Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มีเวลาสักห้านาทีมั้ย
•
ติดตาม
3 มี.ค. 2020 เวลา 04:00 • ปรัชญา
ผมต้องการหมาตัวนี้
คุณลุงเจ้าของร้านสัตว์เลี้ยงเพิ่งจะได้หมาคอกใหม่มาหลายตัว เขาเขียนป้ายติดหน้าร้านอ่านได้ว่า ‘มีลูกหมาน่ารักขาย’
ป้ายธรรมดา ๆ เขียนด้วยลายมือนั้นสะดุดตาเด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียน เด็กชายยืนนิ่งอ่านป้ายนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาเขย่งเท้ามองผ่านกระจกเข้าไปในร้านเห็นสัตว์เลี้ยงในกรงหลายตัว เขายืนนิ่งสักครู่เหมือนคิดอะไรในใจ หลังจากตัดสินใจได้เขาหันหน้าเดินกลับบ้าน
ในวันถัดมาเด็กชายคนเดิมเดินเข้ามาในร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งนั้น เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ตรงประตูทำให้คุณลุงเงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชีตรงหน้า
“สวัสดีหนู มีอะไรให้ช่วยมั้ย?”
“เอ่อ...ผมอยากได้ลูกหมาครับ” เด็กชายพูดพร้อมกับชี้มือไปที่ป้ายหน้าร้าน “คุณลุงขายตัวละเท่าไหร่ครับ?”
“อ๋อ อยากได้ลูกหมานี่เอง ตัวถูกสุดก็สามพัน แพงสุดก็ห้าพันบาท”
เด็กชายปลดเป้สะพายลงจากบ่า เปิดซิปแล้วล้วงหยิบเอากระเป๋าสตางค์ใบเล็กออกมา เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร้าน
“ผมมีเงินอยู่แค่ห้าร้อยเจ็ดสิบบาทครับ แต่ผมขอดูพวกมันหน่อยได้ไหมครับ?”
ลุงมองลอดแว่นลงมาที่เด็กน้อย ครุ่นคิดแล้วฉีกยิ้มให้
“ได้สิ” ลุงผิวปากดังฟิ้ว หลังจากงั้นหมาตัวเมียสีขาวก็วิ่งเหยาะ ๆ ออกมาจากหลังร้าน ตามหลังมาเป็นพรวนคือลูกหมาตัวเล็กขนปุยหลายตัว สีสันและลวดลายต่างกัน ทุกตัววิ่งซนไปมารอบ ๆ แม่ของพวกมัน
ที่เดินเตาะแตะออกมาหลังสุดคือตัวที่มีรูปร่างเล็กและผอมบางกว่าตัวอื่น มันใช้สองขาหน้าลากสองขาหลังที่อ่อนปวกเปียกออกมาอย่างเชื่องช้า มันคลานมาถึงกลางห้องแล้วหมอบลงนิ่ง หูลู่ลงตาละห้อยไม่ซนเหมือนพี่น้องตัวอื่น
“ตัวนั้นมันเป็นอะไรครับ?” เด็กชายถามด้วยความสงสัย
ลุงเจ้าของร้านทำหน้าเศร้า เขาอธิบายว่ามันโชคร้ายเกิดมาโดยไม่มีกระดูกสะโพก อย่าว่าแต่วิ่งเลยแค่ให้ยืนด้วยสี่เท้าก็ทำไม่ได้ มันต้องอยู่ในสภาพนี้ไปตลอดชีวิต
หน้าตาของเด็กชายดูสดใสขึ้นทันใด เขาฉีกยิ้มกว้าง “ถ้างั้นผมเอาตัวนี้ครับ”
ด้วยความประหลาดใจ เจ้าของร้านรีบพูด “ไม่หรอกหนู หนูคงไม่ได้อยากได้มันหรอก เลือกตัวอื่นเถอะ เดี๋ยวลุงลดราคาให้ก็ได้ เจ้าตัวนี้น่ะให้ฟรีก็คงไม่มีใครเอา”
เด็กชายมีหน้าตาหมองลง เขามองลูกสุนัขพิการตัวนั้นอย่างครุ่นคิดแล้วเงยหน้ามองเจ้าของร้านพร้อมน้ำตาที่รื้นขึ้นมาที่สองตา
“ผมอยากได้ตัวนี้” เขาพูดเสียงชัดเจน “แต่ผมไม่อยากได้มันฟรี ๆ ผมมีตังค์อยู่ห้าร้อยเจ็ดสิบบาทครับ แต่หลังจากนี้ทุก ๆ วันตอนเดินกลับบ้านผมจะเอาตังค์มาให้คุณลุงวันละสิบบาทจนกว่าจะครบ”
คราวนี้คุณลุงเจ้าของร้านมองเด็กชายอย่างพินิจพิเคราะห์มากขึ้น “หนูรู้ใช่มั้ยว่ามันจะไม่มีวันเหมือนหมาตัวอื่น หนูรู้ใช่มั้ยว่ามันจะเป็นหมาพิการไปตลอด และมันไปวิ่งเล่นกับหนูอย่างหมาตัวอื่นก็ไม่ได้”
เด็กชายจ้องตาคุณลุงแต่ไม่ตอบอะไร เขาก้มลงดึงขากางเกงข้างหนึ่งขึ้น ข้างในนั้นเป็นขาที่เล็กลีบและบิดงออย่างน่ากลัว มันถูกดามไว้ด้วยโครงเหล็กและข้อต่อหลายชิ้น
“ผมก็ไม่ค่อยจะได้วิ่งเล่นอยู่แล้วครับ ผมคิดว่ามันน่าจะเข้าใจผม เราน่าเป็นเพื่อนกันได้”
ผู้คนมองสรรพสิ่งด้วยสายตาที่ต่างกัน ของที่เราขวนขวายพยายามหามาให้ได้อาจดูไร้ค่าในความคิดของคนอื่น เช่นกันกับของที่เรามองว่าไม่มีราคาแต่นั่นอาจจะเป็นโลกทั้งใบของคนอีกคนหนึ่งก็ได้
===========================
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเราเจอเรื่องแปลก ๆ หลายเรื่อง ทั้งเรื่องความรุนแรง การฆ่าแกงกันแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดในประเทศที่งดงามของเราได้ เรื่องเชื้อโรคร้ายที่กำลังทำท่าจะไปกันใหญ่และรุนแรงกว่าที่คาด แถมเรื่องโดมิโนที่เรากำลังจะได้เห็นจากผลที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคร้ายนั้น
เสพสื่ออย่างมีสติ ไม่จำเป็นต้องติดตามทุกข้อมูล ไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกข่าว ระวังตัวได้และควรต้องทำแต่อย่าหมกมุ่น อย่าลืมว่าเรายังมีชีวิตต้องใช้ ยังมีคนที่รอบข้างที่รอรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเราอยู่
มอบเรื่องดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ ให้กันบ้าง เจอหน้าเพื่อนที่ทำงานลองไม่คุยเรื่องไวรัส หันไปคุยเรื่องอื่นบ้าง เรื่องซื้อของชิ้นที่สองหนึ่งบาทที่วัตสันก็ได้ ผมว่ามันก็ช่วยเยอะเลยนะ
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ให้ได้ยิ้มได้หัวเราะกันทุกวันครับ
===========================
อ้างอิง:
จากเรื่องเล่าดี ๆ ที่เคยอ่าน ไม่ทราบผู้แต่ง
ภาพประกอบ A Boy Meets His Dog โดย Norman Rockwell (February 03, 1894 – November 08, 1978)
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย