2 มี.ค. 2020 เวลา 08:56 • ประวัติศาสตร์
จูดาสคือใคร ทำไมเราใช้คำนี้มาเรียกแทนคนทรยศ ก่อนจะไปว่าถึงเชิงฟุตบอล วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าแบ็กกราวน์ให้ฟังก่อนในเชิงประวัติศาสตร์
พรุ่งนี้ ใน Blockdit ผมจะลงเรื่องนักเตะคนหนึ่งที่ถูกขนานนามว่าเป็นจูดาสนะครับ
ดังนั้นวันนี้จึงอยากจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า จูดาส ที่เราชอบพูดถึงในวงการฟุตบอลเนี่ยะ ที่เราเอาไว้เรียก คนที่ทรยศทีมของตัวเอง จริงๆแล้วในหน้าประวัติศาสตร์ เขาคือใครกันแน่
ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะพอทราบอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้อ่านที่เป็นคริสต์ อย่างไรก็ตาม ผมขออนุญาตหยิบเรื่องนี้มาอธิบายให้ฟังอีกรอบนะครับผม
ปัจจุบัน คือปี ค.ศ.2019 ยุคนี้ สหรัฐอเมริกา คือชาติที่เรืองอำนาจที่สุดในโลก
แต่หากย้อนกลับไป สองพันกว่าปีที่แล้ว ในยุโรป อาณาจักรที่ครองความยิ่งใหญ่ กึกก้องปฐพี คือ อาณาจักรโรมัน
อาณาเขตของโรมันกว้างใหญ่ไพศาล ครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ อังกฤษ สเปน อิตาลี ยาวไปจนถึงอียิปต์ ตุรกี และ อิสราเอล
ปี ค.ศ.1 ทารกชาวยิว ชื่อเยซู ประสูติลงมาบนโลก ที่เมืองเบ็ธเลเฮม ในแคว้นยูเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองขึ้นของโรมัน
พระเยซู หลังจากเกิดที่เบ็ธเลเฮม ได้เดินทางไปอียิปต์ช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับมาที่อิสราเอลอีกครั้ง และอาศัยอยู่ที่เมืองชื่อนาซาเร็ธ
ในเวลาต่อมา พระเยซู ได้ประกาศว่าตัวเขาคือบุตรของ พระผู้เป็นเจ้า เป็นผู้ไถ่บาปของมวลมนุษย์ (Messiah) ตามคำทำนายของศาสนายูดาย เขามาเพื่อเป็นกษัตริย์ในอาณาจักรของพระเจ้า
คำสอนของพระองค์ ในระยะเวลา 3 ปี ก็กระจายไปทั่วแผ่นดิน โดยพระเยซูต้องการให้ผู้คนมีความรัก ความหวังดี และให้อภัยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
แต่ในมุมมองของประชาชน ก็ไม่เข้าใจว่า อาณาจักรของพระเจ้าคืออะไร ชาวบ้านแค่ชื่นชอบพระเยซู และพยายามผลักดันให้ พระองค์ เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ที่จะปลดแอกจากการปกครองของโรมัน
1
ชื่อเสียงของพระเยซู เริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ พระองค์กับสาวกทั้ง 12 คน ได้เผยแผ่คำสอน ไปทั่วแคว้น โดยมีเป้าหมายให้โลกมนุษย์เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และความเมตตา
ทางการโรมัน ไม่ได้เห็นว่า พระเยซู เป็นภัยคุกคามก็จริง แต่ปัญหาคือ กลุ่มชาวยิวอำนาจเก่ามองว่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้ พระเยซู จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และอาจมาแทนที่ ขุมอำนาจเดิมก็เป็นได้
ดังนั้นกลุ่มอำนาจเก่า จึงวางแผนการ จับกุมตัวพระเยซู ไปส่งทางการโรมัน ให้สำเร็จโทษ โดยเตรียมยัดข้อหาให้ ว่า พระเยซู พยายามตั้งตัวเป็นกษัตริย์ เสมอจักรพรรดิ์ซีซาร์
กลุ่มอำนาจเก่า ต้องการล่าตัวพระเยซู แต่ไม่รู้ว่าพระเยซูอยู่ไหน และยังไม่รู้ว่าคือคนไหนด้วยซ้ำ เมืองเยรูซาเล็มกว้างใหญ่นัก
แต่อันตราย บางทีก็อยู่ใกล้กว่าที่เราคิด
จูดาส อิสคาริโอท เป็น 1 ใน 12 อัครสาวก ของพระเยซู ได้แอบลักลอบไปหากลุ่มอำนาจเก่า แล้วถามว่า "ถ้าข้าพเจ้ามอบเขาให้ท่าน ท่านจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้า" ซึ่ง จูดาสได้เหรียญเงิน 30 เหรียญเป็นการตอบแทน
จากนั้น จูดาส ได้นำพาทหาร ไปจับกุมพระเยซู ทหารถามว่า จะได้รู้อย่างไร คนไหนคือเยซู จูดาส ตอบกลับว่า เราจูบแก้มใคร นั่นล่ะคือพระเยซู
จูดาส นำทหารที่มีอาวุธครบมือ ไม้ตะบอง ก้อนหิน สายโซ่ มายังที่สวนมะกอก เกสเซมานี่ ที่ๆพระเยซู ทำการภาวนาหลังอาหารค่ำ
เมื่อพบตัว จูดาสจูบแก้มพระเยซู เป็นสัญญาณให้ทหารจับกุมตัวพระเยซูเอาไว้ ก่อนจะส่งต่อให้ทางการโรมันต่อไป
จากนั้นมา ทางโรมันก็โดนกดดันให้ประหารพระเยซู สุดท้าย พระเยซูจึงโดนประหารด้วยการตรึงกางเขน เอาตะปู ตอกมือ ตอกเท้า จนสิ้นพระชนม์ในที่สุด
ก่อนที่อีก 3 วันต่อมา พระเยซู จะคืนชีพ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของคริสตศาสนา
มีทฤษฎีมากมายว่า จูดาส หักหลังพระเยซู เอาที่อยู่ไปบอกทหาร เพราะอะไรกันแน่ บ้างก็ว่า เขาเจ็บใจแค้นที่เคยถูกพระเยซูฉีกหน้า บ้างก็ว่า เขาต้องการให้พระเยซูโดนจับ เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้โลกเห็น บ้างก็ว่า เป็นสิ่งที่พระเยซูกำหนดเอาไว้แล้ว บ้างก็ว่าจูดาสโลภ เห็นแก่เงิน
แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร มันก็เปลี่ยนความจริง ที่ว่าจูดาส หักหลัง พระเยซู ไปไม่ได้
ภาพวาด The Last Supper ของลีโอนาร์โด้ ดาวินชี่ เล่าเหตุการณ์ถึง พระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้าย ที่พระเยซู กับ อัครสาวก กินอาหารจานเดียวกันอยู่ แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง จูดาส ตัดสินใจทรยศกันอย่างเลือดเย็น
1
และนั่นทั้งหมดคือเหตุผล ว่าทำไมชื่อของจูดาส จึงเอามาแทนที่ของคนที่หักหลัง หรือคนทรยศ
บทสรุปของเรื่องนี้ คือชีวิตนี้เราต้องระวังตัว
ที่ที่ปลอดภัยที่สุด อาจเป็นที่ที่อันตรายที่สุดก็ได้ ใครจะไปรู้
#Judas
โฆษณา