Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
การทูตและการทหาร Military & Diplomacy
•
ติดตาม
4 มี.ค. 2020 เวลา 14:32 • ประวัติศาสตร์
เกร็ดประวัติศาสตร์ 75 ปี วันแห่งชัยชนะ (1) : จุดอ่อนของรถถัง T-34 และหน่วยรถถังโซเวียตช่วงต้นปฏิบัติการบาร์บารอสซ่า
วันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ เป็นวันครบรอบ 75 ปี วันแห่งชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมนี ในสงครามโลกครั้งที่สองหรือที่รัสเซียเรียกว่ามหาสงครามรักชาติ The Great Patriotic War ปีนี้รัสเซียตั้งใจจะจัดงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ แต่ก็ต้องรอดูต่อไปว่าสุดท้ายจะมีผู้นำ ทหาร และนักท่องเที่ยวต่างชาติมาร่วมงานได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากโควิด-19 ระบาดทั่วโลก
ส่วนตัวผมคิดว่าจะใช้โอกาสนี้เล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สอง นึกเรื่องอะไรน่าสนใจออกก็เขียน คงไม่ได้เรียงลำดับเหตุการณ์หรือจัดหมวดหมู่เนื้อหาเป็นพิเศษครับ เริ่มจากเรื่องแรกคือรถถัง T-34
แฟนเพจหลายท่านน่าจะพอทราบอยู่แล้วว่าตอนที่กองทัพเยอรมันเผชิญหน้ากับรถถัง T-34 เป็นครั้งแรก ไม่กี่วันหลังจากเริ่มปฏิบัติการบาร์บารอสซ่า (Operation Barbarossa) บุกสหภาพโซเวียตนั้น ฝ่ายเยอรมันถึงกับช็อกไปเลย จากคุณสมบัติหลายประการของรถถัง T-34 ที่เหนือกว่ารถถังของเยอรมันในขณะนั้น เช่นเกราะลาดเอียง ส่งผลให้ป้องกันกระสุนได้ดี ถึงขนาดบางครั้งเยอรมันยิงปืนใหญ่ขนาด 37 และ 50 มิลลิเมตร ใส่แล้วกระสุนเด้งออก นอกจากนี้ T-34 ยังมีสายพานกว้าง ปฏิบัติการในสภาพภูมิประเทศที่เป็นดินโคลนได้ดีกว่า ฯลฯ ภายหลังเยอรมันได้นำคุณสมบัติเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้งาน (ก็อบ) กับรถถังรุ่นใหม่คือ Panzer V Panther
คำถามสำคัญคือถ้ารถถังโซเวียตหลายรุ่นเช่น T-34, KV-1 และ KV-2 มีประสิทธิภาพเหนือกว่าของเยอรมัน เหตุใดจึงไม่อาจสกัดการรุกของหน่วยยานเกราะเยอรมันได้ หลายคนบอกว่าตอนนั้นรถถังเหล่านี้มีจำนวนน้อยเกินไป แต่ความจริงในปี 1941 โซเวียตก็มีรถถัง T-34 ประจำการแล้วถึงหนึ่งพันคัน เมื่อรวมกับรถถังรุ่นอื่นๆที่โซเวียตมีอยู่ประมาณสองหมื่นคัน ก็น่าจะเพียงพอที่จะสกัดกองทัพเยอรมันที่มีรถถังประมาณสามพันคัน ซึ่งในจำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นรถถัง Panzer I, Panzer II และ Panzer 38(t) ที่ขณะนั้นถือว่าล้าสมัยไปแล้ว ยุทโธปกรณ์อย่างอื่นโซเวียตก็มีมากกว่าเยอรมัน เรื่องจำนวนจึงไม่ใช่ปัญหา แล้วเหตุใดหน่วยยานเกราะของโซเวียตถึงสู้เยอรมันไม่ได้
คำตอบคือหลักนิยมและยุทธวิธีของโซเวียตล้าสมัย ในช่วงต้นสงครามโซเวียตวางแผนผิดพลาดเหมือนฝรั่งเศส คือกระจายรถถังที่จริงๆแล้วจำนวนและประสิทธิภาพมากกว่าของเยอรมันออกจากกัน แยกไปสนับสนุนทหารราบ ในขณะที่เยอรมันรวมรถถังไว้ด้วยกัน ส่งผลให้ในการปะทะกันแต่ละครั้ง ฝ่ายเยอรมันมักมีจำนวนรถถัง อำนาจการยิง และความคล่องตัวมากกว่า ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคืออุปกรณ์สื่อสาร รถถังเยอรมันทุกคันมีวิทยุ สามารถติดต่อประสานงานกันได้ตลอดเวลา แต่รถถังโซเวียต มีเฉพาะรถถังของผู้บังคับหน่วยเท่านั้นที่มีวิทยุ เวลาติดต่อกับรถถังคันอื่นๆในหน่วย ต้องเปิดฝาป้อมออกมาใช้สัญญาณธง ซึ่งในทางปฏิบัติ ระหว่างที่ยิงกันอยู่ไม่สามารถทำได้ หน่วยรถถังของโซเวียตจึงรบเหมือนคนตาบอด ต่างคนต่างเข้าปะทะ มีการติดต่อประสานงานกันน้อยมาก
นอกจากยุทธวิธีโดยภาพรวม รถถัง T-34 รุ่นแรกๆคือ T-34/76 รุ่นปี 1940 และ 1941 (ต่างกันที่ความยาวลำกล้องปืนใหญ่ 76 มิลลิเมตร) ก็มีจุดอ่อนสำคัญคือป้อมปืนมีขนาดเล็กมาก พื้นที่คับแคบ ระบบตรวจการณ์ไม่ดี ส่งผลให้มีคนในป้อมแค่ 2 นาย (รวมพลประจำรถทั้งหมด 4 นาย) ผบ. รถต้องทำหน้าที่เป็นพลยิงด้วย พูดง่ายๆคือต้องสั่งการ ตรวจการณ์ และยิงปืนไปพร้อมกัน (ถ้าเป็น ผบ. หน่วยก็ต้องสั่งการรถถังคันอื่นๆด้วย) ขาดความคล่องตัว สู้รถถัง Panzer III และ Panzer IV ของเยอรมันที่พลประจำรถ 5 นายมีประสบการณ์มากกว่าไม่ได้ นอกจากนี้รถถัง T-34 ยังไม่มีปืนกลหนักต่อสู้อากาศยาน ส่งผลให้ตกเป็นเป้าของเครื่องบินดำทิ้งระเบิด Ju-87 Stuka ของเยอรมันได้ง่าย
ปัจจัยเหล่านี้เองส่งผลให้หน่วยรถถังโซเวียตไม่สามารถเอาชนะหน่วยรถถังเยอรมันในช่วงต้นปฏิบัติการบาร์บารอสซ่าได้ ทั้งที่รถถังมีจำนวนและประสิทธิภาพมากกว่า
สวัสดี
04.03.2020
ภาพรถถัง T-34/76 รุ่นปี 1941 ของโซเวียต โดย Alan Wilson จาก
https://www.flickr.com/photos/ajw1970/38829236742/
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย