริง ๆ (ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้ชิมจริง ๆ จัง ๆ เพียงแค่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ)
ไม่นาน ในอาหารจานเดียวกัน นักชิมมีรางวัลการันตีที่น่าเชื่อถือ และทำประกันลิ้นไว้แล้วหลายล้านดอลลาร์ แวะเข้ามาขอชิมบ้าง
จากทั้งหมด 4 ดาว นักชิม 3 ใน 4 คน ให้คุณภาพเพียง 2 ดาว
อีกคนที่เหลือ ไม่ให้คะแนนเป็นดาว แต่พูดตรง ๆ ว่า ไม่รู้สึกอร่อยมากกว่าที่เคยกิน
ส่วนตัวก็มีโอกาสเข้าไปชิมเหมือนกัน ชิมเสร็จก็มีคนถาม เป็นไงครับ รสชาติดีไหม?
เห็นท่าไม่ดี ผมเลยบอกเขาไปว่า ขอไปชิมต่อที่บ้านก่อน เดี๋ยวกลับมาบอก เพราะเพียงนิดหน่อยแค่ปลายลิ้น กับบรรยากาศเสียงดังรอบ ๆ ตัว คงบอกอะไรมากไม่ได้
แต่ก็ไม่มีแววที่จะอร่อยเหมือนกัน (ประโยคนี้ผมนึกในใจ)
ผ่านไป 3 วัน ฟังเพลงชุดนี้ไป 14 รอบ ชุดเครื่องเสียงที่บ้าน ก็ไม่ได้กระจอก
เพิ่งรู้ว่า รวยอย่างเดียวทำอะไรอย่างนี้ไม่ได้
ต้องรวยด้วย โง่ด้วย
เรื่องตลกร้าย เกิดขึ้นได้ในทุก ๆ วงการ ...." / (แจ็ค รัสเซล) / (IG : jackrussell_th)
เครดิตรูปโดย "Tom Apply"
โฆษณา