22 ก.พ. 2020 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
#โฟกัสผิดจุด ทำให้ตายก็ไม่รวย
บ่อยครั้งที่หุยได้เจอเจ้าของมักจะพูดว่า “ลูกน้องทำงานไม่มีประสิทธิภาพ”
บริษัทมีลูกน้องเป็นกองทัพ
แต่สร้างผลลัพธ์คือยอดขายและกำไรเพียง "น้อยนิด"!!!
จะลดคนก็ลดไม่ได้ ลูกน้องบอกว่า "ทำไม่ไหว"!!
พยายามจะลดสารพัดค่าใช้จ่าย แต่กำไรก็ไม่มา
.
1
ใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างคะ??!!
.
รู้ไหมคะ ที่หลายคนบอกว่า ทีมงานไม่ค่อยมีศักยภาพ
หุยเคยเจอบางเคส ว่า บริษัทมีระบบการทำงานเยอะมาก
บางทีซับซ้อนมากยิ่งกว่า เขาวงกต
.
กว่าที่จะขายสินค้า เบิกสินค้า หรือทุกขั้นตอน ต้องผ่านขั้นตอนการทำงานและอนุมัติหลายขั้นตอน
.
ลูกค้ามาซื้อของที่หน้าร้าน กว่าจะได้ของออกไปจากร้าน ลูกค้ารอซื้อของขวดละ 100 กว่าบาท ใช้เวลาไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะหลุดออกไปได้
.
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลย ว่า งานในบริษัทนั้นมากมายมหาศาลแค่ไหน
เพราะทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอน ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและอนุมัติ อย่างน้อย 3 คนขึ้นไป
.
หัวหน้า และผู้จัดการแต่ละคน วันๆหัวฟูอยู่กับการตรวจสอบเอกสาร เทียบกับระบบคอมพิวเตอร์ว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนที่จะอนุมัติงานสักอย่าง
.
มีบริษัทไหนเจออาการแบบนี้บ้างมั้ยคะ!!!
.
อยากให้บริษัทมีระบบที่รัดกุม แต่คุมซะคนทำงานยุ่งวุ่นวายไปจนไม่ได้โฟกัสงานสำคัญ
.
บางองค์กรที่หุยเข้าไปโค้ช ทุกคนถึงกับบอกว่า ต้องใช้เวลาวันละ อย่างน้อย 2-3 ชม.ในการทำงานเอกสาร ซึ่ง 2-3 ชม.นั้น คือเวลาประมาณ 20-30% ต่อวันในการทำงานเอกสาร ที่เยอะขนาดนี้ เพราะเจ้าของต้องการป้องกันการรั่วไหล
แต่ผลก็คือ งานสำคัญไม่เดิน ลูกค้าต้องอารมณ์เสีย เพราะบริษัทส่งมอบของช้ามากกกกกกกกก และมีผลต่อต้นทุนของบริษัท เพราะต้องใช้คนไปกับงานเอกสารเยอะมาก
.
แถมยังทำระบบเอกสาร Manual ควบคู่ ทั้งที่มีระบบ IT กลายเป็นทำงานซ้ำซ้อน เมือมีการคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน ก็เดือดร้อนหนักอีก
เพราะต้องใช้เวลาอีกหลายชม. ตรวจสอบว่า เอกสารผิด หรือ ลงคอมผิด
.
บางองค์กรเป็นโรงงานผลิตสินค้า เป้าหมายคือ ต้องผลิตสินค้าให้มีคุณภาพตรงกับที่ลูกค้าส่งมา
และ ส่งของให้ตรงเวลา แต่เนื่องจากผู้บริหาร ต้องดูรายงานการผลิต และลูกน้องก็ทำผิดบ้างถูกบ้าง ผู้จัดการจึงต้องใช้เวลามาตรวจเอกสารลูกน้องว่า อะไรผิดอะไรถูก
เพราะไม่งั้นเวลาเจ้านายถามจะตอบไม่ได้ ผลก็คือ ยอดขายบริษัทร่วงค่ะ
เพราะสินค้าไม่ได้คุณภาพ และ มีปัญหาเรื่องการวางแผนการผลิต
.
เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายต่างๆ ต้องเอาเวลาสัปดาห์ละ 40-50% มาทำรายงาน
แถมต้องทำ Presentation ขั้นเทพ กลัวดูไม่โปร เพื่อตอบคำถามเจ้าของธุรกิจ
แทนที่จะโฟกัสกับ ผลลัพธ์ของบทบาทหน้าที่ คือ ยอดขาย กำไร และความพึงพอใจของลูกค้า
.
เป้าหมายของทุกธุรกิจนั้น คือ กำไร ทำอย่างไรให้ธุรกิจมีกำไร
ซึ่งมีที่มาจากเรื่องยอดขาย และต้นทุน ยอดขายต้องสูง ต้นทุนควรต่ำ และที่สำคัญคุณภาพของสินค้าและบริการต้องได้ตามที่ต้องการของลูกค้า ดังนั้นแต่ละคนที่อยู่ในตำแหน่งต่างๆ ต้องตระหนักว่า บทบาทหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายนั้น สามารถสร้างผลลัพธ์ คือ กำไร ให้บริษัทได้ อย่างไรบ้าง เช่น
.
เป็น Sales ต้องโฟกัสยอดขาย และ ความพึงพอใจของลูกค้า และต้องประสานงานกับแผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจเรื่องต้นทุนไม่บานปลาย ไม่ใช่มาโฟกัสเรื่องการทำรายงาน
การทำรายงานก็ต้องทำค่ะ แต่ต้องเรียบง่าย ใช้เวลาน้อยๆหน่อย
ให้ข้อมูลถูกต้อง วิเคราะห์ได้ แต่ไม่ต้องเน้นดูดี
.
เป็นแผนกบัญชี ต้องเน้นเรื่องตัวเลข การเก็บเงิน สถิติต่างๆ และคอยแจ้งให้เจ้าของทราบว่า ฐานะทางการเงิน และต้นทุน รายรับ เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่ผิดปกติ เป็นต้น
.
งานหลักๆที่สร้างผลลัพธ์ให้บริษัท ถือว่า เป็น “งานสำคัญ” ที่เราต้องทำให้เสร็จตรงเวลาและดีที่สุด ส่วนงานอื่นๆ ถือว่า เป็นงานรอง ที่ต้องทำ
แต่เราสามารถ หาวิธีทำให้งานนั้น สำเร็จได้ โดยไม่ต้องลงแรงเอง หรือใช้เวลาน้อยลง เพราะเมื่อแต่ละคน โฟกัสผิดจุด
เป็น Sales แต่ไม่หาลูกค้า ไม่ขายของ เอาแต่ทำตัวเลขหน้าคอม
หรือ เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต แต่ไม่โฟกัสเรื่อง เป้าหมายการผลิต กำหนดส่ง คุณภาพ
แต่มานั่ง วิเคราะห์ตัวเลขว่า อะไรผิด ใครลงตัวเลขผิด เมื่อนั้น ทำให้ตายยังไง ตัวเองก็ไม่รวย เพราะบริษัทก็ไม่รวยเช่นกัน
.
แล้วบริษัทของท่าน ตัวของท่านเอง และทีมงาน รู้ไม๊ว่า ท่านต้องโฟกัสอะไรให้บริษัทเติบโต
และแต่ละคนโฟกัสถูกจุดหรือยัง
ถ้ามีปัญหาข้อสงสัยใดๆ มาปรึกษาทีมโค้ชได้ในนี้ หรือ สัมมนา "ธุรกิจติดปีก" นะคะ
#โค้ชหุย
#MasterBusinessCoach
#ธุรกิจติดปีก
#BusinessBreakthru
1
โฆษณา