23 ก.พ. 2020 เวลา 06:01 • ประวัติศาสตร์
“อัลคาทราซ (Alcatraz) คุกในตำนานแห่งสหรัฐอเมริกา”
ตอนที่ 3
1
ชีวิตในอัลคาทราซ
อัลคาทราซได้เปิดตัวในฐานะเรือนจำกลางในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477)
ภายหลังจากที่เรือขนนักโทษได้นำตัวนักโทษมายังเกาะนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการลำเลียงนักโทษให้เข้าแถว และเดินไปยังเรือนจำ
เมื่อนักโทษมาถึงเรือนจำ พวกเขาจะถูกนำตัวไปยังชั้นใต้ดิน โดยตอนนี้ พวกเขาจะได้รับการปลดกุญแจมือและโซ่ตรวน จากนั้นก็จะถูกถ่ายรูป ทำประวัติ ตรวจร่างกาย
ภายหลังจากอาบน้ำ ชำระล้างร่างกาย นักโทษจะได้รับเครื่องแต่งกายใหม่ ซึ่งประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงสีฟ้าและขาว เข็มขัด ถุงเท้า รองเท้า หมวก เสื้อโค้ท และเสื้อกันฝน
ชุดของเจ้าหน้าที่และชุดของนักโทษ
นักโทษแต่ละคนจะได้พักแยกห้องกัน โดยห้องขังของนักโทษแต่ละคนนั้นก็มีขนาดเล็ก มีโต๊ะทำงานเล็กๆ ชั้นวางของ ชักโครก และอ่างล้างมือ และมีเตียง โดยเตียงนั้นก็บางมาก ทำให้นอนไม่สบาย
2
ห้องขังนักโทษบนอัลคาทราซ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นักโทษก็ต้องปรับตัวให้คุ้นเคยให้ได้ โดยพวกเขาต้องใช้เวลาในห้องขังของตัวเอง 14 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างต่ำ แต่นักโทษที่ไม่มีงานทำนั้นอาจจะใช้เวลาในห้องขังถึงวันละ 23 ชั่วโมงเลยทีเดียว
3
กฎในอัลคาทราซนั้นก็เข้มงวด หากใครฝ่าฝืน จะต้องถูกส่งไปยังคุกใต้ดิน ซึ่งอยู่ใต้บล็อค A และบล๊อค B
คุกใต้ดินนั้นไม่มีเตียง หมอน หรือชักโครก และอาหารที่นักโทษจะได้กินก็มีเพียงแค่ขนมปังกับน้ำ
1
คุกใต้ดินถูกปิดในปีค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) และบล๊อค D ก็ถูกใช้เป็นที่กักขังนักโทษที่ทำความผิดร้ายแรง โดยนักโทษที่ถูกส่งไปบล๊อค D นั้นจะไม่ได้กินอาหารร่วมกับนักโทษคนอื่นๆ และจะได้รับอนุญาตให้ออกไปในสวนได้แค่หนึ่งครั้ง รวมทั้งได้อาบน้ำอาทิตย์ละสองครั้งเท่านั้น
1
บล๊อค D
บล๊อค D นั้นมีหน้าต่างที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองซานฟรานซิสโกได้
นี่ยิ่งทำให้นักโทษทรมานเข้าไปอีก ทำให้นักโทษรู้สึกถึงการขาดอิสรภาพโดยแท้ บางครั้งนักโทษจะได้ยินเสียงคนบนเรือที่ลอยผ่านแม่น้ำ หัวเราะอย่างมีความสุข
ห้องขังจำนวนห้าห้องในบล๊อค D นั้นเป็นที่รู้จักในชื่อของ “Hole”
1
ห้องขังใน Hole มีสองประตู ประตูหนึ่งเป็นลูกกรง ส่วนอีกประตูเป็นเหล็ก และเมื่อปิดประตูเหล็ก ทั้งห้องก็จะตกอยู่ในความมืด
โดยปกติ นักโทษจะถูกขังใน Hole เป็นเวลาสองวัน แต่หากทำตัวไม่ดีก็อาจจะถูกขังอยู่ในนี้นานกว่า 19 วัน
1
ส่วนอีกประเภทหนึ่งจะเรียกว่า “Strip Cell” โดยนักโทษที่ถูกส่งมายัง Strip Cell จะถูกให้แก้ผ้าเป็นวันๆ และห้องขังก็ไม่มีหลอดไฟ ชักโครก หรืออ่างล้างมือ
นักโทษต่างหวาดกลัวบล๊อคนี้มาก และก็ไม่กล้าทำผิดร้ายแรง
นักโทษที่ถูกส่งมายังอัลคาทราซนั้นล้วนแต่เป็นนักโทษร้ายแรง อาชญากรรายใหญ่
นักโทษเหล่านี้ได้พยายามจะติดสินบนเจ้าหน้าที่หรือเคยแหกคุกที่อื่นมาแล้ว และพวกเขาก็ถูกส่งมายังอัลคาทราซเพื่อให้เรียนรู้การปฏิบัติตามกฎ
นักโทษจะต้องปฏิบัติตามตารางในแต่ละวัน และถึงแม้ตารางจะเปลี่ยนไปบ้างเมื่อเวลาผ่านไป แต่ความเข้มงวดนั้นไม่เคยลดลง
หนังสือข้อปฏิบัติและกฎระเบียบในอัลคาทราซ
อ้างอิงจากหนังสือกฎระเบียบในปีค.ศ.1956 (พ.ศ.2499) ในวันธรรมดา นักโทษจะต้องตื่นนอนในเวลา 7.00 น. และนักโทษต้องรีบแต่งตัว เก็บที่นอน
1
7.20 น. นักโทษจะต้องยืนหน้าประตูห้องขัง และเจ้าหน้าที่ก็จะทำการนับ โดยจะมีการเช็คจำนวนนักโทษอีก 11 ครั้งในหนึ่งวัน และเจ้าหน้าที่ก็จะใช้ไม้ลากไปตามลูกกรงห้องขังเพื่อตรวจสอบว่าลูกกรงมีจุดรั่วหรือไม่
7.30 น. นักโทษจะเดินไปทานอาหารเช้าอย่างเงียบๆ
ห้องอาหารนั้นเป็นที่รวมของนักโทษนับร้อย และเคยเกิดความวุ่นวายต่างๆ มากมาย โดยนักโทษมักจะก่อจลาจลเนื่องจากไม่พอใจในอาหาร เนื่องจากอาหารนั้นก็ไม่ค่อยดีนักและมีจำกัด
2
ห้องอาหารและเมนูอาหารบนอัลคาทราซ
เมื่อนักโทษก่อจลาจล พวกเขามักจะโยนอาหาร คว่ำโต๊ะ และเริ่มข่มขู่เจ้าหน้าที่ โดยใช้ทั้งมีดและส้อม กระดูกจากอาหาร แม้กระทั่งกาแฟร้อนก็ใช้เป็นอาวุธได้
เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นความวุ่นวาย ก็จะสั่งให้นักโทษสงบ หากนักโทษไม่ยอม เจ้าหน้าที่จะกดรีโมทบังคับ และแก๊สน้ำตาที่ติดตั้งไว้บนเพดานกว่า 14 จุดก็จะเริ่มทำงาน
หลังอาหารเช้า นักโทษก็จะถูกนำตัวกลับไปยังห้องขัง และต้องอยู่ในห้องขังจนถึงเวลาอาหารเที่ยง
นักโทษที่โชคดีหน่อยคือนักโทษที่มีงานทำ
งานบางงานที่อัลคาทราซ นักโทษจะได้ค่าตอบแทนเล็กน้อย และหลายๆ งานก็เป็นการลดโทษ โดยเฉลี่ยแล้ว ทุกๆ เดือนที่นักโทษทำงาน จะได้ลดโทษสองวัน
1
แต่การจะได้ทำงานนั้น นักโทษก็ต้องทำตัวดีเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนสมควรได้รับอภิสิทธิ์นั้น
อ้างอิงจากหนังสือกฎระเบียบของอัลคาทราซ ระบุว่า
“นักโทษมีสิทธิได้รับอาหาร เสื้อผ้า ที่นอน และการดูแลรักษาพยาบาล นอกเหนือจากนั้นคือสิทธิพิเศษ”
อัลคาทราซจะฝากเรื่องราวไว้อย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
1
โฆษณา