3 มี.ค. 2020 เวลา 06:58 • ไลฟ์สไตล์
วิธีการผ่านการอกหักครั้งแรกของชีวิต
ผ่านมาจะ4 เดือนแล้วนะกับการตัดสินใจ
ก็เลือกแล้วนิที่จะตัดสินใจให้เค้าออกจากชีวิต นี่คือคำพูดที่อยู่ในสมองเราตลอด เพื่อจะผ่านมันไปให้ได้
2อาทิตย์แรกไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ทำทุกอย่างที่คิดว่าทำแล้วมันเจ็บที่สุด ร้องไห้ฟังเพลงเศร้า ดูรูปเก่าๆ คิดถึงเรื่องเก่า ทำให้หมดทุกอย่างที่คิดว่าทำแล้วเราจะเสียใจที่สุด คิดถึงเค้าให้มากที่สุด คิดถึงแต่สิ่งดีๆที่เค้าทำให้ ให้เพื่อนส่งรูปที่เค้าไปกับคนใหม่มาให้เราดูไม่ต้องกลัวว่าเราจะเสียใจ เราเลือกที่จะใช้วิธีแบบนี้ และบอกกับตัวเองว่าเราจะให้เวลาเสียใจที่สุด2อาทิตย์ ทำได้ไม่ได้เดี๋ยวค่อยว่ากัน
เข้าอาทิตย์ที่3 เราเริ่มถามตัวเองที่เสียใจมันสุดแล้วหรือยังพร้อมจะลุกขึ้นเดินหน้าได้และรักตัวเองไหมเราเริ่มใช้เวลาที่นอนไม่หลับตอนกลางคืนมาทบทวน ว่าที่เราคบกันที่ผ่านมามีข้อดีข้อเสียอะไร และถ้าคบต่อไปอนาคตคืออะไร ระหว่างที่คบกันเราทำดีที่สุดหรือยังเราดูแลเค้าดีที่สุดไหม เรารักเค้าสุดหัวใจหรือเปล่า และเค้าดูแลเราดีไหมกับที่ผ่านมา เราพร้อมจะฝากชีวิตกับเค้าได้ไหม เขียนมันออกมาให้หมด และบอกกับตัวเองว่าถ้าข้อดีมากกว่าข้อเสียถือว่าเราเป็นคนที่ทิ้งรักดีๆนี้ไปเอง ถ้าจะไม่เหลือใครก็ต้องอดทนก้าวเดินต่อไปให้ได้ หลังจากนั้นเราได้คำตอบให้กับตัวเอง เราเริ่มมูฟออนทันที
สิ่งแรกเราเก็บของทุกชิ้นของเค้า “ย้ำว่าทุกชิ้น”ออกจากชีวิตเรา เอาทุกอย่างใส่กล่องและปิดให้แน่นที่ไม่สามารถจะเปิดมันออกมาได้ เปลี่ยนการจัดห้องใหม่ รวมถึงเตียงนอนเราเปลี่ยนทุกอย่างที่ไม่หลงเหลือแบบเดิมเลย ต่อมาเราปิดทุกช่องทางการรับรู้ในเรื่องของเค้า ไม่ดู ไม่ส่อง ไม่พูดถึงและขอเพื่อนทุกคนถ้าจะคุยกับเราห้ามพูดถึงชื่อนี้และเราเองก็จะไม่พูดถึง นอกจากบางอย่างที่เพื่อนอยากรู้ความจริงถามเราได้แต่จะไม่ตอบพรำ่เพื่อ เราเองติดต่อกับเค้าเฉพาะเรื่องของธุรกรรมทางการเงินที่เราต้องคืน
เมื่อเราไม่ต้องรับรู้เรื่องของเค้าและได้อยู่กับเพื่อน เริ่มไม่นึกถึง แต่จะมีบ้างที่จะนึกถึงเค้าตอนที่อยู่คนเดียว เราพยายามดึงตัวเองออกจากความคิดนั้นและหาอย่างอื่นทำทันที อะไรที่ทำตอนนั้นแล้วมีความสุขเราทำหมด และใช้วิธีคิดบวกให้กับตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ง่ายที่เราจะทำได้ แต่เราเลือกใช้วิธีที่คิดว่ามันดีกับเราที่สุด คือคิดบวกเราจะบอกตัวเองเสมอว่าจะเสียใจกับเรื่องแบบนี้ทำไม เอาเวลาไปทำงานให้ชีวิตมันเดินหน้าต่อไปดีกว่า เราเริ่มลุยงานทุกชนิดที่เพื่อนแนะนำและลูกค้าต้องการ งานเดิมเราไม่ทิ้ง แต่เราทำมันมากขึ้น
วิธีที่ทำมาทั้งหมดนั้นถามว่าลืมได้ไหม มันก็ยังมีบ้างเวลาที่เราไปในสถานที่เดิมๆที่เคยไป ในเมื่อเรากลัวการไปสถานที่เดิมๆที่เคยไปกับเค้าใช่ไหม เราแก้ไขปัญหานี้ด้วยการไปมันทุกที่ที่เคยไปกับเค้าและไปมันบ่อยๆจนเราไม่รู้สึกกลัว แต่การไปบ่อยๆกับเพื่อนทำให้เราลืมสิ่งที่เคยมากับเค้าได้ วิธีนี้ตอนแรกคิดว่าไม่ได้ผลอ้าวกับได้ผล มันดีมากสำหรับเรา และเรากลับมาใช้ชีวิตการไปร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือสถานที่ใหม่ๆกับเพื่อนๆได้โดยที่ไม่นึกถึงอดีตได้เลย และนี่ก็ใช่ว่าเรามูฟออนได้ เรายังมีคำถามอีกมากมายในหัวเหมือนเดิม
ไงล่ะทีนี้งานยุ่งไปหาเพื่อนก็ไม่ได้ เรื่องในอดีตก็แวบๆมาให้นึกถึง คิดบวกก็แล้ว เปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเดิมก็แล้ว ทำงานแบบบ้าคลั่งก็แล้ว ยังๆชีวิตยังไม่หลุดจากเรื่องเดิมๆ เราเลยคิดเอาละเหลือวิธีสุดท้าย พึ่งธรรมะแล้วกัน
วันแรกเราเริ่มคิดถึงกฎแห่งกรรม เราอ่านทุกอย่างที่เป็นกฎแห่งกรรม จิตใจเราเริ่มนิ่งและมีสติมากขึ้น แต่ทั้งหมดเราเลือกที่จะใช้สติและความเข้าใจในการดำเนินชีวิต ธรรมะได้สอนการให้อภัย หลังจากที่ใจเราให้อภัยและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่มองกลับไปหาอดีต เราเลือกมองแต่อนาคต สรุปเราผ่านมันได้ กับคำว่าให้อภัย และมีสติ เราเชื่อแล้วว่าการใช้ธรรมะในช่วงเวลาที่ใจเราพร้อม เราจะได้ความสุขที่แท้จริงกลับมา การไม่โกรธ ไม่อิจฉา ไม่เอาชนะ ไม่ว่าร้ายคนอื่นมันทำให้ใจเราบริสุทธิ์ เมื่อใจเราบริสุทธิ์ ก็จะดึงคนที่ดีมาหาเราด้วย นี่แหละวิธีที่ทำให้เราผ่านมันมาได้
ก็แค่อกหักจะทุกข์ทำไม เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ล้มแล้วก็รีบลุก อย่าไปคิดว่าเสียเวลาตั้งหลายปีในอดีต แต่ให้คิดเราตัดสินใจวันนี้เพื่อไม่เสียเวลาในอนาคต น๊าทุกคน
โฆษณา