5 มี.ค. 2020 เวลา 08:09 • ประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่1
เริ่มต้น วันที่28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914
มกุฏราชกุมารแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีขณะเสด็จเยือนกรุงซาราเจโวเมืองหลวงของแคว้นบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนาก็โดนลอบสังหารโดยโดย กัฟรีโล ปรินซีป นักชาตินิยมชาวเซอร์เบียจึงเกิดชนวนทำให้เกิดสงครามขึ้น
สงครามโลกครั้งที่1 WWI
ฝ่ายสัมพันธมิตร มีอังกฤษ ฝรั่งเศษ อเมริกา รัสเซีย อื่นๆ รวมถึงไทยอีกด้วย
ฝ่ายมหาอำนาจกลาง มีจักรวรรดิเยอรมนี จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิออตโตมานและบัลแกเรีย
หลังจากการรบที่ยาวนานตั้งแต่ วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 รวมเวลากว่า 4 ปี 4 เดือน ในที่สุด ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะคือ ฝ่ายพันธมิตรที่มีแกนนำเป็น ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย ส่วนฝ่ายที่พ่ายแพ้คือ ฝ่ายมหาอำนาจกลาง ที่ประกอบด้วย จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิเยอรมนี ภายหลังสงครามได้มีการเซ็นสนธิสัญญาจำนวนมาก แต่สัญญาที่สำคัญคือ สนธิสัญญาแวร์ซายส์ (สนธิสัญญาสันติภาพ ซึ่งเป็นการยุติสถานะสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและจักรวรรดิเยอรมัน) เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1919
ผลกระทบของสงครามโลกครั้งที่ 1
ผลสำคัญอย่างหนึ่งคือ มีการวาดรูปแผนที่ยุโรปใหม่ ทำให้ประเทศมหาอำนาจสูญเสียดินแดนของตัวเองเป็นจำนวนมาก
•จักรวรรดิออสเตรีย- ฮังการี แตกออกเป็นประเทศใหม่ ได้แก่ ออสเตรีย ฮังการี เชโกสโลวาเกีย ยูโกสลาเวีย
•จักรวรรดิออตโตมานล่มสลายไป แผ่นดินเดิมของจักรวรรดิบางส่วน ถูกแบ่งให้กลายเป็นอาณานิคมของผู้ชนะสงครามทั้งหลาย
• เยอรมัน ต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมหาศาล
•จักรวรรดิรัสเซีย ได้สูญเสียดินแดนชายแดนด้านตะวันตกจำนวนมาก กลายเป็นประเทศใหม่ ได้แก่ เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนียและโปแลนด์
ขณะเดียวกัน ผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการก่อตั้ง สันนิบาตชาติ เป็นองค์การที่มีสมาชิกหลายประเทศ โดยมีจุดประสงค์อยู่ที่การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศด้วยวิธีการทางการทูตสหรัฐอเมริกาที่ได้เข้าร่วมรบ ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกเสรีเคียงคู่กับอังกฤษและฝรั่งเศส ส่วนรัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจโลกสังคมนิยม ต่อมาสามารถขยายอำนาจไปผนวกกับแคว้นต่าง ๆ เช่น ยูเครน เบลารุส ฯลฯ จึงประกาศจัดตั้งสหภาพโซเวียต (Union of Soviet Republics -USSR) ในปี ค.ศ. 1922
ส่วน สนธิสัญญาแวร์ซาย ที่ร่างโดยฝ่ายชนะสงครามให้กับเยอรมนีและสนธิสัญญาสันติภาพอีก 4 ฉบับให้กับพันธมิตรของเยอรมนีนั้น ก็เพื่อให้ฝ่ายผู้แพ้ยอมรับผิดในฐานะเป็นผู้ก่อให้เกิดสงคราม แล้วต้องเสียค่าปฏิกรรมสงคราม เสียดินแดนทั้งในยุโรปและอาณานิคม ต้องลดกำลังทหารกับอาวุธ และต้องถูกพันธมิตรเข้ายึดครองดินแดน จนกว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของสนธิสัญญา แต่เนื่องจากประเทศผู้แพ้ไม่ได้เข้าร่วมในการร่างสนธิสัญญา แต่ถูกบีบบังคับให้ลงนามยอมรับข้อตกลงของสนธิสัญญา จึงเกิดการต่อต้านในหลายประเทศ เช่น การก่อตัวของลัทธิฟาสซิสต์ในอิตาลี นาซีในเยอรมันและเผด็จการทหารในญี่ปุ่น ซึ่งในเวลาต่อมา ประเทศมหาอำนาจทั้ง 3 ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่างกัน เพื่อต่อต้านโลกเสรีและคอมมิวนิสต์ เรียกกันว่าฝ่ายอักษะ (Axis) มีการจัดตั้งองค์กรกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยและสันติภาพของโลกในอนาคต
โฆษณา