26 ก.พ. 2020 เวลา 17:57 • ความคิดเห็น
"เฟส 3" คงจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด 😥😫
ไม่ให้ความร่วมมือเพียงคนเดียว มันก็คือหายนะของชาติได้
เหนื่อยใจ.. เขียนบทความไม่ไหว ปีนี้เราคงต้องเตรียมรับแรงกระแทกขั้นสุด
ความพยายามที่จะประคองไม่ให้ประเทศเราต้องเข้าสู่ เฟส 3 ของการระบาดริบหรี่... เพราะคนเพียงคนเดียว
มันก็คงเหมือนกับในหนังไวรัสล้างโลก แค่คนดื้อคนเดียว คนที่อยากจะทำตามใจ คนที่กลัว คนที่ไม่รู้ ก็พาโลกถึงจุดจบ
เมื่อเช้าเราได้เห็นเกาหลีกำลังจะกลายเป็นจีน อิหร่านและอิตาลีเริ่มวิกฤต
หันมามองบ้านเรา ยังดีนะ
แต่พอสาย ๆ เท่านั้นแหละ แทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ มันน่าโมโห
ป้าอาจุมม่ามหาภัยของเกาหลียังดูมีเหตุผลที่แกดื้อเพราะแกไม่เคยไปประเทศเสี่ยง ** แก้ไขข้อมูล ป้าก็ปกปิดข่อมูลว่าไปอู่ฮั่นมาเหมือนกัน 😔 **
แต่นี่อะไร รู้ทั้งรู้ แต่ตั้งใจปิด 3 วันหรืออาจมากกว่านั้นที่แพร่เชื้อไปแล้ว
ป่วยมาโรงพยาบาลก็โกหกหมอ คืออะไร??? กลัวอะไรเหรอ
เพราะความ . . . หลานของตัวเองก็ต้องติดเชื้อไป แถมยังสร้างความกังวลให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้น
คิดดูถ้าเราเป็นพ่อเป็นแม่ของเพื่อนร่วมห้องนี่จะรู้สึกยังไง
เพียงวันแรกก็ป่วนไปทั้งบาง นี่ยังไม่รู้เลยว่าจะตามเช็คผู้โดยสารบนเครื่องที่บินไฟลท์เดียวกันได้หมดหรือเปล่า ซึ่งน่าจะยาก
ปู่-ย่า มหาภัย แกอาจจะเป็นบุคคลที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้เป็นประวัติการณ์เลยก็ได้ ถ้ากลายเป็นเคส Super Spread
แค่นักท่องเที่ยวจีนไม่มา เราก็น่วมขนาดนี้ ถ้าประเทศไทยเข้าเฟส 3 จะยับขนาดไหน 😖
แค่วันนี้ก็ทำตลาดหุ้นพังพินาศไปเป็นที่เรียบร้อย
ประเทศต้องเสียเงินงบประมาณอีกเท่าไหร่ มีบริษัทร้านค้าต้องเลิกกิจการ คนจะต้องตกงานกันอีกเท่าไหร่
ถ้ารอดจากโรคมาได้ บ้านนี้ควรได้รับโทษตามกฏหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
สำนึกรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งจำเป็นมากโดยเฉพาะเวลานี้
ความเห็นเพิ่มเติม:
-ในกรณีนี้ทำให้เห็นได้ว่าขั้นตอนการคัดกรองเพื่อรับมือไวรัสโควัด-19 ปัจจุบันเอาไม่อยู่ เพราะไม่สามารถคัดกรองคนที่ไม่ออกอาการได้
-ควรมีการประยุกต์ใช้ Big Data อย่างจริงจัง เมื่อโรงพยาบาลเห็นว่าน่าสงสัยแม้ผู้ป่วยปฏิเสธ น่าจะมีการร้องขอตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของผู้ป่วยไปยังหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองได้
เฮ้อ บ่นมาเยอะ คงทำอะไรไม่ได้แล้ว หวังแค่ว่าจะไม่กลายเป็น Super Spread เราโชคดีที่ยังไม่เข้าเฟส 3 ซึ่งผมว่าไม่น่ารอดได้
ตอนนี้ผมว่าเราคงต้องเปลี่ยน Mind Set แล้วว่า โควิด-19 มันอยู่ข้างตัวเราแล้ว
เราไม่รู้หรอกมันแพร่ไปถึงไหนแล้ว ต่างจังหวัดก็ใช่ว่าจะนอนใจได้ ผ่านมา 5 วันจากที่ลุงเดินแพร่เชื้อในสนามบินดอนเมือง
คนในสนามบินนั้นอาจกลับถึงภูมิลำเนา และยังไม่แสดงอาการ
มาตราการป้องกันตนเองทุกอย่างต้องเอามาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดกันแล้วครับ
พักผ่อน เยอะ ๆ ออกกำลังกาย ทำร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้
เพื่อตัวเราเอง เพื่อคนที่คุณรัก เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ และในฐานะพลเมืองโลก
ให้บทเรียนก่อนหน้านี้ให้เราได้ตระหนักกัน อย่ารักสบาย เสียดายของถูก ชีวิตมีแค่ชีวิตเดียวหาใหม่ไม่ได้นาจา 😔
ปล. ไม่ได้มีเจตนาบิ้วท์ให้ระแวงหรือเกลียดชังกันขอให้มีสติกันนะครับ หากเกรี้ยวกราดไปต้องขออภัย หัวร้อนนอนไม่หลับ 🙏
โฆษณา