2 มี.ค. 2020 เวลา 06:08 • ไลฟ์สไตล์
แม้เรียนไม่จบคนเหล่านี้ก็ประสบความสำเร็จได้
10จัดอันดับขอเสนอ
10 คนดังระดับโลก ถึงแม้เรียนไม่จบ...ก็ประสบความสำเร็จได้ !
ใบปริญญาอาจไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง และการันตีความสำเร็จเสมอไป เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย แต่ก็ประสบความสำเร็จในระดับโลกได้ ด้วยความพยายามและเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำตามความฝันของตัวเอง กระปุกดอทคอม จึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 มหาเศรษฐีคนดังที่แม้เรียนไม่จบ ก็ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองทำได้
แต่ก่อนอื่นขอย้ำก่อนว่า การเรียนรู้ยังเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ เพราะกว่าที่พวกเขาเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้เช่นนี้ ล้วนต้องผ่านทั้งการฝึกฝน หาความรู้ เพิ่มทักษะอย่างหนัก จนมีชื่อเสียงโด่งดังเฉกเช่นวันนี้
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerburg)
ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งโซเซียลมีเดียชื่อดัง โดยเขาเริ่มสร้าง Facebook ขึ้นมา ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard จนเมื่อเริ่มได้รับความนิยม เขาจึงตัดสินใจดรอปเรียน แล้วออกไปสานต่อความสำเร็จของ Facebook แบบเต็มตัวดังเช่นทุกวันนี้ ปัจจุบัน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 8 ของโลก มีทรัพย์สินกว่า 62,300 ล้านดอลลาร์ (1.99 ล้านล้านบาท) จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์
อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจของเขาเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ได้ตัดสินใจกลับไปเรียนที่ Harvard และจบการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย ในระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2017
บิล เกตส์ (Bill Gates)
ชายผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft เลือกจะดรอปเรียนจากมหาวิทยาลัย Harvard แล้วมุ่งมั่นเปิดบริษัทผลิตซอฟต์แวร์เป็นของตัวเอง เพราะเขาชื่นชอบและเริ่มเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่อายุ 13 ปี ทำให้เมื่อเห็นลู่ทาง จึงไม่รอช้าที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่ง บิล เกตส์ เคยบอกไว้ว่าหากวันนั้น Microsoft ล้มเหลว เขาก็ยังสามารถกลับมาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้เสมอ
ปัจจุบัน จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ บิล เกตส์ เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 96,500 ล้านดอลลาร์ (3.08 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ เขายังก่อตั้งมูลนิธิ "Bill and Melinda Gates" เพื่อช่วยเหลือปัญหาทางสังคมอีกด้วย
สตีฟ จ็อบส์ (Steves Jobs)
สตีฟ จ็อบส์ ใช้เวลาในมหาวิทยาลัย Reed เพียงแค่เทอมเดียวเท่านั้น ก็ตัดสินใจลาออกมาทำงาน ก่อนที่ต่อมาจะก่อตั้ง Apple Inc. ซึ่งเขาให้เหตุผลที่ตัดสินใจลาออกในตอนนั้นว่า เพราะค่าเรียนที่แพง เขาอยากช่วยครอบครัวประหยัดค่าใช้จ่าย จึงเลือกที่จะลาออกมาทำงานดีกว่า แม้ตอนนั้นเขาจะสับสนมากก็ตามว่าควรตัดสินใจอย่างไร
ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาได้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย แต่ จ็อบส์ เคยพูดไว้ว่า เมื่อมองกลับไปมันเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมาก เพราะเขาได้มีโอกาสเรียนวิชาออกแบบตัวอักษร ทำให้เครื่องแมคอินทอช กลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มีการวางตัวอักษรอย่างสวยงาม จนเป็นต้นแบบให้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก
โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel)
ดีไซเนอร์และแฟชั่นนิสต้าสาว เจ้าของแบรนด์ดัง Chanel เธอประสบความสำเร็จ ทั้งที่ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนมหาวิทยาลัย เพราะเติบโตมาในครอบครัวยากจนและกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เธอจึงต้องหาเลี้ยงชีพจากการเย็บผ้ามาเรื่อย ๆ จนสามารถพาตัวเองมาสู่ความสำเร็จ สร้างแบรนด์ Chanel โด่งดังไปทั่วโลก และ โคโค่ ชาแนล ยังเคยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 100 คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 จากนิตยสารไทม์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson)
อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการลูกหนัง ด้วยความมุ่งมั่น ทำงานหนักอยู่เสมอ ทำให้เขาเป็นผู้ที่พาลูกทีมคว้าแชมป์มากมาย แม้ว่าก่อนเริ่มอาชีพผู้จัดการทีมจะไม่เคยจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเลยก็ตาม แต่เชื่อไหมว่าปัจจุบัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังต่าง ๆ ถึงแปดใบแล้ว
เจมส์ คาเมรอน (James Cameron)
ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย เช่น Terminator, Titanic และ Avatar โดยเขาได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย California ในสาขาฟิสิกส์ แต่แล้วเมื่อขึ้นชั้นปีที่ 2 กลับค้นพบว่า ตัวเองไม่ได้รักในสิ่งที่กำลังเรียนเลย การทำภาพยนตร์ต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เจมส์ เลยตัดสินใจดรอปเรียน ออกมาเลี้ยงชีพด้วยการขับรถบรรทุก แล้วใช้เวลาว่างหัดเขียนบทและขยันเข้าห้องสมุดเพื่อศึกษางานด้านภาพยนตร์ให้เชี่ยวชาญ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้กำกับชื่อดังอย่างทุกวันนี้
แลร์รี่ เอลลิสัน (Larry Ellison)
มหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินกว่า 5.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (1.72 ล้านล้านบาท) จากการก่อตั้งบริษัท Oracle ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และฐานข้อมูลระดับโลก ย้อนกลับไปในวัยหนุ่ม แลร์รี่ เอลลิสัน ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเขาเรียนในมหาวิทยาลัย Illinois แต่ต้องลาออกกลางคัน เพราะแม่บุญธรรมเสียชีวิตลง จากนั้นย้ายมาเรียนด้านคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Chicago อยู่ 1 เทอม แล้วก็มีเหตุจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ทางเหนือของ California เขาจึงไม่ได้เรียนต่ออีกเลย
โอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey)
ก่อนจะมาเป็นพิธีรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ชีวิตของ โอปราห์ วินฟรีย์ อาจไม่ได้สวยหรูนัก ต้องทำงานหาเงินและเรียนไปพร้อม ๆ กัน แม้เธอจะได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Tennessee ก็ตาม จนเมื่อเธอได้รับโอกาสให้จัดรายการในสถานีวิทยุท้องถิ่น เธอจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยทันที เพื่อหันมามุ่งมั่นให้กับงานพิธีกร
ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell)
มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท Dell Inc. ผู้ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ชื่อดัง สมัยวัยหนุ่มเขาได้เข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Texas เพราะพ่อแม่ของเขาอยากให้เป็นหมอ แต่เขากลับชื่นชอบในเรื่องเทคโนโลยีและการทำธุรกิจมากกว่า จึงมักใช้เวลาช่วงปิดเทอมลองทำธุรกิจต่าง ๆ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจขอครอบครัวดรอปเรียน เพื่อจะออกมาทำธุรกิจแบบเต็มตัว ด้วยการแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำสามารถประสบความสำเร็จ และเลี้ยงดูตัวเองได้
ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) .
ริชาร์ด แบรนสัน หันหลังให้กับการเรียนในระบบตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย เพราะเชื่อว่าการเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย อาจจะไม่มีประโยชน์ หากเขาต้องการเป็นนักธุรกิจ แต่การออกไปเจอกับโลกการทำงานจริง ๆ แล้วค่อย ๆ เรียนรู้ จะช่วยให้เขาประสบความสำเร็จได้มากกว่า จนในที่สุดเขาก็สามารถสร้างค่ายเพลงชื่อดังอย่าง Virgin ให้เป็นที่รู้จัก และได้ขยายธุรกิจของ Virgin ออกไปมากมาย ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน วิทยุ สุขภาพ หนังสือ และธนาคาร
ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายชัดเจนและมุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นอย่างทุ่มเท กระทั่งเมื่อมีโอกาสเข้ามา พวกเขาจึงไม่ลังเลจะรีบคว้ามันเอาไว้ ฉะนั้น ใครที่กำลังคิดว่าจะรีบไปยื่นใบลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาทำตามความฝันบ้าง อย่าลืมถามตัวเองให้ดีก่อนว่าคุณพร้อมหรือยัง เพราะความฝันอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีความพร้อมด้วย และไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้
โฆษณา