2 มี.ค. 2020 เวลา 02:34 • ไลฟ์สไตล์
นิทานสอนใจเรื่อง ม้ากับลา เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกับนิทานเรื่องนี้ครับ
ปิดแล้ว
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพ่อค้าคนหนึ่งไปค้าขายต่างเมือง มีลาไปตัวหนึ่ง มีม้าไปตัวหนึ่ง ม้าตัวโต ลาตัวเล็ก ต่างฝ่ายต่างก็บรรทุกสินค้ากันไปลาบรรทุกได้จำนวนหนึ่ง ม้าบรรทุกได้จำนวนหนึ่ง แต่ลานั้นกำลังน้อยกว่าม้าก็เดินทางกันไปเรื่อยๆ
เมื่อเดินทางไปถึงที่แห่งหนึ่ง ลาบอกว่า “พี่ม้า…ฉันเหนื่อยแล้วนะขอพี่ม้าช่วยรับภาระของฉันครึ่งหนึ่งเถิด”
ม้าก็บอกว่า “ฉันไม่เหนื่อย…แต่ว่าไม่รับของๆ เธอ ก็เธอเกิดมาเป็นลาตัวเล็กเองนี่…ช่วยไม่ได้..” แล้วก็เดินทางต่อไป
ลาเตือนอีกครั้งหนึ่ง “พี่ม้าฉันตาลายแล้วนะตอนนี้ ฉันอาจจะสิ้นใจก็ได้…ถ้าพี่ไม่ช่วย”
ม้าบอกว่า “ก็ตายไปซิ ฉันก็อยู่ของฉัน… ฉันไม่ตาย” หลังจากนั้นลาก็ล้มลงสิ้นใจตาย
เมื่อลาตาย เจ้าของก็ต้องย้ายของเหล่านั้นขึ้นหลังม้า ม้าเริ่มรู้ซึ้งแล้วว่า
“การที่อยู่คนเดียวในโลกนั้น สุดท้ายก็ลำบาก ถ้าไม่เอื้อเฟื้อ”
แต่เมื่อคิดได้ ลาตายเสียแล้ว แล้วต่อมาเจ้าของเดินเหนื่อยเลยขึ้นขี่ม้าต่อไปอีก
พอเจอแบบนี้ม้าคิดถึงลาแล้ว คิดว่า
“นี่ถ้าฉันได้ช่วยเธอเสียตั้งแต่แรก ฉันคงไม่ต้องหนักแบบนี้”
ในการอยู่ร่วมในสังคมนั้น ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เสียแล้ว ต้องเป็นสังคมอิทัปปัจจยตา ต้องพึ่งพา คนมีกำลังน้อยก็ทำงานได้ คนมีกำลังใหญ่ก็ทำงานได้ ขอให้ประสานกันเถอะ ทุกคนมีความหมาย
ถ้าคนเล็กคนน้อยไม่แตกสามัคคีกัน รวมตัวกัน ใช้ความสามารถอย่างเต็มเหนี่ยวก็จะเอาชนะอุปสรรคได้
แต่ถ้าวันไหนต่างคนต่างเดิน ความหายนะก็มาถึงดังเรื่องลากับม้าที่เล่ามาเป็นตัวอย่าง
ผู้ได้เปรียบ ผู้เสียเปรียบ จริงๆ แล้วต่างก็มีดี เพียงแค่เปิดดีเข้าหากัน แลกความดีซึ่งกันและกัน ไม่มาชิงดีชิงเด่นกัน ไม่ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต่างคนต่างแปลกแยกซึ่งกันและกัน แค่นั้น สังคมเล็กๆ ของเราก็จะน่าอยู่มากขึ้นเยอะครับ
เริ่มต้นจากสังคมครอบครัว หรือที่ทำงานได้เลยนะครับ
โฆษณา