3 มี.ค. 2020 เวลา 02:31 • ครอบครัว & เด็ก
ในวันที่ลูกฉันเป็นดาวน์ซินโดรม
อยากมาแชร์ประสบการณ์และให้กำลังใจคุณแม่ที่มีลูกเป็นดาวน์ซินโดรม แอลเป็นผู้หญิงอายุ32ปีแต่งงานกับสามีมา6เดือน อยากมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ เวลาผ่านไปจนทราบว่าตัวเองท้องตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก
ปกติกับสามีเราอยู่ห่างกัน สามีเป็นทหารต้องไปทำงานที่จ.ยะลา. เราอยู่จ.ตรังเดินทางราวๆ4-5ชม. พอทราบว่าตัวเองท้องดีใจมากโทรไปบอกสามี สามีก็ดีใจมากเช่นกันรีบลางานพาเรามาฝากท้อง
เวลาผ่านไปเหมือนจะดีมากในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้สามีดูแลดีแม้ว่าจะห่างไกลกัน และกำลังจะมีชีวิตน้อยๆเป็นโซ่ทองคล้องใจเราทั้งคน อายุครรภ์เราได้ราวๆ6เดือนหมออัลตร้าซาวน์พบน้ำคร่ำมากผิดปกติ เราเองก็รู้สึกเหนื่อยบ้างเวลาเดินเยอะๆแต่คิดว่าเป็นปกติของคนท้อง เราเป็นพยาบาลไตเทียมอาจจะต้องเดินมากกว่าคนอื่นนิดนึง
ด้วยความที่เราเป็นพยาบาลก็กังวลทันทีเพราะคิดแล้วว่าแบบนี้มันต้องมีความผิดปกติอะไรสักอย่าง. หมอให้เราไปตรวจน้ำตาลกลัวว่าจะเป็นเบาหวาน ใจเราอยากให้เป็นเบาหวานมากเพราะสุดท้ายแล้วลูกถ้าเราคุมน้ำตาลดีๆ จะไม่มีอะไรเค้าจะแข็งแรงดี แต่ตัวคุณแม่เองจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานได้มากกว่าคนปกติ
ผลการตรวจไม่เป็นเบาหวาน เรากังวลใจมากถ้าไม่ใช่เบาหวานแล้วเป็นอะไร เอาผลไปให้หมอดูอีกครั้ง คราวนี้หมอบอกว่าคงต้องไปตรวจอย่างละเอียดที่รพ.มอ.หาดใหญ่.......
3
ค่อยมาต่อ....ลูกตื่น(เค้าคือกำลังใจน้อยๆของแม่)
ต่อนะค่า....ดีใจมีคนตามด้วยถึงแม้จะเป็นโพสแรก
เราไปตรวจที่รพ.มอ.หาดใหญ่แน่นอนว่าสามีลางานพามาตรวจ ที่มอ.หมอตรวจMFMให้มันเป็นการตรวจเด็กในครรภ์แบบละเอียดถี่ถ้วนถึงความผิดปกติทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและอวัยวะภายในเด็ก.
ใช้เวลาในการตรวจราวๆ4ชม. ใช้หมอ3คนเพื่อหาว่าผิดปกติตรงไหน ช่วงท้ายคุยกับอ.หมอเพลินจนแกรู้ว่าเราเป็นพยาบาล. แกเลยบอกว่าไปตรวจNIPTทิ้งไว้สิ ตอนนี้ไม่เจออะไรเลย
เด็กโครงสร้างปกติดีเจอน้ำในหัวใจนิดนึงแต่ถือว่าไม่มีอะไร เด็กปกติบางคนก็เจอ
เราก็มาตรวจNIPTทิ้งไว้ ค่าใช้จ่ายราว13,000บาท ตอนนั้นคิดว่าลูกเราไม่เป็นอะไรมากหรอก คือใจชื้นขึ้นมาหน่อย ผลหมอก็เร่งให้เร็วที่สุดปกติแล้วใช้เวลา1เดือนแต่คราวนี้2อาทิตย์ทราบผลเลย หมอโทรมาก่อนวันนัดบอกว่าผลเลือดผิดปกติ อยากให้มาเจาะเลือดเพื่อตรวจแบบละเอียดหรือที่เรียกว่าSNIPT
เราตอนนั้นคือร้องไห้ออกมาเลย. คิดว่ามันต้องร้ายแรงมากแน่ๆพอทราบผลแล้วหมอโทรหาเลย
1
ไปเจาะเลือดเพิ่ม หมอบอกว่าปกติแล้วผลNIPTคลาดเคลื่อนแค่1-2%เท่านั้นที่จะผิดพลาด ใจเสียมากเจาะเลือดรอบ2นี้ไม่รู้สึกอะไรเลย ขับรถกลับบ้านนี่ใจลอยถึงขนาดผ่าไฟแดง. กลับบ้านโทรหาสามีแล้วบอกว่าอย่างน้อยยังมี1%ให้ลุ้น
1
เราเอาผลมาพบอ.หมอ และทำMFMเหมือนเดิมใจชื้นที่ว่าไม่เจออะไรผิดปกติ. เรายังหวังได้กับ1%นั้น
ผลSNIPTออก... อ่านค่าไม่ได้เนื่องจากอายุครรภ์เยอะหมอที่ตรังบอกให้ไปปรึกษากับทางมอ.แต่ยังไงเค้าก็ไม่กล้าทำอะไรกลัวเด็กในท้องได้รับอันตราย
เราเอาผลไปหาคุณหมอที่มอ.เพื่อปรึกษาเพราะมีทางเดียวที่เราจะรู้คือเจาะสายสะดือทารกแต่ก็เสี่ยงอันตรายกับแม่และเด็ก เราไม่รู้จะไผทางไหนต่อเลย หันมาปรึกษากับสามี
และคำตอบของสามีครั้งนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเราอย่างน้อยเราโชคดีมากที่เราเลือกคู่ชีวิตเป็นคนนี้ เค้าบอกว่าเก็บลูกไว้เถอะ เค้าเลือกมาเกิดกับเราแล้ว เค้าคงรู้ว่าเราเป็นพ่อแม่ที่แสนพิเศษให้เค้าได้ ไม่ว่าลูกจะเป็นแบบไหนเรามาเป็นพ่อแม่ที่แสนพิเศษให้ลูก
จริงๆแล้วเรายังมีหวังอยู่อีกนะว่าที่เค้าอ่านค่าไม่ได้นั้นเราอาจจะมีหวัง ช่วงก่อนคลอดเราจึงพยายามอารมณ์ดี ไม่คิดมากได้กำลังใจจากสามีซึ่งเป็นคนคิดบวกมากตลอด
4
กำหนดคลอดเรา19ธค62. แฟนลางานมาเพื่อรอเราคลอด อยากคลอดธรรมชาติเพราะถ้าเด็กคลอดธรรมชาติช่องคลอดจะช่วยรีดน้ำทำให้ช่วยลดปัญหาเรื่องเหนื่อยในเด็กหลังคลอดได้. แต่รอแล้วรอเล่าจนวันที่20เราก็ยังไม่ปวดท้องไม่มีอาการที่บอกว่าใกล้คลอดเลย เลยให้สามีกลับไปทำงาน เราพูดติดตลกว่าสามีต้องกลับไปทำงานก่อน เดี่ยวลูกคลอดแน่เพราะอยากแกล้งพ่อให้ขับรถเล่น
เหมือนแกล้งจริงๆสามีกลับยะลา20เช้า
พอ5ทุ่มคืนนั้นน้ำคร่ำแตก แต่เราไม่ปวดท้องอะไรเลย
รุ่งเช้าปากมดลูกก็ยังไม่เปิดได้ยาเร่งคลอด มันก็ยังไม่เปิด คืนนั้นหมอมาดูบอกถ้าพรุ่งนี้ยังไม่เปิดคงต้องเอาไปผ่าคลอด (ลืมเล่าความน่ารักของสามีพอเราโทรหาปุ๊บขับรถจากยะลามารอคลอดเลย ถึงแม้จะรู้ว่ารพ.รัฐเค้าให้รอหน้าห้องให้ฐาติเยี่ยมเป็นเวลา)
รุ่งเช้าลูกยังแกล้ง พอจะผ่าปากมดลูกดันเปิดเป็น4cm. เราเลยรอคลอดเอง ประมาณ4โมงเย็นปากมดลูกเปิดครบ10cm. เข้าไปห้องเตรียมคลอดเบ่งอยู่ครึ่งชม. หัวเด็กไม่ออก อ.หมอบอกช่องเชิงกรานแม่เล็ก ลูกหัวใหญ่ ต้องใช้เวลาเบ่ง แต่ไปผ่าก็ดี ให้เราเลือก เราเลยถามอ.หมอว่าอย่างไหนดีสุด หมอบอกณตอนนี้ผ่าน่าจะดีกว่า. สรุปเราผ่าคลอดตอน16.30น.
4
สิ่งแรกที่เรารู้สึกตัวถามหาสามีว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง สามีบอกว่าลูกอยู่เนอสเซอรรี่ของรพ. หายใจเหนื่อยใส่ออกซิเจนแบบกล่องอยู่จากการเป็นพยาบาลเราคลายความกังวลได้บ้างว่าลูกโอเคระดับนึงเพราะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ เช้ารุ่งขึ้นเรารีบไปหาลูกทันทีแต่ความยากของมันอยู่ที่แผลผ่าคลอด ปวดมากกว่าจะก้าวขาแต่ละที แต่ความเป็นแม่มันทำได้ทุกอย่างเลยจริงๆเราพยายามนั่งรถเข็นไปดูลูก
4
สิ่งแรกที่เห็นแวปแรกเลย หน้ามันใช่ใจแป้ว. ลูกเราเป็นดาวน์ซินโดรม คนทั่วไปอาจจะลังเลว่าแน่มั้ย เพราะหน้าตายังก้ำกึ่ง แต่ประสบการณ์การเป็นพยาบาลมา10ปีเราเริ่มรู้แล้วว่าเราต้องเป็นพ่อแม่ที่แสนพิเศษนี้ให้ลูกคนนี้
1
จริงๆแล้วเราอยากปล่อยโฮร้องไห้ตรงนั้น แต่สงสารสามีเรามองตากันเหมือนสื่อสารกันว่าลูกเราพิเศษกว่าคนอื่น แต่จริงๆเราแอบร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก แต่ก็มีกำลังใจสามีและคนรอบข้าง ตอนที่เขียนยังมีร้องไห้ ยังคิดว่าอีก30ปีเราจะอายุ62 ถ้าเราตายไปในช่วงนี้ลูกจะอยู่ยังไง ตอนนี้เราเป็นโลกทั้งใบของลูก.เราจะทำอย่างไรให้ลูกอยู่บนโลกใบนี้ได้ด้วยตัวเอง ...
3
ค่อยมาต่อว่าเราเปลี่ยนแผนชีวิตอย่างไรตอนนี้น้ำตาท่วมจอค่ะ
โฆษณา