24 ก.พ. 2020 เวลา 10:51 • การศึกษา
กลวิธีการฝึกพูดภาษาจีน
ความมุ่งมั่นหากลวิธีการเรียนด้วยตัวเองช่วยให้เราเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราเรียนได้สนุกในแบบของตัวเอง ประหยัด และไม่จำกัดเวลา ผลดีที่ได้ขึ้นอยู่กับความขยันเอาใจใส่ของเราแต่ละคน วันนี้เลยอยากนำเสนอกลวิธีที่บอกต่อๆ กันมาว่าเป็นการฝึกพูดภาษาจีนที่ได้ผลจริงกันครับ^^
1
1. กลวิธีปนคำในประโยค code mixing (混合代码 hùnhédàimǎ)
เคยได้ยินคนสิงคโปร์ที่จู่ๆ พูดภาษาจีนแล้ว ใส่คำภาษาอังกฤษในประโยคไหม? เช่น 昨天的 party 怎么样?别提 party 不 party 了!นี้เป็นการสื่อสารจริงในชีวิตประจำวันของคนสิงคโปร์ ถ้าเรายังไม่คล่องพอที่จะพูดภาษาจีนเป็นประโยคจนจบ หรืออยากจะท่องศัพท์บางคำแต่ไม่พร้อมแต่งเป็นภาษาจีนทั้งประโยคก็อาจลองหยอดคำแบบนี้ดู เช่น “อยากจะ 改变 (gǎibiàn เปลี่ยนแปลง) ตัวเองให้คิดด้านบวก ก็เลย 努力 (nǔlì พยายาม) ฝึกให้ตัวเองคิดบวกอยู่ทุกวัน” ผู้เขียนเห็นเพื่อนฝรั่งหลายคนเรียนด้วยวิธีนี้จนตอบท้ายเริ่มหยอดคำน้อยลงจนพูดจีนได้ทั้งประโยคต่อกันยาวๆ เลยทีเดียว^^
2
2. กลวิธีบัตรคำช่วยพูด post it (贴在墙上 tiēzài qiángshàng)
กระดาษสีสดใสช่วยกระตุ้นความจำได้เป็นอย่างดี แต่อย่าเขียนศัพท์แล้วแปะไว้ท่องเป็นจีนคำไทยคำอย่างเดียว แต่ให้แปะไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้านวันละ 5-10 คำ เดินไปเจอตรงไหนให้แต่งเป็นวลีหรือประโยคสั้นๆ เช่น 学习 = 好好学习 天天向上 (Hǎo hao xuéxí tiāntiān xiàngshàng ขยันเรียนทุกวัน พัฒนาขึ้นทุกวัน) หรือถ้าเก่งขึ้นอาจใช้วิธีหยิบศัพท์ 3-5 คำ แล้วเรียงร้อยคำศัพท์เป็นถ้อยคำอย่างที่ทบสอบในข้อสอบ HSK ก็ได้ เวลาฝึกพยายามเปล่งเสียงออกมาดังๆ ใครกลัวแม่จะว่าทำบ้านเลอะก็ไม่ต้องแปะ แต่แผ่คว่ำไว้บนโต๊ะ หยิบสุ่มสลับขึ้นมาแล้วแล้วฝึกแต่งวลี/ประโยคเอง หรือชวนเพื่อนมาเล่นด้วยก็สนุกดี
3. กลวิธีเงา shadowing (跟读法 gēndúfǎ)
กลวิธีนี้เป็นวิธีการที่เราพูดตามหรือพูดซ้ำไปพร้อมๆ กับเสียงที่ได้ยินจากเนื้อหาในซีดี ทีวี ยูทูป ภาพยนต์ที่เราชอบ เชื่อกันว่าเมื่อเราได้ยินเสียงและฝึกขยับปากเปล่งเสียงไปพร้อมกันจะช่วยปรับจูนให้สมองสามารถเรียนรู้และจดจำภาษาใหม่ๆ ได้อย่างดีในที่สุด วิธีนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิดเพราะเป็นการฝึกฟังและออกเสียงตามสิ่งที่เราได้ยิน ถ้ามีสคริปต์ให้อ่านตามไปด้วยก็จะดีมาก เราสามารถเลือกความสั้นยาวยากง่ายได้ตามที่ต้องการจากสื่อที่หาได้ วิธีนี้ทำได้ง่ายและเป็นที่นิยมมากจนมีนักภาษาและนักเรียนภาษาที่ประสบความสำเร็จหลายคนเขียนหนังสือออกมาขายให้อ่านกันเลยทีเดียว
4. กลวิธีแบบล่าม interpreting (翻译法 fānyìfǎ)
กลวิธีนี้ใช้กันในหลักสูตรล่ามของหลายสถาบัน วิธีที่ปรับใช้คือให้นักเรียนฟังหรืออ่านข้อความหนึ่งๆ เป็นภาษาไทยของเราเอง สั้นยาวยากง่ายแล้วแต่เรา จากนั้นให้แปลข้อความนั้นเป็นภาษาจีน จริงๆ มันก็คือวิธี “ถ้าภาษาไทยพูดอย่างนี้ ภาษาจีนจะพูดยังไงนะ?” ทำให้บ่อย สงสัยให้มาก ไม่ต้องกลัวว่าผิดแล้วจะไม่มีคนแก้เพราะโดยธรรมชาติของคนเรา ถ้าเรียนภาษามาถึงจุดหนึ่ง และฝึกฝนด้วยตัวเองต่อเนื่อง เราจะมีความสามารถในการตรวจสอบ + ความกระตือรือร้นในการค้นคว้า และแก้ไขข้อผิดได้ด้วยตัวเอง (自我调控 zìwǒdiàokòng) ในที่สุด
5. กลวิธีพูดกับตัวเอง self-talk (跟自己说话 gēnzìjǐshuōhuà/ 自言自语 zìyánzìyǔ)
ง้อใครทำไมเมื่อไม่มีคนคุยด้วย คุยกับตัวเองก็ได้ วิธีนี้สร้างนักพูดในตำนานมานักต่อนัก ไม่ต้องกลัวที่จะอายใครด้วย ตั้งหัวข้อที่จะพูดเอง สั้นยาวยากง่ายแล้วแต่เรากำหนด เช่น วันนี้จะทำอะไร? สิ่งที่ฉันชอบทำ? ไปจนถึง จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ยังไง ถ้าเป็นนายกจะทำอะไรให้ประเทศนี้บ้าง? ถ้าไม่รู้จะพูดอะไรให้ใช้วิธีใส่ input เข้าไปก่อน เช่น อ่านหรือฟังบทความสั้นๆ หลายๆ รอบ แล้วพูดเรื่องนั้นเองโดยไม่ต้องดูสคริปต์ วิธีนี้อาจใช้กับวิธีฝึกสรุปข้อความที่ได้อ่านหรือได้ฟังก็ได้เช่นกัน รับรองได้ผลเพราะคนที่ฝึกเพื่อเป็นนักพูดในที่ชุมชนต่างใช้วิธีนี้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
การเรียนภาษาที่ดีต้องอาศัยใจรัก มีเป้าหมาย เอาใจใส่ ใจถึงมองโลกแง่บวก มีความอดทน และเข้าใจเรื่องการเวลาเป็นสำคัญ
ที่สำคัญ “อย่าใจร้อน” ดังสำนวนที่ว่า
一口吃成胖子 yìkǒu chī chéng pàngzi กินคำเดียวก็ตุ้ยนุ้ยเลย 比喻人急于求成,一下子想把事情做好,但是不实现。Bǐyù rén jíyú qiú chéng, yīxià zi xiǎng bǎ shìqíng zuò hǎo, dànshì bù shíxiàn. เปรียบเปรยถึงคนใจร้อนอยากสำเร็จโดยไว เผลอคิดไปว่าจะทำสิ่งหนึ่งให้ได้ดีได้โดยง่ายกับเวลาเพียงเล็กน้อย แต่ความจริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้(ไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง)
ไม่มีใครรู้แต่เกิด ทุกคนล้วนเริ่มนับจากศูนย์ทั้งสิ้น และอยากให้เราระลึกเสมอว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เรียนกับครูอย่างมากก็ไม่แค่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เรียนด้วยตัวเองจะเรียนมากแค่ไหนก็ย่อมได้ ตัวเองอยู่กับตัวเอง 7/24 ขอให้ทุกคนเรียนภาษาจีนให้สนุก และสู้ๆ ไปด้วยกันครับ^^
ใครมีวิธีฝึกพูดด้วยตัวเองดีๆ ก็อย่าลืมเล่าสู่กันฟังนะครับ^^
โฆษณา