ส่องโลกคริปโต #cryptosneak สรุปสาระสำคัญ ลุงโฉลก กับ พี่บิท
เรื่อง ทิศทางตลาดโลกและการเงินกับลุงโฉลก
ช่วงแรก พูดถึง วิธีคิด สำหรับการเทรด คือ คิดไว้เสมอว่าเราไม่ได้เก่งกว่าตลาด มันจะทำให้เราไม่ประมาท
พูดถึงเรื่อง สงครามการค้า ลุงให้ความเห็นว่า เมกา แพ้ไปเรียบร้อยแล้ว รอแค่ว่าจะแสดงออกเนียนๆว่าอย่างไร ซึ่งจะไปในทาง "Dedollalization" คือ ค่อยๆใช้ดอลล่าห์น้อยลงไป แพ้ตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์แล้วล่ะ สำหรับเงิน ดอลลาห์ โดยปัจจุบัน เกือบครึ่งโลก ก็ไม่ได้ใช้เงินดอลล์กันแล้ว เงินดอลล์ได้ตายไปแล้ว แต่ว่าจะหาบทสรุปที่สวยหรูได้อย่างไรเท่านั้นเอง, กระบวนการนี้ใช้เวลา ปลายทาง เงินดอลล์ จะหายไป และเปลี่ยนเป็นสกุลใหม่ Dollar classic :D ฮ่าๆ และความมั่งคั่งของโลกจะค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นทางตะวันออก..
มาเรื่อง "สงครามค่าเงิน" ในขณะที่ เงินกระดาษ หรือ เงินเฟียท (fiat) ก็กำลังตายเช่นกัน เงินที่พิมพ์ออกมาได้ไม่จำกัด และไม่มีอะไรมาแบคอัพเลย มันอยู่ไม่ได้นานหรอก และมันก็มาถึงวาระของมันแล้ว หมดสมัยแล้ว ค่าเงินของโลกจะแปรปรวนไปอีกพักใหญ่ และจะเข้าสู่ยุคที่ หา standard ซึ่ง โอกาสที่จะเกิด "Bitcoin standard" นั้นมีโอกาสสูง เหมือนกับยุคที่เราใช้ ทองคำ เป็น standard หรือ gold standard ถ้าเราไม่มี standard ใหม่ จะวุ่นวายกันหมด
สงครามโลกครั้งที่สาม.. ไม่มี จบแล้ว ยุคใหม่ไม่ได้ใช้อาวุธทำสงคราม แต่ใช้ "กฏหมาย" เริ่มที่แทรกแซงทางการเมือง “ปลุกปั่น” ให้เกิดความแตกแยก วุ่นวาย เป็นเงื่อนไขให้เขาเข้ามาตั้งรัฐบาลใหม่ แก้กฏหมาย ยกทรัพยากรในประเทศที่เดิมเป็นของเรา ยกให้เขา แล้วเราจะไปทำอะไรได้ ถ้าเกิดกฏหมายตราไว้อย่างนั้น..
ปัจจุบันการต่อสู้กันด้วยกฏหมาย เป็นเรื่องการต่อสู้กันเชิงเทคนิค ผลการตัดสินเป็นแบบใด คุณต้องยอมรับ ทั้งที่มันอาจไม่เป็นธรรม แต่กติกา แต่โลกมันเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นต้องไปตามนั้น งบกลาโหมควรโยกมาโฟกัสด้านกฏหมาย..
การล่าอาณานิคมยุคใหม่ แก้กฏหมายง่ายสุด ยุยง คนแค่ไม่กี่คน ประเทศก็แตกแล้ว อาทิ ยูเครน เวเนฯ โดนยุยง จนเปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนกฏหมาย และยึดทรัพยากรธรรมชาติไปในที่สุด ถ้ารู้ตัวทันก็รอดตัว...
บิตคอยน์ กับ ทองคำ ให้มองว่า เงินอยู่ตรงไหน ทิศทางไปทางไหน เราจะโฟกัสที่ทำเงิน เราก็ต้องมองว่า มันไปด้วยกันไหม แล้วมันกำลังไปทางไหน "ดู propability ของแต่ล่ะ possibility แล้วค่อยวาง money management"
แต่ถ้าจะให้ออกความเห็นว่า บิตคอยน์ กับ ทองคำ มันคงไปด้วยกัน เพราะมันเป็นที่พึ่งของการด้อยค่าของ "เงินกระดาษ" ที่ค่าของเงินมันน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อก่อนข้าวแกงในจุฬา จานละ 1 บาท เดี๋ยวนีเท่าไร..
คนที่เก็บเงินเป็น เขาจะไปเก็บไว้ ที่ "ทองคำ" มีความรู้หน่อย ก็เก็บไว้ใน "บิตคอยน์" อีกทรัพย์สินหนึ่ง ก็ "ที่ดิน" เศรษฐีเมืองไทย เก็บ ที่ดิน ไม่ได้เก็บเงินสด..
ถ้าคนมีเงินหน่อย แต่ไม่มีความรู้ บิตคอยน์ แนะนำ เก็บทองคำไปก่อนนั่นล่ะ ถ้าคนเริ่มความรู้มากขึ้น บิตคอยน์ใช้ง่ายขึ้น โดยพื้นฐานการใช้งาน บิตคอยน์ ได้เปรียบกว่าทองคำอยู่แล้ว อนาคตอาจแซงทองคำก็ได้..
สรุป สถานการณ์ไม่แน่นอนของโลก สงคราม ไวรัส คนหันมาถือทอง เพราะไม่มั่นใจในเงินกระดาษ ลุงบอกว่า ต่อให้ไม่มีสถานการณ์ คุณจะไปถือทำไม เงินกระดาษ มันไร้ค่า ดู ซิมบับเวย์ เมื่อก่อน 1 ซิมบับเท่ากับ 1 ดอลล์ นะ พอดำเนินนโยบายผิดพลาด ประชาชนไม่มั่นใจเท่านั้นล่ะ 1 แสนกว่า ซิมบับเวย์ ยังไม่เท่า 1 ดอลล์ เลย ดังนั้น ไม่ต้องรอให้เกิดสงครามหรอก ไม่ต้องเก็บเงิน ให้เอาอย่าง เศรษฐีทั้งหลาย ที่ดินเป็นล้านไร่ ทองคำเท่าไร บิตคอยน์ก็เริ่มมี...
ในเมื่อจุดประสงค์เรา คือ เงิน คือ ความมั่งคั่ง แล้วมันไหลไปทางไหน มันอยู่ตรงไหน ก็ตามมันไปตรงนั้น มองให้ออก ตามให้ถูก ที่แน่ๆ มันไม่ได้อยู่ที่เงินกระดาษ แยกให้ออก ระหว่าง currency กับ money โดยเฉพาะ fiat...
ตอบคำถาม บิตคอยน์ มีความผันผวน เนื่องจากอะไร...
มันผันผวนมาก ก็ดีแล้ว ย้อนมาดู ว่าคุณต้องการอะไร คุณต้องการทำกำไร มันผันผวนก็ดีกว่ามันนิ่งๆ ขึ้นก็ long ลง ก็ short สิครับ ถ้าบิตคอยน์ไม่ผันผวน เดี๋ยวก็มีคำถามมาอีก ว่า ทำไมมันไม่ผันผวน คุณต้องดูว่าคุณต้องการ อะไร คุณจะเอากำไร หรือ จะไปเขียนตำรา ถ้าคุณจะโฟกัสที่ไปเขียนตำรา ก็อีกเรื่องนึง ไม่ต้องรู้อะไรมากจนเกินความจำเป็น รู้ในสิ่งที่เราโฟกัส เช่น ถ้ามันผันผวน เราจะเล่นกับมันอย่างไร
แนวโน้มราคา BTC... ก่อนอื่น นักเทรดต้องรู้ สามกฏ 1. dow theory, 2. Fibonacci sequences และ 3. Elliot wave จำง่ายๆ
-เวฟ 1-2 next degree เวฟ 1 จะลงลึก จะลงมาที่ fibo 78.6 กับ 88.7
-เวฟ 1-2 next degree เวฟ 3 จะลงมาที่ fibo 60.8 กับ 68.6
-เวฟ 1-2 next degree เวฟ 5 จะไม่แน่นอน มักลงมาที่ fibo 38.2 กับ 60.8
ถ้าดูกราฟ BTC ก็ลงมาตามทฤษฎี ตอนนี้กำลังลงอยู่ ก็ควรลงต่อ ซึ่งถ้าตามทฤษฎี ก็ที่ fibo 60.8, 68.6 สัก 7500 ดีไหม short term ลงต่อ ตาม dow theory จนกว่าจะมีสัญญาณกลับตัว
การนับเวฟเบสิก
ใครที่ยังนับเวฟไม่เป็น ไปเรียนไปฝึก ลุงสอนคร่าวๆ ว่า มอง ยอดเวฟ 1-2 ให้ออกก่อน ดูง่ายๆคือ ตรงไหนเป็นยอด ตรงไหนเป็น หลุม เพราะเวฟใหญ่ ก็จะมี เวฟย่อย (เวฟในเวฟ) ไปฝึกดูเอา..
บิตคอยน์ ทองคำ มีเจ้าไหม...
คำตอบมี สอง คือ มี และ ไม่มี ถ้ามี จะเข้าระบบเรา ทำเงินได้ ถ้าไม่มี ก็ไม่เป็นไปตามแผนเรา ยิ่งมีเจ้ามือ ยิ่งทำกำไรได้ดี ได้เร็ว ดังนั้น มี เจ้ามือ หรือ ไม่มี ไม่ต้องไปคิด ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มี ก็ทำกำไรยาก ต้องรู้ตัว ว่าเป้าหมายเราคืออะไร ถ้าคือ ทำกำไร ก็ไม่ต้องคิดมาก ว่าอะไรทำให้ตลาดเป็นอย่างไร แค่โฟกัส ว่าตลาดไปทางไหน และจะทำกำไรจากมันอย่างไร ดีกว่าไหม...
เหมือนนักมวย เป้าหมายคือ ขึ้นชก ทุกเช้าต้องตื่นมาออกกำลัง โดดเชือก เขาต้องมานั่งกังวลไหม ว่าต้องโดดเชือกท่าสวยไหม ใช้เชือกอะไร เชือกสีอะไร.. ไม่ต้อง แค่โฟกัสที่โดดเพื่อให้ได้กำลังขา เพื่อขึ้นชกได้อึดได้นาน ให้ดูที่เป้าหมาย อย่าไปหลงในรายละเอียดระหว่างทางที่มันไม่ได้เกี่ยวกับเป้าหมายของเรา...
เรื่องวิกฤติเศรษฐกิจ มันจะเป็นวัฏจักรของมัน เกิดเป็นรอบปกติ ถามถึง DJI ดาวโจน ทำไมลง... เพราะไวรัสหรือเปล่า ตอบ เพราะถึงเป้าฟิโบ แล้วจบเวฟของมันแล้วมากกว่า..
DJI จบเวฟพอดี ไม่ได้เกี่ยวกับไวรัส
คำแนะนำสุดท้าย ถ้าไม่รู้เรื่อง บิตคอยน์จริงๆ อย่าเข้ามาเลย สำหรับเทรด เจ็บตัวได้ง่าย ต้องไปศึกษาให้มาก มันเป็นตลาดที่สร้างขึ้นมาเพื่อกินเซียน
ถามว่าซื้อเก็บที่เท่าไร ได้ตลอด ถามว่าขายที่เท่าไร ลุงบอกอย่าไปขาย เก็บยาวไปตลอดชีพ ฮ่าๆ จบข่าว
ทิ้งท้ายสำหรับลุงโฉลก เกี่ยวกับเกร็ดธรรมะ บล็อกเชนน์ ก็เหมือน "ระบบกรรม" ในทางพุทธ คือ เปิดบล็อก บันทึกข้อมูล และยกข้อมูลเดิมทั้งหมดไปเปิดบล็อกใหม่ เรื่อยๆ เหมือนกับ กรรมที่เราสร้างไว้แล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เกิดบล้อกใหม่ก็รับกรรมเก่าต่อกันไป ทำกรรมดีไว้ ก็รับผลดี ทำกรรมชั่วไว้ ก็รับผลนั้น...
ลุงให้พร ให้เรามี "สติ" อยู่กับปัจจุบัน มองที่เป้าหมาย คือ "ทำกำไร" ไม่ต้องไปคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องมาก ไม่ต้องเก่งนักหนา ถ้าไม่มีสติความโลภจะเข้ามา จะเกิดปัญหา ความโลภแก้ที่ ทิฐิ มานะ ไม่หลงตัวหลงตน มันจะมองเป้าหมายและวิธีการชัดเจน..
คุณลุงเป็นคนมีวิธีคิดที่ดีมาก เป็นวิธีคิดที่ชนะตลาดตลอดกาล อยากได้อรรถรส ต้องดูคลิปเอานะ ทุกคนน นี่ย่อให้ค่อนข้างเยอะทีเดียว
ขอบคุณพี่บิท และ ลุงโฉลก คร้าบ
@cryptotica #ลุงโฉลก #bitinvestment
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
