25 ก.พ. 2020 เวลา 03:51 • ไลฟ์สไตล์
แตงโมซีกเดียว🍉🍉🍉
ชาย 2 คน เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งหลังจากทำงานเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าก็พากันมาหลับใต้ต้นไม้สักงีบ สักพักชายคนแรกก็ตื่นขึ้นมาแล้วเล่าสิ่งที่ตัวเองฝันให้เพื่อนฟัง
”ข้าฝันว่าข้าได้เป็นเจ้าของสวนแตงโม 100 ไร่ แต่ละเดือนขายแตงโมมีรายได้มหาศาล” ชายคนแรกบอกด้วยความตื่นเต้น
”เจ้าร่ำรวยอย่างนั้น ขอข้าสัก 1 ไร่ได้ไหม”ชายคนที่สองว่า
“ไม่ได้”ชายคนแรกตอบอย่างไม่มีเยื่อไย
ชายคนที่สองชักโมโห “งั้นขอแตงโมสัก 10 ลูกได้ไหม”
“ไม่ได้”ชายคนแรกตอบ
ชายคนที่สองฉุนเฉียว”งั้นขอ 1 ลูกเอ้า”
“ลูกเดียวก็ไม่ได้หรอก”ชายคนแรกยังยืนยันคำตอบเดิม
“อะไรวะ งั้นขอแค่ซีกเดียวได้มั้ย”
“ไม่ได้อีกนั้นแหละ”
คราวนี้ชายคนที่ 2 ฉุนขาด “อะไรวะ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แตงโมแค่ซีกเดียวก็ให้เพื่อนไม่ได้”
ชายคนแรกตอบอย่างใจเย็น “ฟังนะ เรื่องแตงโม 100 ไร่ของข้า มันเป็นเพียงความฝัน ถ้าเรื่องแค่นี้เจ้ายังไม่กล้าฝัน แตงโมซีกเดียวก็ไม่สมควรได้”
……………………………………………………………………..
ตอนเด็กๆคนเรามีความฝันมากมาย อยากเป็นทหาร ตำรวจ ครู พยาบาล อยากทำโน่น อยากทำนี่ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาพบกับความจริงของชีวิต พบกับข้อจำกัดของหน้าที่การงาน และสิ่งต่างๆ ทำให้พบว่าสิ่งที่ฝันไม่ใช่ว่าจะได้มาอย่างง่ายดาย
แต่นั่นไม่ใช่เหตุที่ทำให้เราหยุดฝัน เพราะความฝันทำให้ชีวิตมีความหวัง มีเป้าหมาย และมีพลังก้าวเดินต่อไป
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็น “ตัวประกอบ” ให้กับใคร เราเป็น “ตัวเอก” ในบทบาทชีวิตจริงของตนเอง หากคุณไม่สามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้ ผู้อื่นก็จะเข้ามาบงการชีวิตของคุณ
ในโลกนี้มีคนอยู่ 3 ประเภท ประเภทแรก คือ คนที่สร้างทุกสิ่งให้เกิดขึ้น ประเภทที่สองคือ คนที่เฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น(เฉยๆ) และประเภทสุดท้าย คือ คนที่ไม่รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เราจะจัดตัวเองอยู่ในกลุ่มไหน
คนประเภทแรกจะเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน แล้วลงมือทำให้เกิดผล หากยังล้มเหลวก็จะลงมือทำใหม่จนกว่าจะสำเร็จ คนเหล่านี้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆมากมายให้กับโลก คนประเภทที่ 2 อาจจะมีความฝันหรือไม่มีก็ไม่ลงมือทำอะไร ส่วนคนประเภทสุดท้ายเกิดมาในโลกนี้กับไม่ได้เกิดมีค่าเท่ากัน
ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และหนทางสู่มันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
มีคำกล่าวว่า “ความรวย” ต้องใช้ความพยายาม แต่ “ความจน” ไม่ต้องใช้ เพราะอยู่เฉยๆมันก็จนได้ ไม่ต้องดิ้นรนเลย
หนทางสู่ความลำบากนั้นแสนสบาย แต่หนทางสู่ความสบายนั้นลำบาก
จากสถิติพบว่า คนที่อายุ 65 ปี มีเพียง 4% ที่พึ่งตัวเองได้ 1% เท่านั้นที่ร่ำรวย นอกนั้นถ้าไม่เสียชีวิต ก็ยังเกษียณตัวเองไม่ได้ ยังคงต้องทำงานแม้เข้าสู่วัยร่วงโรย ยังต้องพึ่งพาลูกหลาน หรือไม่ก็พึ่งพาสวัสดิการภาครัฐ
ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปก็จะมีชีวิตเหมือนคนทั่วไป
แน่นอนว่าคน 5%ของสังคมที่พึ่งตัวเองได้ จนถึงขั้นมั่งคั่ง เขาใช้ชีวิตไม่เหมือนคนอื่น เขาคงต้องผ่านพบกับปัญหาอุปสรรคมากมายเพื่อให้ได้ชีวิตอย่างนี้
เหมือน “เพชร” กับ “ถ่าน” ที่มีโครงสร้างทางโมเลกุลเป็นคาร์บอนคล้ายๆกัน แต่เพชรหมักบ่มตัวเองยาวนานกว่า และเมื่อผ่านการเจียระไนมันก็กลายเป็นอัญมณีอันเลอค่า
ขณะที่ถ่านเอาไปเผาไฟ แล้วสุดท้ายก็เหลือเพียงขี้เถ้า
ใครทำงานมากย่อมเจอปัญหามาก คนทำงานน้อยมักไม่ค่อยมีปัญหา
หลายคนกลัวปัญหาจนไม่กล้าลงมือทำอะไร หารู้ไม่ว่านั่นคือปัญหาที่ใหญ่หลวงของชีวิต
อุปสรรคจึงเป็นบททดสอบชีวิต เพื่อให้รู้ว่าความสำเร็จที่ได้มาช่างหอมหวาน และงดงาม
#กล้าตั้งเป้าหมายที่จะไปให้ถึงฝัน💖💖💖
โฆษณา