Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สนทนาภาษาบอล
•
ติดตาม
25 ก.พ. 2020 เวลา 09:09 • กีฬา
ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว หลายคนคงยังจำภาพสยดสยองที่ อันเดร โกเมส กองกลางของเอฟเวอร์ตันได้รับบาดเจ็บจนข้อเท้าผิดรูปไปจากเดิม ต้องเข้ารับการผ่าตัดและเข้าเฝือกเพื่อเชื่อมกระดูกกลับมาใหม่ได้เป็นอย่างดี
อาการเจ็บที่หนักขนาดนี้ จากการคาดการณ์อย่างเร็วก็คงปลายฤดูกาลกว่าจะกลับมาได้ หรือถ้าแย่หน่อยก็คงต้องปิดเทอมไปเลย รอลงสนามอีกทีฤดูกาลใหม่นู่น
ความเห็นจากทางแพทย์ผู้ผ่าตัดค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะได้กลับมาลงเล่นอีกทีก่อนเดือนพฤษภาคม คร่าว ๆ คือใช้เวลาพักไม่น่าเกิน 178 วัน
อายเมริค ลาปอร์กต์ กองหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยประสบปัญหาบาดเจ็บในแบบเดียวกันเมื่อปี 2016 เขาใช้เวลาทั้งสิ้น 138 วันในการฟื้นฟูจนกลับมาลงสนาม
อันโตนิโอ วาเลนเซีย อดีตกัปตันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2010 ใช้เวลาถึง 179 วันเพื่อคืนสนามในอาการเจ็บคล้าย ๆ กัน
ในเคสของโกเมส ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ บวกกับกำลังใจที่ได้รับอย่างล้นหลาม และความมุ่งมั่นของเจ้าตัวที่จะกลับมาลงเล่นให้เร็วที่สุด ทำให้ระยะเวลาที่เขาร้างสนามไปนั้นเหลือเพียง 112 วันเท่านั้น
ในนาทีที่ 58 ของเกมที่เอฟเวอร์ตันบุกไปเยือนอาร์เซน่อล โกเมสถูกส่งลงสนามอย่างเป็นทางการแทนที่ของ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในแดนกลาง
และมิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสก็ทำผลงานได้ไม่เลวเลยทีเดียว กลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนตรงกลางสนามให้พลพรรคท็อฟฟี่ทำเกมได้ลื่นไหลกว่าเดิม วางบอลยาวสวย ๆ ได้อีก 2-3 ครั้ง ดูแล้วดีเกินมาตรฐานของคนที่กลับมาลงเล่นเป็นเกมแรกหลังต้องพักยาวเพราะกระดูกหัก
“ผมอยากจะขอบคุณเอฟเวอร์โตเนี่ยนทั้งหมด รวมถึงผู้เล่น อดีตผู้เล่น และทุก ๆ คน เพราะข้อความจากพวกเขามันวิเศษมาก"
“มันทำให้ผมรู้สึกมั่นใจ และการสนับสนุนจากผู้คนก็ช่วยให้ผมผลักดันตัวเองจนถึงขีดจำกัด เพื่อกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” โกเมสให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports หลังจบเกม
น่าเสียดายที่แม้เอฟเวอร์ตันจะครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม แต่ก็ไม่สามารถทำประตูคืนจากอาร์เซน่อลที่ออกนำ 3-2 ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
เกมนี้ลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ สู้กับอาร์เซน่อลได้แบบไม่เป็นรองเลย แม้เปอร์เซนต์การครองบอลจะพอ ๆ กัน แต่ฝั่งเอฟเวอร์ตันนั้นสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้เยอะกว่า
โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน ที่กลายร่างมาเป็นกองหน้าที่ผลิตประตูเป็นอันดับต้น ๆ ของลีกนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม แม้จะทำได้ 1 ประตูในเกมนี้ แล้วก็ชนะการดวลกลางอากาศถึง 9 ครั้ง (มากที่สุดในสนาม) แต่ถ้าดูโอกาสที่เขาได้รับจากเพื่อนร่วมทีมแล้ว อดผิดหวังไม่ได้ที่อย่างน้อยเขาน่าจะบวกได้อีกซักลูก
เกมนี้แฟนเอฟเวอร์ตันได้เห็นแบร์นาร์ดที่มักจะประจำการทางฝั่งซ้าย ถูกส่งลงมาเล่นทางขวาเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้แทนที่ อเล็กซ์ อิโวบี้ ตัวรุกที่มักจะทำได้ดีในทุกพื้นที่ของสนามยกเว้นใกล้กรอบเขตโทษ พูดง่าย ๆ คือยิ่งใกล้จังหวะลุ้นประตูเท่าไหร่ ยิ่งทำเสียของมากเท่านั้น
อีกคนที่น่าผิดหวังก็คือ กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน เพลย์เมคเกอร์วัย 30 ที่ฟอร์มตกลงจากปีก่อนอย่างน่าใจหาย ยิ่งทำให้การกลับมาของโกเมสมีความหมายยิ่งขึ้นไปอีก เพราะกองกลางที่ควรจะเป็นตัวสร้างสรรค์เกมดันฟอร์มออกทะเลซะขนาดนี้
ในฝั่งเจ้าบ้านอาร์เซน่อลนั้น การทำ 2 ประตูของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง จากโอกาสจบสกอร์เพียง 2 ครั้ง คงแสดงให้แนวรุกฝั่งตรงข้ามเห็นแล้วว่ากองหน้าระดับท็อปเค้าต้องยิงยังไง
17 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเขาเทียบเท่ากับ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงของเลสเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นดาวซัลโวร่วมในตอนนี้ และจำนวนดังกล่าวยังถือเป็น 44% ของจำนวนประตูทั้งหมดที่ทีมปืนใหญ่ทำได้ ตามสัดส่วนแล้วมากที่สุดในลีกเทียบเท่ากับ แดนนี่ อิงส์ ของเซาแธมป์ตันเลย ชี้ให้เห็นว่าปัญหาตอนนี้คือการที่เพื่อนร่วมทีมที่เหลือยังยิงประตูได้น้อยเกินไป
ส่วนอีกคนที่ผลงานร้อนแรงไม่แพ้กันก็คือ บูกาโย ซาก้า แบ็คซ้ายวัยเพียง 18 ปี ที่ทำแอสซิสต์รวมทุกรายการได้เป็นลูกที่ 10 ในซีซั่นนี้แล้ว จากที่กำลังจะได้พักอยู่ดี ๆ ต้องโดนส่งลงมาแทน เซอัด โคลาซินัช ตั้งแต่นาทีที่ 17
ไม่รู้เพราะอาการล้ารึเปล่าทำให้ช่วงท้ายเกมเกิดอาการแข้งขาอ่อนจนเกือบโดนเอาบอลไปยิงได้
แม้เกมนี้จะส่งผลให้เอฟเวอร์ตันร่วงลงไปอยู่ที่ 11 แต่คะแนนพวกเขาก็ยังตามหลังอันดับ 5 อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 5 คะแนน ซึ่งต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะเป็นอันดับที่ทำให้ได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกจากอานิสงค์โทษแบนของแมนซิตี้รึเปล่า
ด้านอาร์เซน่อลที่เก็บสามแต้มเต็มก็ได้ขยับมาอยู่ที่ 9 ซึ่งเป็นการอยู่อันดับเลขตัวเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงก่อนบ็อกซิ่งเดย์เป็นต้นมา
แม้พรีเมียร์ลีกปีนี้คงไม่ต้องลุ้นแล้วว่าแชมป์จะเป็นใคร แต่สำหรับพื้นที่ฟุตบอลยุโรปยังนับว่ามีการแข่งขันสูงมากทีเดียว
ถึงการต่อสู้ในสนามระหว่างปืนใหญ่และท็อฟฟี่ฤดูกาลนี้จะจบลงแล้ว แต่การขับเคี่ยวเพื่ออันดับบนตารางคะแนนยังไม่จบง่าย ๆ แน่นอน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย