21 ก.พ. 2020 เวลา 06:45 • ประวัติศาสตร์
"วิกฤติการณ์คิวบา" ความกดดันที่เกือบจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์!!!
#ประวิติศาสตร์สากล
วิกฤติการณ์คิวบา เป็นเหตุการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น ระหว่างสรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต ที่เกิดขึ้นบริเวณทะเลเเคริเบียน เเละประเทศคิวบา เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ทั่วโลกเห็นถึงความน่ากลัวของอาวุธนิวเคลียร์ เเละนำไปสู่ความตกลงในการลดอาวุธนิวเคลียร์ในเวลาต่อมา
ในช่วงเวลาสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาเเละสหภาพโซเวียตพยายามเเข่งกันมีอิทธิพลไปยังประเทศต่างๆ จนนำไปสู่สงครามตัวเเทนขึ้นเช่น สงครามเกาหลี เเละสงครามเวียดนาม เเละบริเวณประเทศเเถบละตินอเมริกา ( อเมริกากลาง-ไต้ ) สหภาพโซเวียตพยายามเข้ามามีอิทธิพลในบริเวณนี้ เพราะหากควบคุมภูมิภาคนี้ได้ก็เท่ากับปิดล้อมอเมริกาได้ ขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิภาคเเถบนี้ดี จึงได้เข้าไปสนับสนุนรัฐบาลในประเทศต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ คิวบา
ในปีค.ศ. 1959 ฟีเดล คลาสโตร( คนทางซ้าย) ได้ก่อการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลที่อเมริกาให้การสนับสนุน จากนั้นก็ดำรงตำเเหน่งผู้นำสูงสุด ทำให้ฝ่ายรัฐบาลต้องลี้ภัยออกไปนอกประเทศ ช่วงเเรกคลาสโตรดำเนินนโยบายอิสระ เเต่หลังจากความล้มเหลวในการยกพลขึ้นบกของกองกำลังลี้ภัยที่อเมริกาสนับสนุนที่อ่าวพีคใน ค.ศ. 1961 ทำให้คลาสโตรรู้สึกถึงภัยคุกคามจากอเมริกา จึงดำเนินนโยบายเป็นคอมมิวนิสต์ตามเเนวทางของสหภาพโซเวียต เเละเริ่มสานสัมพันธ์กับนิกิต้า ครูชชอฟ ผู้นำโซเวียต
ทางด้านมหาอำนาจทั้งสองฝ่าย เมื่อจอห์น เอฟ เคนเนดี้ เริ่มปฎิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐในปี 1961 ด้วยความที่ยังเป็นอายุน้อย ทำให้นิกิต้า ครูชชอฟ รู้สึกว่าตนจะใช้ความเเก่ประสบการณ์กว่ากดดันเคนเนดี้ อีกทัิงการที่อเมริกาเข้าไปตั้งฐานยิงขีปนาวุธในตุรกีพรมเเดนโซเวียต ทำให้สหภาพโซเวียตเข้าสนับสนุนคิวบาอย่างเต็มตัว โดยเริ่มขนส่งอาวธไปคิวบา เเละลักลอบสร้างฐานยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ในคิวบาอีกด้วย
ข่าวการสร้างขีปนาวุธในคิวบาเริ่มเเพร่ไปสู่ชาวอเมริกัน เเต่ในช่วงเเรก รัฐบาลในวอชิงตันยังไม่เชื่อข่าวนี้เท่าใดนัก เพราะคิดว่าอาจจะเป็นการลวงของฝ่ายโซเวียต ต่อมาในช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 1961 อเมริกาสังเกตุเรือที่เเล่นเข้าออกจากคิวบามากขึ้น จึงเข้าทำการตรวจค้น ภายไต้อุปกรณ์การเกษตรนั้นคืออาวุธหนักจำนวนมาก อเมริกาจึงเริ่มมาตรการตรวจจับเรือที่เข้าสู่คิวบา
ทางด้านโซเวียตก็หันมาขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้างฐานยิงเเละหัวรบในเวลากลางคืนเพื่อพรางการมองเห็น ต่อมาช่วงเดือนตุลาคม เครื่องบินจารกรรมเเบบยู 2 ของทัพฟ้าอเมริกันตรวจพบไซโลเก็บหัวรบของโซเวียตในคิวบา ประธานาธิบดีเคนเนดี้ได้ประกาศเรียกประชุมฉุกเฉินทันทีเพื่อประเมินสถานการณ์ เเละพบว่าหากโซเวียตติดตั้งขีปนาวุธสำเร็จก็จะสามารถโจมตีเมืองสำคัญของอเมริกาได้ทั้งหมด
ประธานาธิบดีเคนเนดี้ได้ออกคำสั่งฉุกเฉินให้กองทัพสหรัฐทุกหน่วยเตรียมพร้อมรบ เเละเตรียมใช้มาตรการตอบโต้หากถูกโซเวียตโจมตีด้วยนิวเคลียร์ ต่อมาประธานาธิบดีเคนเนดี้ได้เเถลงการณ์ให้สหภาพโซเวียตถอนฐานยิงขีปนาวุธให้หมด มิฉะนั้นจะใช้กำลังทหารบุกคิวบา ความตึงเครียดดำเนินไปกว่า 1 สัปดาห์ท่ามกลางความหวาดกลัวสงครามของผู้คนทั่วโลก ในทีาสุดครุชชอฟก็ยอมเจรจากัยสหรัฐ
ข้อตกลงคือโซเวียตจะต้องถอนฐานยิงเเละหัวรบออกไปให้หมด เเลกกับการที่อเมริกาจะไม่บุกคิวบา เเละอเมริกาจะถอนฐานยิงขีปนาวุธออกจากตุรกีอย่างเงียบๆ ทั้งสองมหาอำนาจบรรลุข้อตกลง เเละโลกก็รอดพ้รจากหายนาของสงครามนิวเคลียร์
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชาวอเมริกันเชื่อมั่นในความเป็นมหาอำนาจมากขึ้น เเละมีความมั่นใจในชาติตนเองอย่างท่วมท้น นำมาสู่การพัฒนาทั้งด้านอวกาศเเละด้านอื่นๆ ส่วนสหภาพโซเวียต การยอมผ่อนปรนส่งผลให้โซเวียตเสียเกียรติภูมิเป็นอย่างมาก เหมา เจ๋อ ตุง ผู้นำคอมมิวนิสต์จีนถึงกับบอกว่าโซเวียตเป็นเพียง "เสือกระดาษ" ทางด้านพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตเห็นว่าครูชชอฟ ไม่มีคุณสมบัติในการเผชิญหน้ากับวิกฤติการณ์ จึงถูกกดดันให้ลาออกในปี ค.ศ. 1966 หลังจากการลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้ ลินดอน จอห์นสันก็เข้สปฎิบัติหน้าที่ต่อเเละเริ่มเจรจากับโซเวียตในประเด็นการลดอาวุธนิวเคลียร์ในเวลาต่อมา
โฆษณา